สุนัขสายพันธุ์แพงที่สุดในโลก
😲 5 สายพันธุ์สุนัขราคาแพงที่สุดในโลกตลอดกาล
วันนี้มาเอาใจคสรักสุนัขกัน สำหรับคนที่รักสุนัข อยากเลี้ยงสุนัขสักตัว มีความพร้อมทั้งเวลา และปัจจัยที่จะดูแลเจ้าตัวน้อยให้อยู่กับคุณได้อย่างสบาย และมีความสุขที่สุด คนรักสุนัขมีความชอบที่แตกต่างกันไป บางคนชอบสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น เฟรนช์ บลูด็อก ชิวาวา ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน หรือชิสุห์ บางบ้านก็อยากได้สุนัขพันธุ์ใหญ่น่าฟัดน่ากอด แถมช่วยเฝ้าบ้านได้ เช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ลาบราดอร์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือสุนัขบางแก้ว อีกหลายบ้านใจดีมีความเมตตาเลือกอุปการะสุนัขพันธุ์ไทย สุนัขมือสองที่ถูกทอดทิ้ง ก็แล้วแต่ความชอบของคุณหรือสมาชิกทุกคนภายในบ้าน ขอเพียงแต่เลี้ยงพวกเขาให้ดี ให้มีแต่ความสุขก็เพียงพอ
คุณทราบหรือไม่ว่าในโลกนี้มีสุนัขหลายพันธุ์มีราคาแพงมาก หลายพันธุ์คงเป็นความใฝ่ฝันของคนรักสุนัขว่าอยากจะเป็นเจ้าของสักตัว สุนัขราคาแพงเหล่านี้จะมีพันธุ์อะไรกันบ้าง มาดูกันเลย
โลเชน (Löwchen)
ราคาประมาณ 62,000 – 250,000 บาท
สุนัขสายพันธุ์โลเชน เป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก ที่ถือว่ามีราคาแพงระดับโลก แถมยังติดอันดับสุนัขพันธุ์หายากที่เคยถูกบันทึกไว้ใน Guinness Book Records อีกด้วย โดยเป็นสุนัขหายากที่สุดในโลกปี ค.ศ. 1960 จากการจดบันทึกไว้ในปี ค.ศ 1969 พบว่า มีน้องหมาพันธุ์นี้เพียง 40 ตัวในโลกเท่านั้น
สุนัขสายพันธุ์โลเชนมีฉายาว่า สิงโตตัวน้อย หรือ Little Lion Dog เพราะมีขนาดตัวเล็ก และนิยมตัดขนคล้ายกับสิงคือ โกนที่ด้านหลังและขา แต่ปล่อยขนด้านหน้าไว้ตามธรรมชาติ สุนัขสายพันธุ์นี้มีนิสัยเป็นมิตรกับเด็ก และเหมาะสำหรับเลี้ยงไว้เป็นสุนัขของครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ซามอยด์ (Samoyed)
ราคาประมาณ 125,000 – 280,000 บาท
สุนัขสายพันธุ์ซามอยด์ ตัวใหญ่ สีขาวสวย น่ารัก น่ากอด ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มตลอเวลา เป็นสุนัขพันธุ์ที่ใครๆ ก็อยากได้เป็นเจ้าของ เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ติดอันดับมีราคาค่าตัวแพงที่สุดในโลก สุนัขสายพันธุ์ซามอยด์เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ย้อนไปกว่า 1,000 ปีก่อนคริสตกาล และไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตามากนักตั้งแต่เป็นนั้นมา
สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวซามอยด์ที่อาศัยอยู่ทางแถบไซบีเรีย ถูกเลี้ยงไว้เพื่อต้อนกวาง ลากเลื่อน ในสภาพอากาศหนาวเย็น และมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก โดยเจ้าของมักจะให้ซามอยด์เข้าไปนอนด้วยกัน เนื่องจากซามอยด์มีขนที่หนาฟู สร้างความอบอุ่นในสภาพอากาศหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี
ซามอยด์เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ฉลาด ตอบสนองได้ดี มีความคล่องตัวและรักการออกกำลังกาย ทำให้เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ก็ต้องดูแลเรื่องการแปรงฟันให้ดีเพราะน้องหมาพันธุ์นี้มีน้ำลายที่ค่อนข้างเยอะ จึงต้องการการดูแลช่องปากมากเป็นพิเศษ
ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
ราคาประมาณ 86,000 – 289,000 บาท
สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ในอดีตเป็นสุนัขที่พ่อค้าขายเนื้อนิยมเลี้ยงในประเทศเยอรมนี แต่ปัจจุบันเลี้ยงไว้เป็นสุนัขอารักขา เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ มีความดุ หวงอาณาเขต และมีน้ำหนักตัวมากถึง 61 กิโลกรัม
สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีมาตั้งแต่ยุคโรมัน โดยในอดีตถูกเลี้ยงไว้เพื่อปกป้องเหล่าทหารโรมันที่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาแอลป์และต้อนฝูงสัตว์ จึงทำให้ร่างกายมีโครงสร้างที่แข็งแรง ฉลาด ฝึกง่าย ชอบออกกำลัง อาจจะกลายเป็นสุนัขก้าวร้าวหากโดนแกล้งหรือถูกแหย่ให้โมโห แต่ถ้าเลี้ยงด้วยความรักและความอ่อนโยนก็จะมีนิสัยอ่อนโยนและใจเย็น หากใครอยากเลี้ยงสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ สำคัญที่เจ้าของที่ต้องใส่ใจดูแลคือ ต้องฝึกทักษะต่างๆ เพื่อให้พวกเขาอยู่ในการควบคุม และฝึกเข้าสังคมตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข รวมถึงพาออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล (Cavalier King Charles Spaniel)
ราคาประมาณ 34,000 – 502,000 บาท
ในอดีต สุนัขพันธุ์คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ไม่ได้หาซื้อมาเลี้ยงกันได้ง่ายๆ เพราะในศตวรรษที่ 16 สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสัตว์เลี้ยงของชนชั้นสูงในประเทศอังกฤษเท่านั้น สุนัขพันธุ์นี้ถูกตั้งชื่อตามกษัตริย์ คิง ชาร์ลที่ 2 (King Charles II) ของสหราชอาณาจักร ในปัจจุบัน ถ้าไม่นับเรื่องราคาที่สูงแล้วสุนัขพันธุ์คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลกลายเป็นสุนัขที่ผู้คนที่มีฐานะนิยมเลี้ยง เพราะมีนิสัยเป็นมิตร อ่อนโยน ร่าเริง และฝึกง่ายนั่นเอง
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)
ราคาประมาณ 53,000 – 5,900,000 บาท
สุนัขสายพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ เป็นพันธุ์ที่ครองแชมป์ราคาแพงที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่องตลอดกาล โดยสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์โบราณมีถิ่นอาศัยอยู่ในทิเบต หรือบริเวณเอเชียกลางไปถึงประเทศอินเดีย มีชื่อเรียกเฉพาะในภาษาท้องถิ่นว่า โทชี (Do-Khyi) แปลว่า สุนัขที่ต้องถูกผูกไว้ หรือ Tied Dog เพื่อป้องกันความปลอดภัยของบุคคลภายนอก เนื่องจากอุปนิสัยของเจ้าทิเบตัน มาสทิฟฟ์ที่หวงถิ่นฐานและดุร้าย มีความกล้าหาญและแข็งแกร่ง แต่ในความดุร้ายนั้น สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ หรือคนในครอบครัว ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ โดยจะเห่าเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น
ในประเทศจีนนิยมเลี้ยงทิเบตัน มาสทิฟฟ์ เพราะเป็นสุนัขที่สามารถบ่งบอกฐานะของผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี ในปี ค.ศ. 2011 มีนักธุรกิจชาวจีนได้ซื้อสุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ขนสีแดง ชื่อ เจ้า Big Splash ในราคาสูงถึง 4,600,000 บาท ยังมีนักธุรกิจชาวจีนอีกรายที่ซื้อเจ้าทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ในราคา 5,900,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกเลยทีเดียว
คนรักสุนัขคงคุ้นหู คุ้นตากันมาบ้างกับสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ที่นำมาให้รู้จัก แต่คงไม่นึกว่าราคาของพวกเขาจะแพงแสนแพงขนาดนี้ การดูแลสุนัข ยิ่งแพงมาก ก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูง จะสังเกตได้ว่าสุนัขส่วนมากจะเป็นสายพันธุ์ในประเทศที่มีอากาศหนาว มีขนหนา นำมาเลี้ยงที่บ้านเราคงลำบากพอสมควร แต่ก็เคยเห็นบ้างนะคะ ที่คนรักสุนัขทุ่มเท หามาเลี้ยงสมกับที่รักสุนัขสายพันุ์เหล่านั้นมากๆ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ไหนก็ตามหาท่านต้องการจะนำมาเลี้ยงควรศึกษาอุปนิสัย รวมถึงคำนึงถึงพื้นที่ อาหาร แล้วความพร้อมของท่านในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นั้นๆด้วยนะครับ