หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ปลาสุดแปลกที่มีคนเลี้ยงจริง

เนื้อหาโดย ote1986

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่าจะกี่มีหรือหลายปีผ่านมา ปลาตู้ถือเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตของเราหลายๆคน และยังมีผู้นิยมเลี้ยงมากขึ้นเลื่อยๆ เนื่องจากมีราคาไม่สูงสามารถจับต้องได้ ร่วมถึงยังไม่ต้องใช้สถานที่มากใกนการเลี้ยงดู และวิธีการเลี้ยงที่ไม่ซับซ้อนไม่อยากเกินไป และยังใครความเพลิดเพลิน และยังสร้างความผ่อนคลายใก้กับผู้เลี้ยงอีกด้วย

วันนี้เราจึงมาแนะนำปลายสวยงามที่มีเอกลักษณ์เด่นสดุดแปลกตามาแนะนำ เผื่อใครบางรนอยากจะนำไปเลี้ยง หรืออาจจะนำไปประดับตู้ปลากันบ้าง ปลาต่างๆจะมีชนิดใดบ้าง หรือมีน่าตาเป็เช่นไรบ้างเราไปดูกันเลย

ปลาไหลมอเรย์

ปลาไหลมอเรย์ หรือ ปลาหลดหิน (อังกฤษ: Moray eel, Moray) เป็นวงศ์ของปลากระดูกแข็งวงศ์หนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Muraenidae อยู่ในอันดับปลาไหล (Anguilliformes)

มีรูปร่างเรียวยาวเหมือนปลาไหลทั่วไป ไม่มีครีบอก ครีบหลังเชื่อมต่อกับครีบก้นและครีบหาง โดยมีจุดเด่นร่วมกันคือ มีส่วนปากที่แหลม ไม่มีเกล็ดแต่มีหนังขนาดหนาและเมือกลื่นแทน เหงือกของปลาไหลมอเรย์ยังลดรูป เป็นเพียงรูเล็ก ๆ อยู่ข้างครีบอกที่ลดรูปเหมือนกัน เลยต้องอ้าปากช่วยหายใจเกือบตลอดเวลา คล้ายกับการที่อ้าปากขู่ นอกจากนี้แล้วภายในกรามยังมีกรามขนาดเล็กซ้อนกันอยู่ข้างใน ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงคอหอย แต่จะออกมาซ้อนกับกรามใหญ่เมื่อเวลาอ้าปาก ใช้สำหรับจับและขบกัดกินอาหารไม่ให้หลุด

ปลาไหลมอเรย์เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหาร ออกหากินในเวลากลางคืน โดยการล่าเหยื่อด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางกลิ่น ที่เป็นแท่งเล็ก ๆ ยื่นอยู่ตรงปลายปาก 2 แท่ง คล้ายจมูก ซึ่งอวัยวะส่วนนี้มีความไวต่อกลิ่นมาก โดยเฉพาะกลิ่นคาวแบบต่าง ๆ เช่น กลิ่นเลือดหรือกลิ่นของสัตว์ที่บาดเจ็บมีบาดแผล อาหารได้แก่ ปลาทั่วไป รวมถึงสัตว์ที่มีกระดองแข็งเช่น กุ้ง, กั้ง, ปู รวมถึงหมึกด้วย

โดยปกติแล้วปลาไหลมอเรย์จะอาศัยอยู่ตามโพรงหินหรือซอกปะการังในแนวปะการัง โดยยื่นแต่เฉพาะส่วนหัวโผล่ออกมาราว 1/4 ของความยาวลำตัว พร้อมกับอ้าปากส่ายหัว เพื่อป้องกันถิ่นที่อยู่อาศัยและหาเหยื่อ ที่จะออกมาว่ายน้ำนั้นจะเป็นช่วงเวลากลางคืนที่หาอาหาร
ปลาไหลมอเรย์มีกรามที่แข็งแรงและฟันที่แหลมคม แม้จะมีหน้าตาน่ากลัว แต่ไม่ใช่เป็นปลาที่ดุร้าย กลับกันกลับเป็นปลาที่รักสงบ แต่จะจู่โจมใส่ผู้ที่บุกรุก โดยหลายครั้งที่นักประดาน้ำไปเผลอรบกวนโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็อาจถูกกัดเป็นแผลเหวอะหวะถึงขั้นนิ้วขาดได้ เพราะฟันที่แหลมคมและการกัดที่ไม่ปล่อย และอีกช่วงที่ปลาไหลมอเรย์จะดุร้าย คือ ในฤดูผสมพันธุ์ [2]

ปลาไหลมอเรย์ มีทั้งหมดราว 70 ชนิด พบในทะเลเขตร้อนและอบอุ่นทั่วโลก ส่วนใหญ่มีสีสันและลวดลายสวยงามแตกต่างกันออกไปตามแตค่ละชนิดหรือสกุล แบ่งออกเป็น 2 วงศ์ย่อย ในบางชนิดที่มีขนาดเล็ก จะไม่ความยาวไม่เกิน 2 ฟุตและอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยหรือน้ำจืดได้ นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม[3] ขณะที่ชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ ปลาไหลมอเรย์ยักษ์ (Gymnothorax javanicus) ยาวได้ถึง 3 เมตร น้ำหนัก 36 กิโลกรัม[4]


ปลาเทพา (ปลาเลิม)

ลักษณะ
เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในจำพวกปลาไม่มีเกล็ดหรือปลาหนัง จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับปลาสวายและปลาเทโพ เป็นปลาไม่มีเกล็ดคล้ายปลาสวาย แต่ลำตัวจะสั้นกว่า มีส่วนหัวที่กว้าง แบน ใหญ่กว่า ครีบทุกครีบใหญ่ ยาว โดยเฉพาะก้านครีบแรก จะยาวเป็นเส้นออกมา ครีบไขมันมีขนาดเล็ก ลำตัวด้านบนเป็นสีดำ ช่วงใต้ลำตัวเป้นสีเงิน มีหนวดยาวพอประมาณที่ใต้ปากล่าง 1 คู่ มุมปาก 1 คู่ ใช้ในการหาอาหาร มีตาขนาดเล็ก เหนือมุมปากเล็กน้อย
เป็นปลากินเนื้อที่มีส่วนหัวค่อนข้างสั้นแต่มีลักษณะแบนและกว้าง มีลักษณะเด่นตรงที่มีก้านครีบอันแรกของครีบหลัง ครีบอก และครีบท้อง มีขนาดใหญ่และยื่นยาวเลยครีบออกไปมาก จึงดูสง่างามในเวลาว่ายน้ำมากกว่าปลาชนิดอื่นในวงศ์เดียวกัน

พฤติกรรม
รักสงบ ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปกติจะว่ายน้ำตลอดเวลา

อาหาร
ลูกกุ้ง ลูกปลา เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป ได้แก่ซากสัตว์ที่ตายลอยอยู่บนผิวน้ำ แต่ลูกปลาขนาดเล็กมักชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่และอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำนิ่ง กินแมลงน้ำ และสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร

การเลี้ยงดู
ปลาเทพาชอบน้ำที่ใสสะอาดมีการไหลเวียนอย่างดี มีพื้นที่ในการว่ายในตู้มาก เนื่องจากปลาจะว่ายตลอดเวลา คล้ายปลาฉลามอาจใส่เครื่องพ่นน้ำ ให้ปลาว่ายทวนน้ำอยู่กับที่ก็ได้
สามารถเลี้ยงรวมเป็นฝูงหลายๆตัวได้
ปลา เทพาในธรรมชาติจะกินซากสัตว์ที่ลอยน้ำมา หรือจับปลา กุ้งขนาดเล็กเป็นอาหาร ในที่เลี้ยงปลาจะกินอาหารได้หลายชนิดทั้งลูกปลาลูกกุ้งเป็นๆ หรือเนื้อสัตว์หั่นเป็นชิ้นๆ ปลาขนาดเล็กจะชอบกิน ไส้เดือนน้ำ ไรทะเล และฝึกให้กินอาหารสำเร็จรูปได้ดี เป็นปลาที่มีประสาทรับกลิ่นดี เพียงแค่อาหารถึงน้ำ หนวดทั้ง 4 เส้นจะกางออกและควานหาอาหารในทันที ปลาจะกินครั้งละมากๆ จนท้องกางออกมาเห็นได้ชัดเจน

เปคูแดง (ปลาคู้แดง)


ลักษณะของปลา
ลักษณะทั่วไปของปลาคู้แดง มีลำตัวแบนข้าง ส่วนท้องกว้าง บางชนิดมีจุดสีน้ำตาลและสีดำ บางชนิดข้างลำตัวส่วนล่างสีขาว, สีเหลืองและสีชมพู แล้วแต่ละชนิดแตกต่างออกไป
โดยปกติมีขนาดตั้งแต่ 15-25 ซม. (6-10 นิ้ว)ฟันมีความคมเรียงกันเป็นแถวเดียวบนขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง ฟันเหล่านั้นจะเรียงตัวกันแน่นเป็นระเบียบและเชื่อมต่อกัน เพื่อใช้ในการกัดและฉีกอย่างรวดเร็ว ฟันที่มีลักษณะเฉพาะของมันจะมีรูปแบบเป็นทรงสามเหลี่ยม คล้ายใบมีด ฝีปากล่างยื่นออกมายาวมากกว่าริมฝีปากบน แต่เมื่อหุบปากจะปิดสนิทระหว่างกันพอดี

แหล่งที่อยู่อาศัยและอาหาร
ปลาคู้แดง จะชอบพื้นที่ลุ่มที่มีการระบายน้ำได้ดี แต่ก็อาศัยได้ืั้ทั้งสภาพแวดล้อมที่เป็น แหล่งน้ำไหล และ แหล่งน้ำนิ่ง ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้ล่า และผู้กินซาก

ปลาเปคูหรือปลาคู้แดง เป็นปลาที่ชอบอาศัยรวมกันเป็นฝูง ปลาคู้แดงจัดเป็นปลาที่ตระกะกินได้ทั้งเนื้อและพืช เมื่อเจอเหยี่อยที่เป็นอาหาร ก็จะพุ่งเข้าโจมตี อย่างรวดเร็ว แล้วรุมกัดแทะ


ปลาฉนาก sawfish

ปลาฉนากจัดอยู่ในประเภทปลากระดูดอ่อนที่มีขนาดใหญ่ และมีรูปร่างคล้ายฉลามครับ เพราะมีซี่กรองเหงือก5ซี่เหมือนปลาฉลาม สีผิวมีสีเทาอมเขียว หน้าท้องนั้นจะมีสีขาวครับ และส่วนที่ทำให้ปลาตัวนี้จ๊าบ ก็คือ อวัยวะที่อยู่ทางด้านจะงอยปากครับมีลักษณะเป็นแท่งที่แข็งและยาวถึง1ใน3ของ ลำตัวจนถึงหาง รอบแท่งอันนี้จะมีซี่ แหลมๆอยู่โดยรอบ มองดูคล้ายใบเลื่อยจึงเป็นที่มาของชื่อภาษาอังกฤษ sawfish อวัยวะอันนี้นั้นใช้ในการป้องกันตัว และใช้หาอาหารครับ ซึ่งขนาดและจำนวนซี่จะมากน้อยแล้วแต่พันธุ์ครับ


ลักษณะ การหากิน
ปลาชนิดนี้มักจะหากินตามพื้นน้ำที่มีดินโคลนขุ่น หากินพวกสัตว์ที่อยู่หน้าดิน แบบปลากระเบนครับพบได้ในเขตอบอุ่น ตั้งแต่ทวีปอเมริกาเหนือ แอฟริกา เอเชีย และออสเตรเลียทางตอนเหนือ เป็นปลาทะเลที่บางสายพันธุ์
เช่น ฉนากจะงอยปากกว้าง สามารถปรับตัวให้อาศัยอยู่ในน้ำจืดได้ด้วยครับ

การขยายพันธุ์
เป็นปลาที่ออกลูกเป็นตัว ที่มีการผสมพันธุ์ในตัวปลาเอง ไม่ใช่แบบที่ปลาตัวเมียวางไข่แล้วปลาตัวผู้ค่อยมาฉีดเชื้อนะครับส่วนมันจะ ผสมกันยังไงอันนี้ ก็จิตนาการเอาเองแล้วกันครับ

สถานะ
เป็นปลาที่อยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์เต็มทีแล้วครับ ด้วยลักษณะเด่นของมันทำให้คนที่จับมันได้ตัดเอาจะงอยปากของมันเป็นเป็นของ ตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ หรือของที่ระลึกครับ

 

ปลาอะราไพม่า

ปลาอะราไพม่า หรือที่นิยมเรียกกันว่า ปลาช่อนยักษ์อเมซอน ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Arapaima gigas ในวงศ์ปลาตะพัด (Osteoglossidae) อันดับปลาลิ้นกระดูก (Osteoglossiformes) มีรูปร่างคล้ายปลาช่อน (Channa stiata) มาก เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มาก เกล็ดมีขนาดใหญ่ มีสีดำเงาเป็นมัน ครีบบน ครีบล่าง มีตำแหน่งค่อนไปทางหาง มีแถบสีแดง-ส้ม ตัดกับพื้นสีดำ มีลำตัวค่อนข้างกลมและเรียวยาว ส่วนหัวมีลักษณะแข็งมาก ส่วนลำตัวด้านท้ายมีลักษณะแบนกว้าง ในขณะที่ปลายังเล็กพื้นลำตัวจะมีสีเขียวเข้ม และลำตัวส่วนที่ค่อนไปทางหางจะเป็นสีดำ และรูปร่างจะออกไปทางทรงกระบอก เมื่อโตขึ้นบริเวณลำตัวและส่วนที่ค่อนไปทางหาง ครีบ และหาง จะปรากฏสีชมพูปนแดงหรือสีบานเย็นประแต้มกระจายอยู่ทั่วไป ปลาอะราไพม่า ไม่มีหนวดซึ่งแตกต่างไปจากปลาชนิดอื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน และเป็นปลาที่มีอัตราการ

เจริญเติบโตที่ไวมาก ภายในเวลาเพียง 1-2 ปี สามารถมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 3-5 เท่าได้ ปลาที่โตเต็มที่เท่าที่มีการบันทึกสถิติไว้คือยาว 4.5 เมตร น้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม พบในแม่น้ำอเมซอนและลุ่มน้ำสาขาในทวีปอเมริกาใต้ โดยชาวพื้นเมืองจะเรียกว่า พิรารูคู (Pirarucu) ขณะที่ชาวพื้นเมืองที่ประเทศเปรูจะเรียกว่า ไพชี่ (Phiche) โดยปลาชนิดนี้เป็นปลาที่ชาวพื้นเมืองใช้บริโภคกันในท้องถิ่น ปลาอะราไพม่ากินอาหาร ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร ในบางครั้งสามารถกินสัตว์เลือดอุ่นขนาดเล็กกว่าที่อยู่บนบก เช่น ลิง หรือ สุนัข หรือ นก ด้วยการกระโดดงับได้อีกด้วย จากการศึกษาพบว่า ปลาอะราไพม่าจะถึงวัยเจริญพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 4-5 ปีและจะมีอายุยืน มากกว่า 20 ปี ปลาเพศผู้ เพศเมีย สังเกตดูเพศจากภายนอกได้ยาก แต่ในฤดูผสมพันธุ์ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทวีปอเมริกาใต้ ปลาเพศเมียจะมีไข่ จะเห็นบริเวณท้องจะขยายใหญ่ขึ้นได้ชัดเจน ส่วนเพศผู้หัวและลำตัวจะสีเข้ม และสีแดงอมส้มแถบโคนหางได้ชัดเจน ในฤดูวางไข่ ปลาวัยเจริญพันธุ์จะตีแอ่งสร้างรังใต้น้ำ ในระดับความลึกประมาณ 40-50 เซนติเมตร ในบริเวณพื้นที่เป็นทราย แล้วนำหญ้า หรือพืชน้ำมาสร้างเป็นรัง พ่อแม่ปลาจะช่วยกันสร้างรัง จากนั้นตัวเมียจะวางไข่ แม่ปลา 1 ตัวสามารถมีไข่ได้เป็นหมื่น ๆ ฟอง และจะฟักเป็นตัวในเวลาประมาณ 3-4 วัน แม่ปลาจะฟักไข่หรือดูแลตัวอ่อนไว้ในปาก ส่วนพ่อปลาจะช่วยป้องกันอันตรายจนกว่าลูกปลาจะแข็งแรง และช่วยตัวเองได้ แม่ปลา 1 ตัว (อายุ 4 - 5 ปี) ที่สมบูรณ์เต็มที่ สามารถวางไข่ได้ถึง 180,000 ฟอง ไข่ของปลาชนิดนี้ มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1/8 - 1/4 นิ้ว ปลาอะราไพม่า เป็นปลาที่ได้รับความนิยมในแง่ของการเป็นปลาสวยงาม ซึ่งมีจุดเด่นคือ ความใหญ่โตในรูปร่าง ซึ่งปลาอะราไพม่าจัดได้ว่าเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดความยาวที่สุดในโลก (ปลาบึก (Pangasianodon gigas) ที่พบในแม่น้ำโขง มีความยาวสั้นกว่า แต่มีน้ำหนักตัวที่มากกว่า) ในประเทศไทยปลาชนิดนี้ถูกนำเข้ามาครั้งแรกราวปี พ.ศ. 2529 และได้รับความนิยมสูงสุดในปี พ.ศ. 2530

ตราบจนปัจจุบัน ซึ่งปลาอะราไพม่าแม้จะมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ดูดุร้ายก็ตาม แต่เมื่อนำมาเลี้ยงใน สถานที่เลี้ยงแล้ว แม้ในปลาขนาดใหญ่กลับไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวกับมนุษย์เลย ผู้เลี้ยงสามารถลงไปปล้ำไล่จับปลาเล่นได้ โดยที่ปลาไม่ขัดขืนหรือทำอันตรายใด ๆ ปัจจุบัน สามารถเพาะขยายพันธุ์ในบ่อดินขนาดใหญ่ได้แล้ว ในประเทศมาเลเซียและไทย

 

ปลาอัลลิเกเตอร์ ( ปลาจระเข้ )

ทำความรู้จักกับ “ปลาอัลลิเกเตอร์”

“ปลาอัลลิเกเตอร์” เป็นปลาสุดแปลกยุคดึกดำบรรพ์ที่มีการขยายพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันซึ่งมันจัดอยู่ในประเภทปลากินเนื้อขนาดใหญ่ 6 – 7 ฟุตในกลุ่มของปลาการ์ พบได้ตามแหล่งน้ำจืดอย่างแม่น้ำ บึง และทะเลสาบทางอเมริกาตอนใต้ ซึ่งหากเป็นคนอเมริกาจะรู้เลยว่าหากเจอปลาอัลลิเกเตอร์ย่อมต้องไม่ควรเข้าหามันและรีบหนีโดยเร็วที่สุด เพราะมันมีปากที่ยาวออกคล้ายกับจระเข้หรืออัลลิเกเตอร์ อีกทั้งปากของมันยังมีฟันรูปเพชรที่แหลมคมมากถึง 500 ซี่ด้วยกันซึ่งมีความคมมากพอจะได้รับแผลฉกรรจ์เมื่อถูกกัดได้สมฉายาเขาจริง ๆ แม้แต่รูปร่างของปลาอัลลิเกเตอร์ก็ยังป้อมยาว บริเวณลำตัวสีเทาออกดำมีเกร็ดคล้ายจระเข้ ด้านข้างครีบเล็กใต้ท้อง 2 ครีบคู่ ใต้ท้องสีขาว บริเวณปลายหางมีครีบใหญ่อีก 2 ครีบรูปใบพัดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่ามันเป็นปลาไม่ใช่จระเข้!

การดำรงชีวิตของ “ปลาอัลลิเกเตอร์”

“ปลาอัลลิเกเตอร์” มักจะนิยมอยู่ในแหล่งน้ำจืดที่มีลักษณะติดป่าดิบชื้นมีความเป็นน้ำกร่อยหรือน้ำโคลนก็อยู่ได้เพราะสำหรับมันแล้ว น้ำที่มีความเข้มข้นคุณภาพต่ำเช่นนี้จะช่วยให้มันพรางตัวหาเหยื่อได้ดีและยังมีความสามารถพิเศษกว่าปลาอื่นในการหายใจขึ้นมาเอาอากาศจากบนบกได้ด้วย ซึ่งหากเจอมนุษย์มันก็จะพุ่งเข้าไปทำร้ายจนกลายเป็นที่หวาดผวาของผู้คนมากเพราะในยุคอดีตปลาอัลลิเกเตอร์มีนิสัยที่ค่อนข้างดุร้ายกว่าสมัยนี้เยอะ อีกสาเหตุหนึ่งอาจจะเพราะมนุษย์ในอดีตส่วนมากมักจะเป็นพวกชนเผ่าอเมริกาใต้ที่เข้าไปขัดขวางการดำรงชีวิตออกหาอาหารประจำวันของพวกมันเพื่อนำฟันของปลาอัลลิเกเตอร์มาทำปลายแหลมของศรธนูทำให้เกิดการต่อสู้ ซึ่งโดยปกติแล้วปลานี้จะออกหากินวันละ 2 ครั้งเลยทีเดียวเพราะกระเพาะค่อนข้างใหญ่และหนักก่อนจะรีบกลับไปยังที่พักของมันและไม่ออกมาป้วนเปี้ยนพร่ำเพรื่อใด ๆ

อาหารสุดโปรดของ “ปลาอัลลิเกเตอร์”

“ปลาอัลลิเกเตอร์” มีอาหารสุดโปรด ได้แก่ ปลาและสัตว์ปีกที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำจืดในถิ่นของมันอย่างพวกนกเป็ดน้ำ โดยจะจับเหยื่อล็อกแน่นด้วยกรามทันทีไม่ให้ขยับหนีออกไปไหนได้ก่อนจะกลืนกินเหยื่อลงคอไป ไม่ค่อยได้ใช้วิธีการกัดเหยื่อนักหากไม่จำเป็นต้องแบ่งเหยื่อออกเป็นชิ้นเพราะเหยื่อเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่

เป็นอย่างไรกันบ้างคับกับปลาแปลกๆที่นำมาฝากกันวัน มีชนิดไหนถูกใจกันบ้างคับ เม้นบอกกันได้นะคับ

เนื้อหาโดย: ote1986
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ote1986's profile


โพสท์โดย: ote1986
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ote1986
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพจดังแฉ! แก๊งอินฟลูตลาดล่างแห่ลบหลักฐาน หลังแบงค์ เลสเตอร์เสียชีวิต พร้อมเปิดข้อมูลใหม่โยงโปรโมทเว็บwนันออนไลน์เผยนาทีก่อนสิ้นใจแก๊งอินฟลูฯ ตลาดล่าง เข็นแบงค์เลสเตอร์ ส่ง รพ. พร้อมเสียงหัวเราะเซลฟี่ฮอตปรอทแตก! 'สน ยุกต์ อวดซิกส์แพ็ก แต่น้องแมว ขโมยซีนหัวใจสลาย! ยายแบงค์ เลสเตอร์ เล่าความรู้สึกเหมือนหลานถูกพาไปฆ่ๅควงกระบองไฟในงาน Bike Week กลายเป็นเหตุไฟไหม้โทษแรงเกิน? เด็กปั๊มเบลอยาแก้ไอ เติมน้ำมันไม่ครบ โดนไล่ออกทันที"รำลึก 24 ปี God Army บุกยึด รพ.ราชบุรี จับประชาชนเป็นตัวประกัน7 ทรงผมผู้ชายแห่งปี 2025 เทรนด์ใหม่สุดปังที่คุณไม่ควรพลาด10 โรคที่เป็นแล้วไม่หาย😊 ชวนเข้ามาพบกับการแบ่งปัน เรื่องบังเอิญที่จะทำให้คุณมีรอยยิ้ม 😄เส้นดำๆ หลังกุ้งคืออะไร? กินได้ไหม?ทำดีๆ เราเป็นดารา! โบว์ เมลดา โชว์สเต็ปสุดเหวี่ยง งานเลี้ยงบริษัทฮาแตก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อั้น ภาณุพงศ์ ซัดเดือด! แบงค์ เลสเตอร์ ถูกใช้เป็นเหยื่อเศษเงินคนรวยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ ผู้ที่ชื่นชอบการเชียร์กีฬาอย่างสุดเหวี่ยง อาจทำให้เกิดริ้วรอยและหน้าแก่ก่อนวัยได้เกวียนไม้โอ๊คอายุ 4,000 ปี : ยานพาหนะล้อที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ร้านอาหารสนามบิน นทท.ชาวจีนเข้ามานั่งพร้อมใช้งานโน็ตบุ๊คโดยไม่สั่งอะไรเลยนาน 30 นาที ทำเจ้าของร้านเหลืออด"วงเวียนหอนาฬิกาปัตตานี" สัญลักษณ์แห่งเมือง ปัตตานี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทำอย่างไร ถึงเป็นคนที่มีแต่ "ความสุขใจ"รำลึก 24 ปี God Army บุกยึด รพ.ราชบุรี จับประชาชนเป็นตัวประกัน7 ทรงผมผู้ชายแห่งปี 2025 เทรนด์ใหม่สุดปังที่คุณไม่ควรพลาดYouTube มีแผนจะลบวิดีโอประเภท Clickbait ที่หลอกลวงผู้บริโภค โดยจะเริ่มที่อินเดียเป็นที่แรก
ตั้งกระทู้ใหม่