วงแหวนดาวเสาร์จะหายไป พ้นสายตามนุษย์โลกในปี 2025และหายไปตลอดกาลอีกไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า
มนุษย์โลกจะไม่สามารถมองเห็นวงแหวนดาวเสาร์ได้ในปี 2025 และวงแหวนดาวเสาร์จะหายไปภายในไม่กี่ร้อยล้านปี
ภาพดาวเสาร์จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ระหว่างปี 1996 – 2000 (จากซ้ายไปขวา)
วงแหวนดาวเสาร์เป็นหนึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มนุษย์โลกสามารถมองเห็นได้ วงแหวนเหล่านี้ประกอบด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดเล็กจำนวนมาก วงแหวนของดาวเสาร์สามารถมองเห็นได้ชัดเจนด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก แม้แต่กล้องโทรทรรศน์ที่ติดตั้งอยู่บนพื้นดินก็สามารถมองเห็นวงแหวนดาวเสาร์ได้
ภาพดาวเสาร์ที่มองเห็นได้จากโลก ระหว่างช่วงเดือนธ.ค. ปี 1994 กับเดือนพ.ค. ปี 1995 ที่ปราศจากวงแหวน
อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุดของนักดาราศาสตร์พบว่า มนุษย์โลกจะไม่สามารถมองเห็นวงแหวนดาวเสาร์ได้ในปี 2025 และวงแหวนดาวเสาร์จะหายไปภายในไม่กี่ร้อยล้านปี
ในวันที่ 23 มีนาคม 2025 โลกจะโคจรผ่านระนาบวงแหวนของดาวเสาร์พอดี ทำให้วงแหวนของดาวเสาร์อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เมื่อมองจากโลก ก็จะไม่เห็นวงแหวนของดาวเสาร์ ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุก ๆ 13.7-15.7 ปี
สาเหตุที่ทำให้โลกไม่สามารถมองเห็นวงแหวนของดาวเสาร์ได้ในปี 2025 นั้น เกิดจากการที่วงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคน้ำแข็ง หิน และฝุ่น ซึ่งมีความหนาเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น อนุภาคเหล่านี้จะสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้มองเห็นเป็นวงแหวนสีสันสวยงาม
เมื่อโลกโคจรผ่านระนาบวงแหวนของดาวเสาร์พอดี วงแหวนของดาวเสาร์ก็จะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์จะไม่ตกกระทบกับอนุภาคในวงแหวน ทำให้อนุภาคในวงแหวนไม่สามารถสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ และทำให้มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นวงแหวนของดาวเสาร์ได้
ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุก ๆ 13.7-15.7 ปี เนื่องจากวงแหวนของดาวเสาร์โคจรรอบดาวเสาร์ด้วยความเร็วที่ช้ากว่าโลกเล็กน้อย จึงทำให้วงแหวนของดาวเสาร์เคลื่อนที่ช้ากว่าโลก และทำให้โลกสามารถโคจรผ่านระนาบวงแหวนของดาวเสาร์ได้
อย่างไรก็ตาม รู้หรือไม่ว่า วงแหวนของดาวเสาร์นั้นไม่ได้เป็นของถาวร วงแหวนของดาวเสาร์กำลังสูญเสียมวลไปเรื่อย ๆ และวันหนึ่งดาวเสาร์อาจกลายเป็นดาวเคราะห์ที่ไร้วงแหวน
NASA เผย ‘วงแหวน’ อันเป็นสัญลักษณ์ของดาวเสาร์จะหายไปในอีกไม่กี่ร้อยล้านปีข้างหน้า
วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 องค์การนาซาได้เผยแพร่งานวิจัยที่ระบุว่า วงแหวนของดาวเสาร์กำลังสูญเสียมวลไปเรื่อย ๆ และอาจหายไปภายในอีกไม่กี่ร้อยล้านปีข้างหน้า
วงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคน้ำแข็ง หิน และฝุ่น อนุภาคเหล่านี้ถูกแรงโน้มถ่วงของดาวเสาร์ดึงดูดไว้ วงแหวนของดาวเสาร์มีขนาดใหญ่มาก กว้างประมาณ 282,000 กิโลเมตร และหนาเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น
ดาวเสาร์และวงแหวน
จากการประมาณการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ วงแหวนของดาวเสาร์กำลังสูญเสียมวลไปประมาณ 100 ตันต่อวินาที อนุภาคในวงแหวนจะชนกันอยู่ตลอดเวลา และอนุภาคที่ชนกันจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และตกลงสู่ดาวเสาร์
วงแหวนของดาวเสาร์ที่โดดเด่นกำลังจะเลือนหายไปภายในอีกไม่กี่ร้อยล้านปีข้างหน้า
นอกจากนี้ แรงโน้มถ่วงของดาวเสาร์ยังดึงดูดอนุภาคในวงแหวนให้ตกลงสู่ดาวเสาร์อีกด้วย อนุภาคเหล่านี้จะค่อย ๆ ตกลงสู่ดาวเสาร์และกลายเป็นดาวเคราะห์บริวารขนาดเล็ก
ดวงจันทร์เอนเซลาดัส
ดังนั้น เป็นไปได้ว่าในวันหนึ่ง วงแหวนของดาวเสาร์จะหายไปจนหมด
การสูญเสียวงแหวนของดาวเสาร์นั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบสุริยะ ดาวเสาร์จะสูญเสียเอกลักษณ์เฉพาะตัวไป และกลายเป็นดาวเคราะห์ที่แตกต่างจากที่เห็นในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานมาก มนุษย์โลกคงจะไม่ได้เห็นดาวเสาร์ที่ไร้วงแหวนในเร็ว ๆ นี้
ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า วงแหวนของดาวเสาร์มีอายุค่อนข้างน้อยประมาณไม่กี่ร้อยล้านปีเท่านั้น
“ข้อสรุปที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในตอนนี้ คือวงแหวนของดาวเสาร์จะมีอายุค่อนข้างน้อยประมาณไม่กี่ร้อยล้านปีเท่านั้น” ริชาร์ด เดอร์ริเซน (Richard Durisen) ศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอินเดียนา-บลูมมิงตัน ประเทศสหรัฐฯ กล่าว นอกจากนี้ นักวิจัยระบุเสริมว่า “มีความเป็นไปได้ที่วงแหวนก่อตัวขึ้น ในขณะที่โลกเราอยู่ในยุคของไดโนเสาร์” เท่ากับว่ามันเกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง
การสูญเสียวงแหวนของดาวเสาร์นั้น จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับวงการดาราศาสตร์ วงแหวนของดาวเสาร์เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าทึ่ง และเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการศึกษาระบบสุริยะ
ข้อมูลที่ผมได้ใช้ในการเขียนบทความนี้มาจากแหล่งข้อมูลดังนี้
* บทความ "มนุษย์โลกจะไม่สามารถมองเห็นวงแหวนดาวเสาร์ได้ในปี 2566" จากเว็บไซต์ BBC News ไทย
* บทความ "ทำไมมนุษย์โลกจะไม่สามารถมองเห็นวงแหวนของดาวเสาร์ได้ในปี 2566" จากเว็บไซต์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT)
* บทความ "วงแหวนดาวเสาร์จะหายไปภายในไม่กี่ร้อยล้านปี" จากเว็บไซต์ National Geographic
นอกจากนี้ ผมยังได้ตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลมีความถูกต้องและเชื่อถือได้
หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงแหวนของดาวเสาร์ สามารถศึกษาได้จากแหล่งข้อมูลเหล่านี้ครับ