หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บัวหลวงยอดนิยม 4 สายพันธุ์ไทยดั้งเดิม

เนื้อหาโดย ote1986

ดอกบัว เป็นดอกไม้ที่อยู่คู่คนไทยมาช้านานหลายยุคหลายสมัย เรามัคนิยมนำมาใช้ถวายพระ หรืแบูชาพระ วันนี้เรานำ

"  บัวหลวงไทย ดังเดิม  "  มาให้ทำความรู้จักกัน

 

บัวหลวง (The Sacred Lotus)

          บัวหลวงเป็นพืชน้ำที่มีความสำคัญยิ่ง โดยถือว่าเป็นราชินีแห่งพื้นน้ำที่มีความงามและประโยชน์นานัปการ นอกจากความสำคัญูทางพฤกษชาติแล้ว บัวหลวงยังมีความสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา ทั้งสัญลักษณ์และอามิสบูชา

          ในทางแห่งพระพุทธศาสนา ดอกบัวหลวงมีความสำคัญเกี่ยวข้องอยู่หลายประการกว่า ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบปัญญาขาแห่งบุคคลที่สามารถรู้และเข้าใจธรรมะ เพื่อความหลุดพ้น ๔ จำพวกด้วยกัน ดอกบัว ๔ เหล่านี้เปรียบได้กับดอกบัวที่ตั้งพ้นน้ำ รอสัมผัสแสงอาทิตย์ก็จะบานในวันนี้ คือผู้รู้เข้าใจธรรมะได้ฉับพลันตั้งแต่ท่านยกหัวข้อขึ้นแสดง ดอกบัวประเภทที่ ๒ ดั่งดอกบัวที่ตั้งอยู่เสมอน้ำ จักบานในวันรุ่งขึ้น เฉกผู้รู้เข้าใจต่อเมื่อท่านได้ขยายความแห่งธรรมะนั้น ประเภทต่อมาคือดอกบัวที่ยังอยู่ในน้ำยังไม่โผล่พ้นน้ำ จักบานในวันด่อ ๆ ไป คือผู้ที่พอจะแนะนำต่อไปได้เพื่อเข้าใจในธรรมะ ประเภทสุดท้ายคีอ ดอกบัวที่จมอยู่ในน้ำ กลายเป็นภักษาหารแห่งปลาและเต่าคือผู้ที่ได้แค่ตัวบทหรีอถ้อยคำเท่านั้น ไม่อาจจะเข้าใจความหมายรู้ในธรรมะได้ 

"  ดอกบัวหลวง สำหรับชาวพุทธถือว่ามีความสำคัญที่เป็นอามิสบูชา เกี่ยวข้องโดยตรงสำหรับการบูชาพระรัตนตรัย อันได้แก่พระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์  "

          บัวหลวงจึงมีความสาคัญในแง่ของพืชพันธุ์ธัญญาหาร และความรู้สึกทางจิตใจของมนุษย์มาช้านาน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

      บัวหลวง เป็นพืชในวงศ์ Nymphaeaceae อยู่ในสกุล Nelumbo เป็นไม้น้ำและไม้ล้มลุกหลายฤดู มีถิ่นกำเนิดแถบเอเชีย มีเหง้าและไหลอยู่ใต้ดิน ผังตัวอยู่ในโคลนเลน ใบเดี่ยวมีลักษณะกลมใหญ่สีเขียวอมเทา ใบอ่อนจะลอยปิ่มน้ำ ส่วนใบแก่จะชูพ้นน้ำ แผ่นใบเกือบกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 20-50 ซม. ก้านใบแข็ง มีหนามเล็ก ๆ เมื่อหักเป็นสายใยและมีน้ำยางขาว ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดใหญ่ มีสีขาวและสีชมพู มีทั้งดอกป้อมและดอกแหลม ก้านดอกแข็งมีหนามเล็ก ๆ ชูเหนือน้ำ กลีบดอกจำนวนมาก เรียงซ้อนกันหลายชั้น ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เมื่อดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-25 ซม. ดอกมีหลายรูปทรงและมีหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู แล้วแต่พันธุ์

  บัวหลวงในประเทศไทยสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ

          1. บัวหลวงสีขาว มี 2 พันธุ์ คือ 

          ❇️พันธุ์ Hindu lotus ดอกมีขนาดใหญ่ ดอกตูมเป็นรูปไข่ ปลายเรียว กลีบดอกชั้นเดียว ได้แก่ บุณฑริก ปุณฑริก บัวหลวงขาว บัวแหลมขาว 

          ❇️พันธุ์ Magnolia lotus ดอกมีขนาดใหญ่ ดอกตูมทรงป้อม กลีบดแอกซ้อนกันแน่น ได้แก่ สัตตบุษย์ บัวฉัตรขาว บัวป้อมขาว บัวหลวงขาวซ้อน 

          2. บัวหลวงพันธ์สีชมพู มี 3 พันธุ์ คือ

          ❇️พันธุ์ EastIndian Lotus ดอกมีขนาดใหญ่ ดอกตูมรูปไข่ ปลายเรียว กลีบดอกชั้นเดียว ได้แก่ ปทุม ปัทมา โกกระณต บัวหลวงชมพู บัวแหลมแดง

          ❇️พันธุ์ Roseum Plenum ดอกมีขนาดใหญ่ ดอกตูทรงป้อม กลีบดอกซ้อนกันแน่น ได้แก่ สัตตบงกต บัวหลวงป้อมแดง บัวฉัตรแดง

          ❇️พันธุ์บัวเข็มชมพู ดอกมีขนาดเล็ก ดอกตูมเรียวเป็นรูปไข่ กลีบดอกชั้นเดียว ได้แก่ บัวปักกิ่งชมพู บัวไต้หวัน บัวหลวงจีนชมพู

คุณค่าจากส่วนต่างๆ ของบัวหลวง

          บัวหลวง นอกจากดอกที่สามารถผลิตเพื่อการค้าได้แล้ว ส่วนต่างๆของบัวหลวงก็มีคุณค่าในเรื่องของการประกอบอาหาร และในเรื่องของการนำมาใช้เป็นยา ทางด้านเภสัชวิทยาพบว่า มีสารที่เป็นตัวยาสำคัญๆ เช่น สาร nuciferine มีฤทธิ์กดประสาท ต้านการอักเสบ ลดไข้ แก้ไอ และมีผลในการยับยั้งการหลั่งสาร serotonin โดยพบว่า 

          1. ดีบัว มีฤทธิ์เพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจ และเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ 

          2. ฝักบัว ฝักบัวประกอบด้วยสารกลุ่มแอลคาลอย 4 ชนิด ได้แก่ สาร nuciferine , N-nornuciferine liriodenine และ N-noramepavine และสารกลุ่มพาโวนอยด์ คือ quercitin ซึ่งมีฤทธิ์ในการห้ามเลือดได้เนื่องจากมีสาร quercitin

          3. เมล็ดบัว ใช้บำรุงร่างกาย แก้ไข้ซึ่งมีสารสกัดแอลกอฮอล์ต้านอนุมูลอิสระ สารสกัด แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ต้านความเป็นพิษของตับได้ในขนาด 300 mg/Kg  

         4. เกสรบัว เกสรบัวมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดจากน้ำของเกสรมีฤทธิ์ที่ต้านเชื้อก่อให้เกิดฝีหนอง เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วง และสารสกัดแอลกอฮอลืมีฤทธิ์ต้านเชื้อ B-steptococcus group A มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและยีสต์ 

          5. ใบบัว มีฤทธิ์ในการลดคลอเรสเตอรอล สารสกัดแอลกอฮอล์จากใบแห้งมีผลป้องกันไม่ให้ระดับคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง และสาร nuciferine มีฤทธิ์ในการกดประสาทต้านการอักเสบ ลดไข้ แก้ไอ มีผลยับยั้งการหลั่งสาร sertonin

          6. ก้านบัว เป็นสารสกัดแอลกอฮอล์จากก้านดอกในขนาด 200 และ 400 mg/kg มีฤทธิ์ลดไข้ในหนุทดลองปกติได้นาน 3 และ 6 ชั่วโมง ตามลำดับ และในหนูที่ทำให้เป็นไข้ด้วยยีสต์ได้นาน 4 ชั่วโมง โดยเปรียบเทียบกับยาพาราเซตามอล 

          7. รากบัว สามารถแก้อาการท้องเสีย สารสกัดจากเหง้าสามารถลดปริมาณของอุจจาระและการบีบตัวของลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดแอลกอฮอล์จากเหง้ามีฤทธิ์ลด น้ำตาลในเลือด ฤทธิ์ต้านการอักเสบ สารสกัดจากแอลกอฮอล์และสาร betulinic acid สกัดได้จากส่วนของเหง้ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เทียบเท่ายามาตรฐาน phenylbutazzone และ dexamethasone สารสกัดแอลกอฮอล์จากเหง้ามีผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และมีฤทธิ์เป็นยานอนหลับ ลดไข้ ลดอาการเกร็งของลำไส้เล็ก 

 บัวหลวงนับเป็นพันธุ์ไม้น้ำอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่า ที่มีประโยชน์ในด้านของปัจจัย 4 ที่มนุษย์ทุกคนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ทั้งในด้านการบริโภคโดยตรง หรือการนำมาใช้ในส่วนประกอบของยา ในการรักษาโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากคนไทยมองเห็นความสำคัญและสามารถปรับปรุงพันธ์ของบัวหลวงให้มีความพิเศษในด้านการสกัดสารมาใช้ประโยชน์ บัวหลวง ก็น่าจะเป็นพืชที่มีคุณค่าแก่วงการแพทย์ได้เป็นอย่างดี

บัวหลวงพันธุ์ดั้งเดิมของไทยแบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ 

❇️ปทุม / บัวแหลมแดง

ชื่อสามัญ : Sacred Lotus

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nelumbo nucifera Gaertn.

ชื่อไทย : บัวหลวงปทุม, บัวแหลมแดง ชื่อวงศ์ : Nelumbonaceae ถิ่นกําเนิด : ทวีปเอเชีย

ลักษณะใบอ่อน : ใบอ่อนที่แผ่ราบบนผิวน้ํา มีลักษณะกลม ปลายและโคนใบเว้าเล็กน้อย หน้าใบสีเขียว หลังใบสีเทาอมชมพู ลักษณะใบไม่จับน้ํา

ลักษณะใบแก่ : หน้าใบสีเขียว หลังใบสีเทา ขนาดใบ : 30 – 40 เซนติเมตร 

ลักษณะดอก

ดอกตูม : โคนดอกกว้างปลายเรียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร ยาว 7-9 เซนติเมตร สีเขียวอ่อน

ดอกบาน

กลีบดอก : ไม่ซ้อน มีสีชมพู โคนและปลายเรียว ตรงกลางกว้าง

เกสร : อับเรณูสีขาว ก้านอับเรณูสีเหลือง เกสรเพศเมียสีเหลือง

ทรงดอกบาน : แผ่ครึ่งวงกลม, แผ่ค่อน วงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 – 25 เซนติเมตร

ก้านใบและก้านดอก

มีลักษณะแข็ง เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร มีหนามสั้นกระจาย ทั่วทั้งก้านใบและก้านดอก สูงประมาณ 130 – 150 เซนติเมตร

 

❇️ปุณฑริก (บุณฑริกา) / บัวแหลมขาว 

ชื่อสามัญ : Hindu Lotus

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nelumbo nucifera Gaerth.

ชื่อไทย : บัวหลวงปุณฑริก, บัวหลวงบุญฑริก, บัวแหลมขาว ชื่อวงศ์ : Nelumbonaceae ถิ่นกําเนิด : ทวีปเอเชีย ลักษณะใบ ใบอ่อน : ใบอ่อนที่แผ่ราบบนผิวน้ํา มีลักษณะกลม ปลายและโคนใบคอดเว้า เล็กน้อย หน้าใบสีเขียวอ่อน หลังใบสีนวลเทา ใบแก่ : ใบที่ชูพ้นน้ําแล้ว หน้าใบสีเขียว หลังใบสีนวลอมเทาขนาดใบ 35 – 45 เซนติเมตร

ลักษณะดอก

ดอกตูม : ทรงดอกโคนกว้างปลายเรียว เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร ยาว 8 – 10 เซนติเมตร สีเขียวอ่อน

ดอกบาน

กลีบดอก : ไม่ซ้อน มีสีขาว โคนและปลายเรียวตรงกลางกว้าง ทรงดอกแผ่ครึ่งวงกลมหรือแผ่ค่อนวงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง : 25 – 30 ซม.

เกสร : อับเรณูสีขาว ก้านอับเรณูสีเหลือง เกสรเพศเมียสีเหลือง ก้านใบและก้านดอก

มีลักษณะก้านใบ และก้านดอกแข็ง เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร สีเทาอมเขียวอ่อน มีหนามสั้นแข็งกระจายทั่วทั้งก้านใบ และก้านดอก สูงประมาณ 130 – 150 ซม.

 

❇️ สัตตบงกช

ชื่อสามัญ : Double red Lotus

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nelumbo nucifera Gaertn.

ชื่ออื่น : Roseum Plenum

ชื่อไทย : บัวหลวงสัตตบงกช, บัวหลวงฉัตรแดง, บัวหลวงป้อม ชื่อวงศ์ : Nelumbonaceaeถิ่นกําเนิด : ทวีปเอเชีย ลักษณะใบ ใบอ่อน : ใบอ่อนที่แผ่ราบบนผิวน้ํา มีลักษณะกลม หัว – ท้ายคอด หน้าใบสีเขียว อ่อน หลังใบสีเทาอมชมพู ใบแก่ : ใบที่ชูพันน้ําแล้ว หน้าใบสีเขียว หลังใบสีเขียวอ่อน หรือ เทานวล ขนาดใบ : 30 – 45 เซนติเมตร

ลักษณะดอก

ดอกตูม : ทรงดอกโคนกว้างปลาย เรียว อ้วนป้อม ความอ้วนกับความสูงเกือบจะ เท่ากัน คือเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกสั้นกว่า ความยาวของตอกเพียงเล็กน้อยโคนสีเขียวอ่อน ปลายสีเหลือบชมพู

ดอกบาน

กลีบดอก : มีสีชมพูแก่ กลีบดอก และกลีบเกสรซ้อนมาก โคนกลีบกว้างปลายเรียว

เกสร : อับเรณูสีขาว ก้านอับเรณูสีเหลือง ชมพูอ่อน เกสรเพศเมียสีเหลือบชมพูอ่อน

ทรงดอก : แผ่ครึ่งวงกลม,ทรงป้อมรูปถ้วย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12-15 เซนติเมตร ลักษณะก้านใบและก้านดอก ก้านแข็ง เส้นผ่าน ศูนย์กลาง 1 – 1.5 เซนติเมตร เมื่อแก่จะเปลี่ยน เป็นสีน้ําตาลอ่อนเหลือบเขียว สูงประมาณ 130-150 ซม.

 

❇️ บัวฉัตรแดง❇️

ชื่อสามัญ : Double red Lotus

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nelumbo nucifera Gaertn.

ชื่ออื่น : Roseum Plenum ชื่อไทย : บัวหลวงสัตตบงกช, บัวหลวงฉัตรแดง, บัวหลวงป้อม ชื่อวงศ์ : Nelumbonaceae ถิ่นกําเนิด : ทวีปเอเชียลักษณะใบ ใบอ่อน : ใบอ่อนที่แผ่ราบบนผิวน้ํา มีลักษณะกลม หัว – ท้ายคอด หน้าใบสีเขียว อ่อน หลังใบสีเทาอมชมพู ใบแก่ : ใบที่ชูพันน้ําแล้ว หน้าใบสีเขียว หลังใบสีเขียวอ่อน หรือ เทานวล

ขนาดใบ : 30 – 45 เซนติเมตร 

ลักษณะดอก

ดอกตูม : ทรงดอกโคนกว้างปลาย เรียว อ้วนป้อม ความอ้วนกับความสูงเกือบจะ เท่ากัน คือเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกสั้นกว่า ความยาวของตอกเพียงเล็กน้อยโคนสีเขียวอ่อน ปลายสีเหลือบชมพู

ดอกบาน

กลีบดอก : มีสีชมพูแก่ กลีบดอก และกลีบเกสรซ้อนมาก โคนกลีบกว้างปลายเรียว

เกสร : อับเรณูสีขาว ก้านอับเรณูสีเหลือง ชมพูอ่อน เกสรเพศเมียสีเหลือบชมพูอ่อน

ทรงดอก : แผ่ครึ่งวงกลม,ทรงป้อมรูปถ้วย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12-15 เซนติเมตร ลักษณะก้านใบและก้านดอก

ก้านแข็ง เส้นผ่าน ศูนย์กลาง 1 – 1.5 เซนติเมตร เมื่อแก่จะเปลี่ยน เป็นสีน้ําตาลอ่อนเหลือบเขียว สูงประมาณ 130-150

การขยายพันธุ์

เมล็ด

โดยไหลซึ่งแตกจากเหง้าใต้ดิน ปลูกลงในบ่อในโคลนเลนโดยตรง หรือ ปลูกในกระถางทรงแบนให้ตั้งตัวก่อน แล้วนำไปวางในโคลนเลนให้แตกไหลออกมาและเจริญต่อไป

พันธุ์ที่ใช้ปลูก

 บัวหลวงขาว,บุณฑริก, ปุณฑริก ดอกจะมีสีขาว ทรงสลวย ดอกใหญ่

สัตตบุษย์, บัวฉัตรขาว ดอกจะมีสีขาว ทรงป้อม ดอกใหญ่

สัตตบงกช บัวฉัตรแดง ดอกจะมีสีชมพู ทรงป้อม ดอกใหญ่

ปทุม ประทุม ปทุมมาลย์ ปัทมา ดอกมีสีชมพู ทรงสลวย ดอกใหญ่

การปลูกและการดูแลรักษา

หลังจากปลูกไปแล้วหลายฤดู หากแตกไหลและใบจำนวนมากแล้ว จะทำให้ดอกมีขนาดเล็กลงจึงควรกำจัดวัชพืชที่ขึ้นปะปนออกให้หมด ตัดก้านใบที่อยู่ต่ำกว่าระดับออกให้หมดพร้อมทั้งให้ปุ๋ยจะแตกใบใหม่

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับสายพันธุ์ดอกบัวหลวงไทยที่นำมากันในวันนี้

เนื้อหาโดย: ote1986
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ote1986's profile


โพสท์โดย: ote1986
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: lo73l1, ote1986
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มจีนหน้าแตก ทดลองใช้เงินหยวนที่ไทย ชาวเน็ตเดือด ที่นี่ไม่ใช่ลาวแม่ชาวจีนเทน้ำใส่ลูกชายเพื่อสั่งสอน หลังลูกแกล้งเทน้ำใส่เพื่อนร่วมชั้นของเขาเปิดวาร์ป “เจ๊นุช-เมียหรั่ง” มือซ้าย-ขวา “แม่ตั๊ก” สนิทแค่ไหนเจ้าของนกหงส์หยกพูดได้ “น้องบี่บี้” ประกาศตามหาน้อง ตั้งรางวัล 1 แสนบาท
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ค้านประกัน ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ คืนนี้นอนคุก แจ้ง 3 ข้อหาหนักหนุ่มจีนหน้าแตก ทดลองใช้เงินหยวนที่ไทย ชาวเน็ตเดือด ที่นี่ไม่ใช่ลาว12 การ์ตูนแมวคือสายพันธุ์อะไรกันบ้างนะ?เปิดวาร์ป “เจ๊นุช-เมียหรั่ง” มือซ้าย-ขวา “แม่ตั๊ก” สนิทแค่ไหนเจ้าของนกหงส์หยกพูดได้ “น้องบี่บี้” ประกาศตามหาน้อง ตั้งรางวัล 1 แสนบาท
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
กรุงเทพฯ ครองใจนักท่องเที่ยวจีน สองปีซ้อน สะเทือนเพื่อนบ้านไทยแลนด์บูมสุดๆน้ำตาหลั่ง!! พบสุสานคู่รักจีน นอนกอดกันราวกับใน นิยายโบราณนักขุดแร่ในภูมิภาคยูเรกา ครีก ประเทศแคนาดา ค้นพบลูกช้างแมมมอธขนยาวโบราณหมดไฟในการทำงาน สัญญาณเตือน และวิธีรับมือ
ตั้งกระทู้ใหม่