รวมเคล็ดลับ การดูแลรอยแดงจากสิวบนหน้าด้วยตัวเองกัน
รวมเคล็ดลับ การดูแลรอยแดงจากสิวบนหน้าด้วยตัวเองกัน
บอกเลยค่ะว่าปัญหาสิวเนี่ยคือกวนใจสุด ๆ นอกจากสิวจะสร้างความรำคาญใจไม่พอ ยังทิ้งรอยแดงไว้ให้กังวลใจอีกด้วย ในบทความนี้เราเลยรวมเคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยรักษารอยแดงจากสิวมาให้ แค่นี้เราก็สามารถดูแลรอยแดงจากสิวบนหน้าได้ด้วยตัวเองแล้วค่ะ
รอยแดงจากสิว เกิดจากอะไร
รอยแดงจากสิว อาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุค่ะ อย่างการอักเสบของสิวเกิดการขยายตัวของหลอดเลือด ส่งผลทำให้เกิดรอยแดง หรืออาจเกิดจากการแกะสิว บีบสิว จนเกิดรอยแผลเป็นสีแดง ผิวหนังบองบองแพ้ง่าย ทำให้ผิวมีเกิดรอยแดงจากสิวง่ายกว่าปกติ
8 วิธีดูแลรอยแดงจากสิวด้วยตัวเอง
- หลีกเลี่ยงการแกะสิว บีบสิว
การแกะสิว บีบสิว ถือเป็นสาเหตุหลักเลยที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น รวมทั้งยังทำให้รอยแดงจากสิวเข้มขึ้น ดังนั้นเมื่อเป็นสิว เราควรปล่อยให้สิวแห้งและหลุดลอกเอง
- ประคบเย็น
การประคบเย็นบริเวณที่มีรอยแดงจากสิว จะช่วยลดอาการอักเสบ และทำให้เส้นเลือดหดตัว ช่วยให้รอยแดงจากสิวดูจางลงได้ค่ะ
- ทายาที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือ Vitamin C
การทายาที่มีส่วนผสมของกรด AHA และ BHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิวของเรา และช่วยลดเลือนรอยแดงจากรอยดำจากสิว ส่วน Vitamin C จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดรอยแดงจากสิวให้จางไวยิ่งขึ้น
- การทาครีมกันแดด
แสงแดดถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รอยแดงจากสิวเข้มขึ้นค่ะ เราจึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ทุกวันเป็นประจำ แม้อยู่จะในร่มก็ตาม
การทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างการการทานผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดี และรอยแดงจากสิวดูจางลง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ส่งผลต่อสุขภาพผิว อาจทำให้รอยแดงจากสิวจางช้าลงได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ใน 1 วัน เราควรดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้ว เพราะ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
- รักษาความสะอาดของใบหน้า
ควรล้างหน้าให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และใช้โทนเนอร์ที่อ่อนโยน เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน และป้องกันสิวใหม่ที่อาจเกิดขึ้น
การรักษารอยแดงจากสิว อาจต้องใช้เวลาและความอดทนในการรักษา หากเพื่อน ๆ ลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้ว ผิวหน้าของเราก็จะสวยใสเลยค่ะ แต่หากใครที่มีอาการอักเสบหรือ รอยแดงจากสิวยังไม่จางลง หรือมีรอยแผลเป็น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคลนะคะ