หนุ่มตาบอด ถูกญาติโกง ยึดที่ดิน หลอกเซ็นเอกสารมอบกรรมสิทธิ์
นายลิขิต ชายตาบอด อายุ 36 ปี ชาวนครราชสีมา ร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกญาติแท้ ๆ โกงที่ดิน 6 ไร่ ในพื้นที่วังน้ำเขียว โดยญาติอ้างว่านายลิขิตเซ็นเอกสารมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับตน แต่นายลิขิตยืนยันว่าตนไม่ได้เซ็นเอกสารดังกล่าว เนื่องจากตนมองไม่เห็นมาตั้งแต่อายุ 12 ปี
ตนเคยไปกู้เงินจากญาติ 20,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ส่งเดือนละ 2,000 บาท ตอนนั้นตนคิดว่าเซ็นเอกสารเงินกู้ แต่ต่อมาญาติกลับบอกว่าตนเซ็นมอบที่ดินให้ตนแล้ว ทั้งที่ตนไม่เคยเห็นเอกสารดังกล่าวมาก่อน ซึ่งเป็นที่ดินที่มีราคา ใบโฉนดที่ดินตนเคยไปแจ้งหายไว้ แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่เขาได้อย่างไร
ยอมรับว่าไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้ญาติจริง แต่ญาติก็มายึดที่ดินของตน โดยอ้างว่าตนไม่จ่ายดอกเบี้ย และบอกว่าจะไล่คนในบ้านออกทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้นายลิขิตได้บริจาคที่ดินส่วนหนึ่งเพื่อทำแทงก์น้ำให้คนในหมู่บ้านได้ใช้ด้วย
นายลิขิตแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา แต่เรื่องยังเงียบอยู่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จึงพานายลิขิตไปกระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
การกระทำของญาตินายลิขิตเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้พิการ และนายลิขิตถือเป็นคนที่เสียสละคนหนึ่ง เพราะเคยบริจาคที่ดินให้หมู่บ้านสร้างสาธารณประโยชน์ จึงอยากให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงและคืนความเป็นธรรมให้กับนายลิขิต
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความคุ้มครองสิทธิของผู้พิการ โดยเฉพาะสิทธิในทรัพย์สิน ซึ่งผู้พิการอาจตกเป็นเหยื่อของการเอารัดเอาเปรียบได้ง่าย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรมีมาตรการป้องกันและคุ้มครองสิทธิของผู้พิการอย่างเข้มงวด