7 เทคนิคขับรถลุยน้ำให้ปลอดภัย
7 เทคนิคการขับรถลุยน้ำให้ปลอดภัย
ทุกคนคงมีความจำเป็นที่จะต้องขับรถผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังกันบ้าง หากเจอเหตุการณ์เราควรปฏิบัติยังไง วันนี้เราชาวแว่นขยายจะมาแนะนำให้ปฏิบัติตาม 7 เทคนิคเหล่านี้กันได้เลย
1.สังเกตความลึกของระดับน้ำเพื่อประเมินสถานการณ์ ก่อนที่จะขับรถลุยน้ำ ควรประเมินความลึกของระดับน้ำก่อน หากความสูง ของน้ำประมาณครึ่งล้อรถยนต์ก็ยังพอสามารถขับผ่านได้ หรืออาจสังเกตได้ จากระดับของทางเท้า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีความสูงอยู่ ประมาณ 10-20 เซนติเมตร หากน้ำท่วมเลยระดับทางเท้า หรือสูงกว่าประตู รถยนต์ แนะนำให้หาเส้นทางทดแทนหรือรอให้น้ำลดลงก่อน หากฝืนขับฝ่า ไป อาจทําให้น้ำเข้าห้องโดยสาร ส่งผลให้ระบบไฟช็อต และเครื่องยนต์ดับ กลางทางได้
2.เลือกขับบนเลนถนนที่มีระดับน้ำตา การเลือกเลนถนนที่มีระดับน้ำท่วมขังตา สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่น้ำจะ เข้าเครื่องยนต์ได้ นอกจากนี้ไม่ควรเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวรถกลับอย่าง กะทันหัน เพราะอาจทำให้รถยนต์สูญเสียการควบคุมได้
3.ชะลอความเร็ว ไม่เร่งเครื่องยนต์ และใช้เกียร์ต่ำ หากมีความจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำควรชะลอความเร็วไว้ก่อน ค่อยๆ ขับช้าๆ เพราะหากขับด้วยความเร็วอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้ ที่สำคัญห้ามเร่ง เครื่อง หรือเปลี่ยนเกียร์กะทันหัน ควรใช้เกียร์ตา เพราะเป็นสภาวะที่ เครื่องยนต์ดับได้ยากที่สุด และให้เหยียบเบรกเบาๆ ย้าๆ จะช่วยไล่น้ำและความชื้นออกจากเครื่องยนต์ได้
4.ปิดเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ การปิดเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ จะช่วยลดระดับน้ำที่กระจายเข้าห้อง เครื่องได้กว่า50% เพราะหากเปิดไว้พัดลมแอร์จะพัดน้ำเข้าไปในเครื่อง ทำให้มีโอกาสลัดวงจร หรือระบบภายในขัดข้องได้ นอกจากนี้ควรระวังขยะ ที่ลอยมากับน้ำ ที่มีโอกาสเข้าไปติดมอเตอร์พัดลม ซึ่งอาจทำให้ระบบระบาย ความร้อนในเครื่องยนต์ฟังได้เช่นกัน
5.รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าเดิม 2-3 เท่า การขับรถลุยน้ำทำให้ระบบเบรกของรถยนต์มีประสิทธิภาพลดลง เพื่อความ ปลอดภัยในการขับขี่ ควรรักษาระยะห่างระหว่างรถคันข้างหน้าให้มากกว่า เดิม 2-3 เท่า เพื่อความปลอดภัยเวลาเบรครถ
6.หากเครื่องยนต์ดับกลางทาง ห้ามสตาร์ทเครื่องใหม่ หากตัดสินใจขับรถลุยน้ำไปแล้ว แต่เครื่องยนต์ดับระหว่างทาง ควรเข็นรถ ออกให้พ้นระยะที่มีระดับน้ำสูง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่รถยนต์ และห้ามสตาร์ทเครื่องรถยนต์ใหม่เด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำยิ่งเข้าสู่ระบบ เครื่องยนต์ ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
7.ทั้งนี้คุณควรสังเกตระบบการทำงานของรถยนต์ที่ขับขี่อยู่ หากสังเกตว่ามี การสูญเสียกำลังขับเคลื่อน เกิดเสียงผิดปกติหรือเครื่องยนต์เริ่มดับ นั่นเป็น สัญญาณเตือนว่าควรออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังให้เร็วที่สุด