ครูร้อง สตง.สอบงบอาหารกลางวัน กินแค่ผัดมาม่า ต้องควักจ่ายเองทุกมื้อ
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภาค 6 จังหวัดอุดรธานี นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พาครูวิม อายุ 36 ปี ครูชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นำหลักฐานเอกสารการจ่ายงบประมาณอาหารกลางวันของโรงเรียน จากเทศบาลและเอกสารการซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารของโรงเรียน ที่มีพิรุธส่อเรื่องการทุจริต เพื่อให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบโรงเรียนแห่งนี้
โดยทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะรีบดำเนินการตรวจสอบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ มีพฤติกรรมการกระทำความผิดตามที่ผู้ร้องได้ส่งหลักฐานมาให้หรือไม่
สืบเนื่องจากมีผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่ครูวิมดูแลอยู่มาร้องตนว่า ลูกสาวทานอาหารกลางวันของโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ดูรูปภาพและคลิปอาหารกลางวัน ที่ครูเคยส่งรายงานให้ผู้ปกครองดูทางไลน์ มีเมนูผัดมาม่า ต้มยำไก่ กลัวลูกสาวจะไม่แข็งแรง จากนั้นได้ติดต่อไปยังครูวิม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงตามที่ผู้ปกครองแจ้งมา ว่ามีเมนูอาหารที่ไม่เป็นไปตามนโยบาย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดจริงหรือไม่
โดยครูวิมยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงเพราะงบในแต่ละครั้งที่ครูวิมได้เงินไปซื้อวัตถุดิบมาให้แม่ครัวทำอาหารแค่วันละ 1,400 บาทเท่านั้น บางวันครูต้องควักเงินเพิ่ม 100-200 บาทเพื่อซื้อของมาให้ครบแต่เบิกคืนไม่ได้
ซึ่งถือว่าจำนวนเงินดังกล่าวไม่สอดคล้องหรือตรงตามความเป็นจริงกับเงินที่โครงการฯ อนุมัติเงินมาให้กับเด็กนักเรียน 27 บาทต่อคน โดยโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 90 คน รวมเป็นเงิน 2,484 บาท แต่กลับโอนเงินมาให้ตนซึ่งเป็นครูที่ดูแลอาหารกลางวันเด็กเพียง 1,400 บาท ขาดไปถึง 1,084 บาท เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปีนี้ก็ 2 ปีกว่า
จากนั้นได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวันของโรงเรียน ปรากฏว่า งบที่ให้ใช้จริงต่อวันคือวันละ 2,430 บาท ต่อนักเรียน 90 คน ตกคนละ 27 บาท ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ แต่ผู้บริหารโรงเรียนกลับให้เงินครูไปซื้อของแค่วันละ 1,400 บาท คำถามคือแล้วเงินส่วนต่างหายไปไหน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการทุจริตในโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กนักเรียนโดยตรง เด็กนักเรียนควรได้รับอาหารที่ดีและมีคุณภาพเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อที่จะเติบโตและพัฒนาการได้อย่างสมวัย






















