ขลุ่ยเรียกวิญญาณ
ขลุ่ยเรียกวิญญาณ
ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อนนท์ เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ยากจน นนท์เป็นเด็กที่เงียบขรึมและชอบอยู่คนเดียว เขามักจะใช้เวลาว่างในการเล่นดนตรี โดยเฉพาะขลุ่ย
วันหนึ่ง นนท์กำลังเล่นขลุ่ยอยู่คนเดียวในบ้าน เขาเล่นเพลงที่ไพเราะและเศร้าสร้อย ทันใดนั้น นนท์ก็ได้ยินเสียงดังมาจากหน้าต่าง เขาหันไปมองก็เห็นชายแก่คนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ชายแก่คนนั้นสวมเสื้อคลุมสีดำยาวและหมวกปีกกว้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
นนท์ตกใจ เขารีบหยุดเล่นขลุ่ย ชายแก่คนนั้นก็เดินจากไป
วันต่อมา นนท์กำลังเล่นขลุ่ยอยู่คนเดียวในบ้านอีกเช่นเคย เขาเล่นเพลงที่สนุกสนาน ทันใดนั้น นนท์ก็ได้ยินเสียงดังมาจากหน้าต่าง เขาหันไปมองก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าต่าง หญิงสาวคนนั้นสวมชุดสีขาวยาวและผ้าคลุมหน้า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
นนท์ตกใจ เขารีบหยุดเล่นขลุ่ย หญิงสาวคนนั้นก็เดินจากไป
นนท์เริ่มสังเกตเห็นว่า ทุกครั้งที่เขาเล่นขลุ่ย มักจะมีวิญญาณมาปรากฏตัวที่บ้านของเขา เขาไม่รู้ว่าทำไมขลุ่ยของเขาถึงมีพลังดึงดูดวิญญาณได้
วันหนึ่ง นนท์กำลังเล่นขลุ่ยอยู่คนเดียวในบ้าน เขาเล่นเพลงที่เศร้าสร้อย ทันใดนั้น นนท์ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากหน้าต่าง เขาหันไปมองก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เด็กผู้หญิงคนนั้นสวมชุดนักเรียนสีขาวและผ้าพันคอสีฟ้า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
นนท์ตกใจมาก เขารีบหยุดเล่นขลุ่ย เด็กผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งหนีไป
นนท์ตัดสินใจที่จะไปหาหมอผีเพื่อขอความช่วยเหลือ หมอผีบอกว่า ขลุ่ยของนนท์เป็นขลุ่ยเรียกวิญญาณ ขลุ่ยชนิดนี้ทำจากไม้ที่มีอายุนับพันปี ไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการดึงดูดวิญญาณ
หมอผีบอกนนท์ว่า เขาต้องระวังไม่ให้วิญญาณร้ายมาหลอกหลอนเขา นนท์จึงต้องหยุดเล่นขลุ่ยและเก็บขลุ่ยไว้ให้มิดชิด
นนท์ทำตามคำแนะนำของหมอผี เขาหยุดเล่นขลุ่ยและเก็บขลุ่ยไว้ในห้องนอนของเขา เขาพยายามลืมเรื่องวิญญาณที่ปรากฏตัวที่บ้านของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถลืมได้
คืนหนึ่ง นนท์กำลังนอนหลับอยู่ เขาฝันถึงเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เด็กผู้หญิงคนนั้นบอกนนท์ว่า เธอถูกฆ่าตายโดยชายแก่คนนั้น เธอขอให้นนท์ช่วยเธอ
นนท์ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขารู้ว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง เขาตัดสินใจที่จะกลับไปหาหมอผี
หมอผีบอกนนท์ว่า เขาต้องหาทางสะเดาะเคราะห์ให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น นนท์จึงไปหาวัตถุมงคลจากวัดต่างๆ มาบูชาที่บ้านของเขา เขายังทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น
หลังจากทำพิธีสะเดาะเคราะห์ผ่านไปหลายวัน วิญญาณของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หายไป นนท์รู้สึกโล่งใจ เขาคิดว่าในที่สุดเขาก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้
แต่แล้ว วันหนึ่ง นนท์ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากหน้าต่าง เขาหันไปมองก็เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าต่างอีกครั้ง เด็กผู้หญิงคนนั้นมองมาที่นนท์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ
นนท์รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นขอบคุณเขาที่ช่วยเธอให้หลุดพ้นจากวิญญาณร้าย นนท์รู้สึกดีใจที่เขาสามารถช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นได้
นนท์ตัดสินใจที่จะเก็บขลุ่ยไว้ เขาจะใช้ขลุ่ยของเขาเพื่อช่วยเหลือวิญญาณที่ทุกข์ทรมานต่อไป