ต่างชาติชวนทำ22กิจกรรม ในกรุงเทพฯ

ผู้เขียนเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางมากรุงเทพฯ ครั้งแรกในปี 2004 หลังจากนั้นก็มาอีกหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน และเคยอาศัยอยู่ในเมืองไทย2-3ปี  โดยบอกว่าที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่เค้าชอบที่สุดในโลก เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสนุก มีชีวิตชีวา วุ่นวาย มีกิจกรรมด้านอาหารและวัฒนธรรมมากมาย ได้เขียนคำแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติคนอื่นๆถึง 22 กิจกรรมยอดนิยมที่ควรดูและทำในกรุงเทพฯ มาดูกันว่าเค้าแนะนำอะไรบ้าง

 

1. ทัวร์เดินชมเมือง ฟรี

สิ่งแรกที่ฉันทำเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางใหม่คือการเข้าร่วมทัวร์เดินเท้าฟรี คุณจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และได้สัมผัสถึงวัฒนธรรม เหนือสิ่งอื่นใด คุณจะมีไกด์ท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญซึ่งสามารถช่วยตอบทุกคำถามที่คุณมีและให้คำแนะนำแก่คุณได้ อย่าลืมให้ทิปไกด์ของคุณ! แต่หากคุณต้องการสำรวจให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ทัวร์ปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ ก็เป็นทางเลือกที่ดี (แต่ต้องเสียเงิน)

 

2. ชมพระบรมมหาราชวังที่สวยงามในกรุงเทพฯ

พระบรมมหาราชวังถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี 1782- -1785 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อราชธานีย้ายจากธนบุรีมากรุงเทพฯ เป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของกษัตริย์ ซึ่งปัจจุบันพระองค์ไม่ได้ประทับอยู่ที่นั่นแล้ว (ใช้เพื่อประกอบพิธีเท่านั้น) พระราชวังแห่งนี้ซ่อนอยู่หลังกำแพงคอนกรีตสูง และไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่เพียงหลังเดียว แต่เป็นที่รวมวัด เจดีย์ (บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ) งานแกะสลัก รูปปั้น และพระแก้วมรกตที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 อย่าลืมสวมเสื้อผ้าที่คลุมขา ไหล่ และหน้าท้อง หากไม่ได้เตรียมมา คุณสามารถเช่ากางเกงหรือเสื้อได้ที่นั่น

 

3. เยี่ยมชมวัดโพธิ์และวัดอรุณ

วัดโพธิ์หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดพระพุทธไสยาสน์มีชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูปปางไสยาสน์ทองคำขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี 1832 สูง 15 เมตร (49 ฟุต) และยาว 46 เมตร (150 ฟุต) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง วัดนี้มีภาพนูนต่ำนูนสูง รูปปั้น และสถาปัตยกรรมมากมายให้ชม และยังมีโรงเรียนแพทย์แผนไทย(ถือเป็นโรงเรียนสอนนวดไทยที่ดีที่สุดในประเทศ) และบริการนวดไทยอันเลื่องชื่อก็ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เมื่อเดินถ่ายรูป และเที่ยวชมสถานที่เสร็จแล้ว คุณสามารถมารับบริการนวดเผื่อผ่อนคลาย อย่าลืมมาถึงช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ๆ ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องรอคิวอย่างน้อย 45 นาทีในการนวด

วัดอรุณ (วัดรุ่งอรุณ) เป็นวัดที่งดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา (อยู่ตรงข้ามพระบรมมหาราชวังอีกฝั่งของแม่น้ำ) จากยอดพระปรางค์ คุณจะเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของเมือง ด้านหน้าอาคารที่ปูกระเบื้องอย่างประณีตสะท้อนแสงอย่างสวยงามในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เป็นวัดที่ฉันชอบที่สุดในเมือง

 

4. สัมผัสถนนข้าวสาร

นี่คือเมืองหลวงของแบ็คแพ็คเกอร์ทั่วโลก ถนนข้าวสาร เป็นศูนย์กลางของแบ็คแพ็คเกอร์ในเอเชียมาตั้งแต่ยุค 80 แม้ว่าตอนนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยบาร์ ร้านขายของกระจุกกระจิก และแผงลอยริมถนนที่วุ่นวาย แต่ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ที่น่าสนุกสำหรับการใช้เวลา แม้ว่าคุณจะไม่ได้พักอยู่ในบริเวณนั้นก็ตาม แวะมาจิบเครื่องดื่ม สั่งแพนเค้กกล้วยหอม ใช้เวลาพบปะนักเดินทางคนอื่นๆ และมองดูบรรยากาศรอบๆ

 

5. สำรวจไชน่าทาวน์ เยาวราช

นี่เป็นหนึ่งในไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ตั้งของร้านอาหารอร่อยๆ อาหารริมทาง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้ง แต่สิ่งสำคัญที่ดึงดูดใจที่นี่คืออาหาร เป็นหนึ่งในสถานที่รับประทานอาหารที่ถูกที่สุดในเมือง และมีผู้ขายอาหารมากมายที่คุณน่าจะไม่เคยเห็นจากที่อื่น

หากคุณเป็นแฟนอาหารทะเล อย่าลืมใช้เวลาเดินไปตามถนนเล็กๆตามซอยต่างๆ และชิมทุกอย่าง หากคุณไม่แน่ใจว่าจะไปทานอาหารที่ไหน ให้เลือกร้านที่มีคนท้องถิ่นมารับประทานอาหารกันเยอะๆ

นอกจากอาหารแล้ว ปากคลองตลาดซึ่งเป็นตลาดดอกไม้ทางตอนเหนือสุดของเยาวราช ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวหลักของที่นี่ เป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง โดยมีดอกไม้ที่ลงเรือมาจากทั่วประเทศทุกเช้า

 

6. ล่องเรือในแม่น้ำ

กรุงเทพฯ เคยเต็มไปด้วยแม่น้ำและลำคลอง จนได้รับสมญานามว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” หากต้องการชมเมืองจากมุมมองที่แตกต่าง ลองใช้บริการทัวร์แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สายน้ำทอดยาวกว่า 370 กิโลเมตร (229 ไมล์) การล่องเรือในแม่น้ำเป็นวิธีผ่อนคลายในการเพลิดเพลินกับทิวทัศน์และชมเมืองในมุมมองใหม่ หากคุณไม่ต้องการจ่ายค่าล่องเรือ ซึ่งมักจะมีราคาแพงเกินไป คุณสามารถนั่งเรือโดยสารแทนได้ในราคาเพียงไม่กี่ดอลลาร์ เริ่มที่ท่าเรือต้นทางไปจนสุดทางแล้วกลับมา คุณจะประหยัดเงินและยังคงได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมแม่น้ำที่ทอดยาวไปทั่วทั้งเมือง

 

7. ชมตลาดน้ำ

แม้ว่าตลาดน้ำจะมีนักท่องเที่ยวน้อยแต่ก็สนุกสุด ๆ และไม่ควรพลาด ตลาดน้ำหลักสองแห่งในเมืองคือ ตลาดน้ำคลองลัดมะยมและตลาดน้ำตลิ่งชัน คนในพื้นที่จะพายเรือลำเล็กๆไปตามคลอง และคุณสามารถเลือกซื้อของได้เมื่อพวกเขาพายเรือผ่านคุณ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน!

ตลาดเต็มไปด้วยความวุ่นวายและกลิ่นหอมของอาหาร ซึ่งอาจทำให้ประสาทสัมผัสของคุณต้องทำงานอย่างหนัก ควรมาถึงก่อนเวลาที่จะมีฝูงชนและคณะทัวร์มาลง(โดยเฉพาะที่ตลิ่งชัน) ที่นี่ก็มีของกินราคาถูกๆ เยอะเหมือนกัน เลือกได้เลยถ้าคุณหิว ฉันมักจะชอบเดินตลาดก่อนเพื่อดูว่าฉันต้องการลองชิมอะไรแล้วจึงค่อยซื้อ

สำหรับตลาดน้ำที่อยู่ไกลออกไปอีกหน่อย คือตลาดน้ำดำเนินสะดวกซึ่งอยู่นอกกรุงเทพฯ ก็เป็นอีกหนึ่งตลาดยอดนิยมที่ต้องไปเยือน คุณสามารถใช้บริการทัวร์ครึ่งวันจากกรุงเทพฯ ออกเดินทางในตอนเช้าและเดินทางกลับในช่วงบ่าย

 

8. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งสยาม

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดในปี 2007 โดยจัดแสดงถึงต้นกำเนิดและวัฒนธรรมของประเทศไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์ยุโรปสมัยศตวรรษที่ 19 มีแกลเลอรี ภาพยนตร์ และนิทรรศการมัลติมีเดียที่ครอบคลุมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ พุทธศาสนา สงคราม และการสร้างประเทศไทยสมัยใหม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ทั้งความสนุกสนานและให้ความรู้

 

9. เยี่ยมชมห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพ

ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ไม่เหมือนกับห้างสรรพสินค้าในประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ แต่เป็นเหมือนศูนย์กลางทางสังคมที่คนในพื้นที่สามารถรวมตัวกัน รับประทานอาหาร และออกไปเที่ยวเพื่อหลีกหนีจากความร้อนอบอ้าว ศูนย์อาหารที่นี่อร่อยจริงๆ มีร้านกาแฟสำหรับพักผ่อนหรือทำงาน และยังมีโรงภาพยนตร์ และลานโบว์ลิ่งด้วย กล่าวโดยสรุปก็คือ สถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ที่สนุกสนานในการออกไปเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ของเมือง

ห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดที่ควรไปเยี่ยมชม ได้แก่ เทอร์มินัล 21 (ห้างสรรพสินค้าที่ฉันชื่นชอบและเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมการตกแต่งในธีมนานาชาติที่สวยงาม), มาบุญครองเซ็นเตอร์ (สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า), สยามพารากอน (มีร้านเสื้อผ้าดีไซเนอร์สุดหรู), พันธุ์ทิพย์พลาซ่า ( เครื่องใช้ไฟฟ้า) และ Platinum (เสื้อผ้าอินเทรนด์ราคาถูก)

 

10. ทัวร์วัดเพิ่มเติม

หากคุณต้องการเยี่ยมชมวัดอื่นๆ กรุงเทพฯ ก็มีอีกมากมายให้คุณเลือก คุณสามารถจ้างคนขับรถตุ๊ก-ตุ๊กเพื่อพาคุณไปรอบๆ เมืองเป็นเวลาหนึ่งวันเพื่อดูวัดทั้งหมด (หรืออย่างน้อยก็วัดหลักๆ) วัดที่ฉันชอบบางแห่งคือ:

วัดสระเกศ - หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดภูเขาทอง นี่เป็นหนึ่งในสถานที่โปรดของฉันในเมือง เนื่องจากวัดมีสีทองที่สวยงามและยังมีทิวทัศน์อันงดงามจากด้านบน ค่าเข้าชมวัดฟรี แต่ค่าเข้าเจดีย์ 50 บาท

วัดเบญจมบพิตร – วัดนี้มีภาพอยู่ด้านหลังเหรียญ 5 บาท และมีพระพุทธรูป 53 องค์ในลานซึ่งเป็นตัวแทนของพุทธศาสนิกชน ค่าเข้าชม 20 บาท

วัดราชนัดดาราม – สร้างขึ้นในปี 1840 วัดนี้เป็นหนึ่งในวัดไม่กี่แห่งในโลกที่มีหลังคาทองสัมฤทธิ์ ค่าเข้าชมฟรี

วัดไตรมิตร – ตั้งอยู่ในไชน่าทาวน์ วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ (หนัก 6 ตัน!) ค่าเข้าชม 40 บาท

วัดมหาธาตุ - วัดหลวงแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถาบันพระภิกษุที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีตลาดเครื่องรางด้วย คุณสามารถซื้อเครื่องรางเพื่อช่วยให้คุณโชคดีในด้านความรัก เงินทอง และอื่นๆ อีกมากมาย ค่าเข้าชม 50 บาท

 

11. เยี่ยมชมบ้านจิม ทอมป์สัน

จิม ทอมป์สันเป็นสายลับชาวอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและเป็นพ่อค้าผ้าไหมในประเทศไทยในช่วงทศวรรษที่ 50 และ 60 เขาหายตัวไปอย่างลึกลับในปี 2510 ขณะอยู่ในคาเมรอนไฮแลนด์ของมาเลเซีย บางคนบอกว่าเขาหลงทางหรือเสียชีวิตขณะเดินป่า ในขณะที่บางคนบอกว่าเขาหายตัวไป

เขาเกือบจะฟื้นฟูอุตสาหกรรมผ้าไหมที่กำลังหายไปของประเทศไทยด้วยตัวคนเดียว ในช่วงหลังสงคราม ขณะอยู่ในกรุงเทพฯ เขาอาศัยอยู่ในบ้านไทยแบบดั้งเดิม ตกแต่งด้วยไม้สักสวยงามและล้อมรอบด้วยสวนสวย วันนี้คุณสามารถเยี่ยมชมบ้านและเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของเขา อุตสาหกรรมผ้าไหม และบ้านแบบไทย

 

12. ชอปปิ้ง และทานอาหาร ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร

ตลาดขนาดมหึมานี้มีขนาดพอๆ กับสนามฟุตบอลหลายสนาม และเป็นหนึ่งในตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแผงขายของและบูธมากกว่า 15,000 แห่งที่นี่ มีผู้เข้าชมมากกว่า 400,000 คนในแต่ละสุดสัปดาห์

เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในเมืองในการซื้อของขวัญหรือของที่ระลึก ค้นหาของลอกเลียนแบบ และรับประทานอาหารอร่อยๆ มีแผนที่อยู่รอบๆ ตลาดเพื่อให้คุณสามารถสำรวจส่วนต่างๆ ได้ ตลาดจะหนาแน่นและวุ่นวายอยู่เสมอ ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อม

 

13. ชมการต่อสู้มวยไทย

มวยไทย เป็นกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งในประเทศและถือเป็นกีฬาที่จริงจังมาก (เหมือนกับฟุตบอลในยุโรป) นักชกต้องใช้เวลาฝึกนานหลายปีเพื่อฝึกฝนศิลปะการชกมวย

สนามมวยลุมพินีเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมการชกมวยในกรุงเทพ ลุมพินีจัดการแข่งขันมวยไทยมาตั้งแต่ปี 1950 ตอนนี้มีสนามมวยแห่งใหม่ เพิ่งเปิดในปี 2014 ซึ่งมีขนาดใหญ่มากและสามารถรองรับผู้ชมได้มากถึง 15,000 คน

โดยทั่วไปการแข่งขันจะใช้เวลาประมาณ 25 นาที เว้นแต่จะมีการแพ้น็อก และโดยปกติจะมีการต่อสู้ 7-9 ครั้งต่อคืน มีแผงขายอาหารมากมายที่นี่เช่นกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถหาอะไรทานไปพร้อมๆ กับชมการชกมวยได้

 

14.พักผ่อนในสวนลุมพินี

สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 56 เฮกตาร์ (140 เอเคอร์) เป็นที่ตั้งของทางจักรยาน ทางวิ่งจ็อกกิ้ง โต๊ะปิกนิกและหมากรุก ชั้นเรียนไทเก๊ก ต้นไม้หลายชนิด และเรือพายให้เช่าในทะเลสาบเล็กๆ สองแห่ง ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เป็นพื้นที่สีเขียวที่อยู่ในเมือง คุณอาจจะหยิบหนังสือ เตรียมอาหารกลางวัน แล้วมาพักผ่อนใต้ร่มเงาของต้นไม้ นั่งปล่อยเวลาในช่วงบ่ายให้ผ่านไป เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากความวุ่นวายของเมือง (เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ด้วย)

 

15. ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1874 โดยเน้นการแสดงวัฒนธรรมไทย มีไฮไลท์ต่างๆ มากมาย เช่น คอลเลคชันเครื่องดนตรีจำนวนมาก รถม้าศึกอันวิจิตรงดงาม และงานแกะสลักไม้อันน่าทึ่ง เป็นที่ตั้งของคอลเล็กชั่นงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุด และมีการปรับปรุงใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการให้คำอธิบายภาษาอังกฤษมากขึ้น (แม้ว่าบางส่วนยังไม่มีป้ายภาษาอังกฤษก็ตาม) ที่นี่มีทัวร์ภาษาอังกฤษในวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 09:30 น.

 

16. เข้าชั้นเรียนทำอาหาร

อาหารไทยเป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก หากคุณต้องการเรียนรู้วิธีทำอาหารที่แสนอร่อยของประเทศไทย ให้เข้าร่วมชั้นเรียนทำอาหาร คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาหารไทยและการทำอาหาร และสามารถนำความรู้และทักษะใหม่ ๆ ของคุณกลับบ้านไปด้วย ราคาอยู่ระหว่าง 1,000 ถึง 3,300 บาท สำหรับชั้นเรียน 2-3 ชั่วโมง ซึ่งมักจะรวมการเยี่ยมชมตลาดเพื่อเลือกวัตถุดิบด้วย

 

17. ไปเที่ยวที่ซอยนานา

ในกรุงเทพฯ มีสองพื้นที่ที่เรียกว่าซอยนานา หนึ่งคือศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางเพศและไม่ใช่ที่ที่คุณควรจะไป ซอยนานาที่ฉันพูดถึงนั้นขึ้นชื่อในเรื่องสถานบันเทิงยามค่ำคืนสุดฮิปที่สนุกสนาน ถนนสายนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟในไชน่าทาวน์ ซึ่งเต็มไปด้วยบาร์และค็อกเทลเลานจ์ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการจิบเครื่องดื่มและสัมผัสประสบการณ์ชีวิตยามค่ำคืนที่คึกคักของเมือง

 

18. สนุกกับกิจกรรมที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

หากคุณเป็นแฟนดนตรีสด ศิลปะ และการแสดง อย่าลืมแวะไปที่ศูนย์วัฒนธรรมของเมืองเพื่อดูว่ามีการจัดอะไรแสดงบ้างในขณะที่คุณอยู่ในเมือง หอศิลปกรุงเทพฯ เปิดดำเนินการในปี 2007 เพื่อจัดกิจกรรมด้านศิลปะ ดนตรี ละคร ภาพยนตร์ การออกแบบ และวัฒนธรรมในพื้นที่นิทรรศการและการแสดง นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดศิลปะ คาเฟ่ แกลเลอรี่ ร้านงานฝีมือ และร้านหนังสืออีกด้วย

 

19. เวคบอร์ดที่บึงตะโก้

หากคุณต้องการออกนอกเมืองและออกไปผจญภัย ให้มุ่งหน้าไปยังชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 40 นาที เพื่อเล่นเวคบอร์ด ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ และถึงแม้ว่าฉันไม่เคยทำเลย (ฉันไม่ใช่คนชอบให้อะดรีนาลีนหลั่งมากนัก) เพื่อนของฉันก็มักจะบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สนุก ราคาประมาณ 400-600 บาท แต่มาพร้อมกับทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อความสนุกสนานและปลอดภัย (บอร์ด หมวกกันน็อค เสื้อชูชีพ)

 

20. เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับที่อยุธยา

อยุธยา (ออกเสียงว่า อา-ยู-ทา-ยา) ก่อตั้งเมื่อราวปี 807 และเป็นเมืองหลวงแห่งที่ 2 ของประเทศไทย (เป็นเมืองหลวงก่อนจะย้ายมากรุงเทพฯ) น่าเสียดายที่เมืองนี้ถูกทำลายโดยการโจมตีของพม่าในปี 1767 เหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ยังมีวัดและพระราชวังเพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่

ในปี1991 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากกรุงเทพฯ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 90 นาที แม้ว่าจะมีบริการทัวร์จากบริษัทหลายแห่ง แต่ฉันขอแนะนำให้คุณเดินทางโดยรถไฟด้วยตัวเอง (ราคาถูกกว่ามาก) ทัวร์วันปกติจากกรุงเทพฯ ราคาประมาณ 1,300 บาท

 

21. ดูการแสดงเลดี้บอย

คาลิปโซ่คาบาเร่ต์ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมการแสดงในเมือง การแสดงอันตระการตานี้คือการแสดงมูแลงรูจในเวอร์ชันกรุงเทพฯ เป็นการแสดงคาบาเร่ต์ที่มีชีวิตชีวาพร้อมเพลงประกอบ การเต้นรำ เคป๊อป และเครื่องแต่งกายอันประณีต เป็นค่ำคืนที่มีเสน่ห์และอลังการซึ่งรับประกันว่าจะได้รับความบันเทิง

 

22. ทัวร์ชิมอาหาร

กรุงเทพฯขึ้นชื่อเรื่องเกี่ยวกับอาหาร เป็นเมืองแห่งนักกิน มีอาหารจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือก หากต้องการดื่มด่ำอาหารไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหาร แนะนำให้พิจารณาทัวร์ชิมอาหาร

 

กรุงเทพฯ เป็นเมืองระดับโลกที่คุ้มค่าแก่การใช้เวลาสำรวจ แม้ว่าฉันจะไม่ชอบมันเมื่อมาเยือนครั้งแรก แต่หลังจากใช้เวลาอยู่ที่นี่นานขึ้น ฉันก็ต้องเข้าใจและซาบซึ้งถึงสิ่งที่เมืองนี้นำเสนอ คุณต้องลองสัมผัสถึงเมืองอย่างแท้จริง แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง