หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กลรักสาวมีนกร ตอนที่ 3 ผู้ช่วยนักวิจัย

เนื้อหาโดย Tonruk

บทที่ 3 ผู้ชาวยนักวิจัย

 

        ศาลาริมน้ำเรือนไทยหลังกะทัดรัด บรรยากาศร่มรื่น พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้ ข้างๆศาลามีบ่อดินขนาดใหญ่ภายในบ่อรกไปด้วยผักกระเฉดและผักตบชวา  พุทธชาดและเพ็ญจันทร์กำลังนั่งคุยด้วยกันอยู่กันภายในศาลา มัจฉาเดินเข้ามาหาทั้งคู่แต่ต้องหยุดชะงักหยุดยืนมองเพ็ญจันทร์และพุทธชาดที่กำลังคุยกันหันหลังเดินกลับทันที   ภาพบาดตาของเพ็ญจันทร์กับพุทธชาดยังคงติดตาของมัจฉาตั้งแต่เดินกลับมาถึงห้อง สิ่งของทุกอย่างถูกวางลงบนโต๊ะ มัจฉาโน้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อย

 

“  มัจอยากให้ป้าคุยกับมัจเหมือนกับป้าคุยกับพี่พุดบ้างแต่มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะป้าไม่ได้รักมัจเหมือนกับรักพี่พุด ” มัจฉาปลอบใจตัวเอง ดวงตาค่อยๆปิดลงท่ามกลางความมืดโน้มตัวลงด้วยความเหนื่อย เหนื่อยทั้งกายและทางใจผสมกันแทบแยกไม่ออก อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นที่แสวงหาไว้แนบชิดยามทุกข์ใจกลับไม่มีเหลือเพียงไว้ความอ้างว้างในหัวใจ เสียงโทรศัพท์จากชลธีทำให้มัจฉาสะดุ้งตื่น  

 

“ ไอ้ชล ! ”

“ คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอกันหลายวัน ช่วงนี้ทำไมแกไม่แวะมาที่โรงเรียนบ้าง ไม่คิดถึงกันบ้างหรอหรือว่าแกลืมเพื่อนคนนี้ไปเสียแล้ว ”

“ อีปลวกฉันไม่ว่าง ช่วงนี้เรียนหนัก ตอนเย็นฉันต้องไปล้างบ่อให้อาหารปลากว่าจะเสร็จแกก็เลิกเรียนแล้ว ”

“ แกเป็นไงบ้าง ”

“ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันไปขายก๋วยเตี๋ยว ร้านก๋วยเตี๋ยวสามเกลอปิดกิจการชั่วคราว ฉันได้งานใหม่แล้ว ”

“  งานอะไร ”

“ ฉันไปทำงานกับเพื่อนของป้าสุไปเป็นผู้ช่วยในการทำวิจัย ไอ้เข้มกับไอ้เบิ้มด้วย  ”

“ ดีใจด้วยนะโว้ยแบบนี้ต้องฉลอง ”

“ แกละเรียนเป็นไงบ้างจะสอบเข้าแพทย์ต้องขยันอ่านหนังสือไม่ใช่มัวแต่ไปพลอดรักอยู่กับไอ้ก้องละ ไอ้นั่นขี้เกียจสันหลังยาว ขี้เกียจเรียน วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่เกาะแข้งเกาะขาแก ”

“ นี่ถ้าแกเป็นแฟนกับฉัน ฉันคิดว่าแกกำลังหึงฉันอยู่นะ ”

“ ฉันแค่พูดไปตามที่ฉันเห็น ”

“  เมื่อไหร่แกจะเลิกมีอคติกับก้องภพสักที เขาเป็นคนดี ”

“ ดีกับแกแต่เลวคนอื่น ”

“ ทำไมแกมองก้องในแง่ร้ายขนาดนั้น เชื่อฉันสิว่าก้องรักฉันด้วยใจจริงไม่เสแสร้งแน่นอน ฉันรับรอง  ”

“ ใครเชื่อก็บ้างแล้ว ฉันต่างหากที่รักแกด้วยใจจริงแต่แกมาเคยรักฉันเลย แกรักไอ้ก้องคนเดียว ”

“ ทำไมฉันจะไม่รักแกละ ชลธีรักมัจฉาได้ยินไหม  ”

“ ไม่ได้ยิน ฉันอยากให้แกรักฉันในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนในสถานะของคำว่าแฟน  ”

“ แกอำฉันเล่นอีกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ไอ้เพื่อนบ้ารู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ชอบผู้หญิง   ”  มัจฉาตอบไปเป็นผู้ช่วยของเสมอใจ สุปราณีย์รีบโทรไปหาเสมอใจ หลังจากที่คุยกันเสร็จเรียบร้อยสุปราณีย์บอกให้มัจฉาไปหาเสมอใจที่มหาวิทยาลัย วันรุ่งขึ้นมัจฉา เข้ม และ เบิ้มไปหาเสมอใจที่คณะประมงตามนัด  เสมอใจรอมัจฉาอยู่ที่ห้องทำงาน 

“ ขออนุญาตค่ะ ”

“ เข้ามาได้จ๊ะ ”  มัจฉา เบิ้มและเข้มเปิดประตูห้องเดินเข้าไปหาเสมอใจพร้อมกับแนะนำตัวให้เสมอได้รู้จัก

เสมอใจรู้สึกถูกชะตากับมัจฉา

“   คนไหนชื่อเบิ้ม คนไหนชื่อเข้ม ส่วนหนูคือมัจฉา   ”  

“  ผมชื่อเบิ้มครับ ส่วนนี้ชื่อเข้ม ” เบิ้มและเข้มแนะนำตัวให้เสมอใจได้รู้จัก นับตั้งแต่วันนั้นหลังจากเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ มัจฉา เบิ้มและเข้มต้องไปทำงานกับเสมอใจเป็นประจำทุกวัน  ความใกล้ชิดทำให้เสมอใจเอ็นดูมัจฉาเป็นพิเศษ เสมอใจให้มัจฉาทำหน้าที่รวบรวมเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในการทดลองและยังให้มัจฉาเข้าไปเรียนวิชาที่ตนเองในชั่วโมงเรียนและร่วมทำการทำทดลองพร้อมกับนักศึกษาที่ตนเองสอน

มัจฉามีความสุขในการทำงาน เสมอใจดูแลมัจฉาอย่างใกล้ชิดและคอยให้คำปรึกษามัจฉาทุกอย่างทำให้ มัจฉารู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เสมอใจ 

“ มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหนถามครูได้นะ มัจไม่ต้องเกรงใจครู ครูยินดีเป็นที่ปรึกษาให้มัจทุกเรื่อง  ” มัจฉายิ้มให้เสมอใจ

“ ค่ะครู ” เสมอใจเข้ามาเติมเต็มในชีวิตของมัจฉาชดเชยในสิ่งที่มัจฉาต้องการจากเพ็ญจันทร์แต่เพ็ญจันทร์ไม่เคยมีให้  มัจฉารู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เสมอใจ  เสมอใจมักไปหลอกถามเบิ้มและเข้มว่ามัจฉาชอบอะไรต้องการอะไร เพราะเมื่อตนเองรู้ว่ามัจฉาต้องการอะไร เสมอใจไม่รอช้ารีบซื้อให้มัจฉาทันทีทำให้มัจฉายิ่งรักเสมอใจและเกรงใจเสมอใจยิ่งขึ้นเข้าไปอีก

“ พวกแกสองคนไปบอกอาจารย์เสมอใจทำไมว่าฉันอยากได้โน๊ตบุ๊คไว้ทำงาน  สิ้นเปลืองเงินอาจารย์เปล่า ”

“ ใครจะไปรู้ว่าอาจารย์เสมอใจจะซื้อให้แกจริง ๆ ”

“ นั้นนะซิ ดูท่าแล้วว่าอาจารย์เสมอใจจะรักแกมากเลย  ”  มัจฉาเงียบนั่งฟังเบิ้มและเข้มพูดไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องของเพ็ญจันทร์

“ เป็นอะไรว่ะนั่งเม่อคิดถึงใครอยู่ ”

“ ฉันคิดถึงคุณนาย ช่วงนี้ฉันไม่ได้คุยกับคุณนายเลยนับวันความสัมพันธ์ของฉันกับคุณนายดูแย่ลงไม่เหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะฉันไม่เข้าไปคุยกับคุณนายเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ ”

“ วันนี้แกกลับบ้านลองเข้าไปคุยกับป้าเพ็ญดูสิ แกก็ทำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ”

“ ฉันขอคิดดูก่อนแล้วกัน ”   มัจฉาใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับการทำงานเป็นผู้ช่วยของเสมอใจทำให้ไม่มีเวลาคุยกับเพ็ญจันทร์เหมือนเช่นแต่ก่อน อีกทั้งท่าทีการแสดงออกของมัจฉาดูเปลี่ยนไปจากเดิมทำให้เพ็ญจันทร์สัมผัสได้ถึงอัปกิริยาที่เปลี่ยนไปของมัจฉา

 

ในขณะเดียวกันมัจฉาไม่ต้องการมีปัญหากับเพ็ญจันทร์เลือกที่จะเงียบไม่ตอบโต้เพ็ญจันทร์เหมือนทุกครั้ง เพ็ญจันทร์สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของมัจฉาตนเองพยามหาเรื่องคุยกับมัจฉาแต่มัจฉาเลือกที่ถามคำตอบคำทำให้เพ็ญจันทร์อึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก  พุทธชาดหลงศิวามากจนไม่ยอมกลับบ้านใช้เวลาทั้งหมดในแต่ละวันอยู่กับศิวาจนลืมคนรอบข้างแม้กระทั่งมัจฉาโทรไปพุทธชาดยังไม่ยอมรับสายหรือบางครั้งบอกว่ากำลังยุ่งไม่มีเวลาคุยด้วย

 

ในตอนแรกมัจฉาเข้าใจว่าพุทธชาดคงไม่ว่าง ๆ จริงแต่ความคิดทั้งหมดต้องเปลี่ยนไปเมื่อมัจฉาเจอพุทธชาดนั่งกินข้าวอยู่กับศิวาเลยแกล้งโทรไปหาพุทธชาดแต่คำตอบที่ได้รับจากพุทธชาดทำให้มัจฉามัจฉาเสียใจมากเลิกติดต่อพุทธชาดตั้งแต่วันนั้น

“ พี่พุดคิดถึงจังเลย ”

“ แค่นี้ก่อนนะพี่กำลังยุ่ง มัจค่อยโทรมาหาพี่แล้วกัน ”

“ ใครโทรมา ”

“ มัจฉาโทรมา ”

“ สงสัยโทรมาขอเงินพุด พุดไม่ต้องให้นะครับ เงินตัวเองไม่พอใจก็ต้องไปบอกป้าเพ็ญไม่ใช่โทรมาบอกพุด น้องก็น้องเถอะ พุดไม่ต้องให้เก็บไว้ใช้ยามจำเป็นดีกว่า พุดไม่ให้เดี๋ยวมัจก็ไปยืมเงินคนอื่นได้ ”

“ มัจไม่เคยยืมเงินของพุดเลยนะคะส่วนใหญ่พุดเป็นคนให้น้อง ”

“ เชื่อผมสิ มัจคงไม่มีเงินใช้นี่ที่โทรมาคงจะมาขอเงินพุดละสิ ถ้าไม่อย่างนั้นจะโทรมาพุดทำไมกัน ”

“ ศิวาคิดแบบนั้นหรอ ฉันเชื่อคุณ ”  ศิวาเป็นผู้ชายกะล่อนตอแหลไปวัน ๆ เกาะผู้หญิงกินไปวัน ๆ แต่ด้วยความหล่อและนิสัยที่ชอบเอาอกเอาใจคนอื่น ๆ ของเขาทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนตกหลุมรักเขาได้โดยง่ายหนึ่งในนั้นคือพุทธชาด ศิวาคอยสูบเอาเงินของพุทธชาดมาบำรุงความสุขของตัวเองโดยที่พุทธชาดไม่คยรู้ว่าตัวเองกำลังโดนหลอก  มัจฉาพยายามเตือนเรื่องนี้ให้พุทธชาดได้รู้แต่พุทธชาดไม่เชื่อต่อว่ามัจฉาด้วยความโกรธและบอกให้มัจฉาเลิกยุ่งตนเองได้แล้ว  

มัจฉาใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับการทำงานเป็นผู้ช่วยของเสมอใจทำให้ไม่มีเวลาคุยกับเพ็ญจันทร์ อีกทั้งท่าทีการแสดงออกของมัจฉาดูเปลี่ยนไปจากเดิมมากจนเพ็ญจันทร์สัมผัสได้ถึงอัปกิริยาที่เปลี่ยนไปของมัจฉา ในขณะเดียวกันมัจฉาไม่ต้องการมีปัญหากับเพ็ญจันทร์เลือกที่จะเงียบไม่ตอบโต้เพ็ญจันทร์เหมือนทุกครั้ง มัจฉาเปลี่ยนไปจากเดิมมากทำให้เพ็ญจันทร์กังวลใจ 

“ พิม ! ช่วงนี้มัจเป็นอะไรทำ ไมไม่มากวนประสาทฉันเมื่อก่อน วันๆคุยกับฉันแทบนับคำได้กว่าจะพูดออกมาสักคำพิกุลแทบร่วงออกจากปาก ”

“ คุณหนูคงเบื่อคุณผู้หญิงมั้งค่ะ  ”  จี๊ดพูดแทรกขึ้นมา พิมภาตกใจในคำพูดของหลานตัวเองใช้มือตีแขนจี๊ดอย่างแรง  จี๊ดรีบเอามืออุดปากตัวเองทันทีกลัวเพ็ญจันทร์โกรธ

“ รู้ตัวบ้างไหมว่าพูดอะไรออกมา  ” 

“ ไม่เป็นไร พิมอย่าไปว่าจี๊ดเลยมันคงจริงอย่างที่จี๊ดพูด มัจคงเบื่อและไม่อยากคุยกับฉัน  ”

“ คุณผู้หญิงเหงาใช่มั้ยค่ะเพราะตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีวันไหนที่คุณหนูไม่แกล้งยั่วโมโหคุณผู้หญิงและโดนคุณผู้หญิงดุทุกครั้งหรือไม่บางครั้งคุณผู้หญิงไล่ตะเพิดคุณหนูออกมาจากห้อง  พิมขอพูดตรงๆนะค่ะ คุณผู้หญิงมีเวลาให้คุณหนูพุดแต่คุณผู้หญิงไม่เคยมีเวลาให้คุณหนูมัจ  คุณผู้หญิงไม่เคยรับฟังเหตุผลของคุณหนูมัจแม้แต่ครั้งเดียวผิดกับคุณหนูพุดที่คุณผู้หญิงรับฟังทุกเรื่อง ”   พิมพาเอ๋ยปากพูดกับเพ็ญจันทร์อย่างตงไปตรงมา

 “ ทุกครั้งที่คุณหนูกอดคุณผู้หญิง  คุณผู้หญิงชอบไล่ให้คุณหนูไปให้พ้นหน้า เวลาคุณหนูกอด คุณผู้หญิงชอบผลักคุณหนูออกจากอก   ”  จี๊ดพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งยิ่งทำให้เพ็ญจันทร์ยิ่งคิดมากเข้าไปกันอีก 

“  คุณหนู ! วันนี้คุณหนูกลับบ้านเร็วจัง ”   มัจฉายิ้มให้พิมพ์ภาแทนคำตอบ ส่วนเพ็ญจันทร์อ้าแขนรอเข้าใจว่ามัจฉาจะเข้าไปกอดตัวเองเหมือนทุกครั้งแต่วันนี้มัจฉากลับทำเฉยทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา

 “ สวัสดีค่ะป้า ! ” มัจฉากล่าวทักทายเพ็ญจันทร์แต่คำทักทายของมัจฉาได้เปลี่ยนไปยิ่งทำให้เพ็ญจันทร์อึดอัดใจจนพูดไม่ออก

“ วันนี้มาแปลกไม่เรียกป้าว่าคุณนาย  ”  เพ็ญจันทร์พยายามหาเรื่องคุย มัจฉานิ่งใบหน้าเรียบเฉยไม่ยอมเอ๋ยปากคุยกับเพ็ญจันทร์  เพ็ญจันทร์ขยับเข้ามาใกล้ตัวมัจฉาใช้มืออีกข้างหนึ่งเอื้อมไปจับตัวของมัจฉาแต่มัจฉากลับเบี่ยงตัวหนีออกไปเสียก่อน ทุกคนตกใจในการกระทำของมัจฉาได้แต่นิ่งเงียบ

“ มัจตัวสกปรกป้าอย่าเอามือมาถูกตัวมัจพลอยทำให้มือของป้าสกปรกไปด้วย  ”  คำพูดของมัจฉาทำให้เพ็ญจันทร์ใจหายฮวบ หัวใจทั้งดวงกองร่วงหล่นลงบนพื้นไม่คิดว่ามัจฉาจะพูดกับตนเองแบบนี้เพราะทุกครั้งมัจฉาเป็นคนเข้ามากอดตนเองและตัวเองเป็นฝ่ายไล่มัจฉาออกไปเสมอ ท่าทีและการกระทำของมัจฉาที่เปลี่ยนไปทำให้เพ็ญจันทร์ยิ่งทุกข์ใจเข้าไปอีก

“ ถ้าไม่มีอะไรแล้วมัจขอตัวก่อนค่ะ ” มัจฉาเดินกลับขึ้นห้องไปส่วนเพ็ญจันทร์กลับไปทำงานเช่นเดิม  เพ็ญจันทร์ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แฟ้มเอกสารถูกวางกองรวมกันไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ  ปลายนิ้วยาวจับปากกา  ดวงตาคมจ้องมองเอกสาร มือข้างหนึ่งกุมศีรษะพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่  เพ็ญจันทร์แทบไม่มีสมาธิในการทำงาน ภาพของมัจฉายังคงวนเวียนอยู่ในสมอง เพ็ญจันทร์หลับตานึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันเก่าๆที่ผ่านมาของตนเองกับมัจฉาที่เคยมีร่วมกัน

“ คุณนาย  มัจกลับมาแล้ว  ขอกอดให้หายคิดถึงหอมแก้มให้ชื่นใจ ”  มัจฉาโผล่พรวดเข้าไปกอดเพ็ญจันทร์ในระหว่างที่เพ็ญจันทร์กำลังคุยอยู่พุทธชาด

“ มัจทำอะไรเห็นมั้ยว่าป้ากำลังคุยอยู่กับพี่เค้าอยู่ โผล่พรวดพราดเข้ามาแบบนี้ได้ยังไงกัน เสียมารยาท  ”  เพ็ญจันทร์ดุมัจฉาแต่มัจฉากลับไม่สนใจกระโดดกอดเพ็ญจันทร์อีกครั้งหนึ่ง  เพ็ญจันทร์ผลักมัจฉาออกจากตัวทันที

“ เนื้อตัวสกปรกแบบนี้มากอดป้าได้ยังไง เห็นมั้ยเสื้อผ้าของป้าสกปรกเปรอะเปื้อนดินโคลนไปหมดแล้ว ไอ้แด็กคนนี้เล่นไม่รู้เวลา กลับห้องไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย  ”

“ เสื้อผ้าสกปรกซักใหม่ให้สะอาดเหมือนเก่าก็ได้แต่คุณนายไม่ได้มีเวลาให้มัจกอดทุกวันสักหน่อย  ”

“ ยังจะมาเถียงป้าอีก คราวหน้าไม่ต้องมากอดป้าอีก ดูสภาพตัวเองก่อนซิดู ไม่ได้เลย ตกลงไปเรียนหรือว่าไปตกบ่อโคลนที่ไหนมา ”

“  มัจขอโทษที่ทำให้คุณนายไม่พอใจ   ต่อไปนี้มัจไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับคุณนายอีก  อย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน ”  มัจฉาพนมมือมือไหว้เพ็ญจันทร์เดินออกจากห้องของเพ็ญจันทร์  

 “  ป้าขอโทษ  มัจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ยลูก ป้ารู้สึกไม่ดีเลยที่มัจเปลี่ยนไป ”   เพ็ญจันทร์น้ำตาคลอเบ้านั่งคุยอยู่กับรูปของมัจฉาเพียงลำพังคนเดียวในห้องแต่ต้องสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของมัจฉาดังมาจากท้ายสวนของบ้าน 

“ ภาพวาดของคุณหนูสวยมากเลยค่ะ  ”

“ พี่เปรี้ยวอย่าดังไปเดี๋ยวคุณนายมาได้ยินเข้า  ระเบิดลูกใหญ่หล่นโครมลงมากองกับพื้นหรือว่าพวกพี่อยากเห็นระเบิดลงตรงนี้  ถ้าเป็นอย่างนั้นมัจขอตัวก่อนตัวใครตัวมันแหละกัน  ”

“ ไม่เอาดีกว่าค่ะคุณหนู  เงียบๆแบบนี้แหละดีแล้ว  พี่ไม่อยากฟังคุณหญิงบ่นหรือว่าคุณหนูอยากได้ยินเสียงของคุณผู้หญิง  ”

“  มัจว่าคุณนายคงไม่บ่นอย่างเดียวหรอกมั้ง  ”

“ คุณหนูหมายถึง ”   ลายเส้นจากดินสอจากเส้นเล็กเส้นน้อยก่อตัวเป็นรูปร่างในระยะเวลาอันสั้น เพ็ญจันทร์เดินเข้ามาเงียบไม่ทันใครทันสังเกตเห็น มัจฉาและทุกคนตกใจเมื่อเห็นเพ็ญจันทร์เดินเข้ามาประชิดตัว 

“ คุณผู้หญิงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ” เปรี้ยวเอ๋ยปากถามเพ็ญจันทร์

“ เมื่อกี้นี้เอง ทำไมเห็นหน้าฉันพวกเธอต้องตกใจขนาดนี้ด้วย ”  มัจฉาเงียบยืนตัวเกร็งไปทั้งตัวเพราะรู้ตัวดีว่าทำผิด เพ็ญจันทร์สั่งห้ามมัจฉาวาดภาพเด็ดขาดแต่มัจฉากลับฝ่าฝืนคำสั่งของเพ็ญจันทร์แอบวาดภาพ

 “ มัจทำอะไรอยู่ล่ะลูก เสียงดังไปถึงห้องทำงานของป้า  ”

“ มัจขอโทษ มัจไม่ได้ตั้งใจขัดคำสั่งของป้า  ป้าจะตีมัจก็ได้นะแต่ป้าอย่าฉีกรูปของมัจทิ้งเลยนะ  ”  เพ็ญจันทร์พูดไม่ออกไม่นึกว่ามัจฉาจะพูดกับตนเองด้วยประโยคนี้

“ ป้าไม่ฉีกรูปของมัจหรอกลูก  ป้าแค่เดินลงมาดูเฉยๆเท่านั้นเอง ”

“ ยืนทื่อเป็นท่อนซุงอยู่ได้ รีบเก็บของให้คุณหนูเร็ว คุณผู้หญิงเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ  ”  พิมภาสั่งให้จี๊ดและเปรี้ยวรีบเก็บของให้มัจฉากลับขึ้นไปเก็บบนห้อง

 “ วันนี้ป้าใจดีจัง ” มัจฉากำลังอ้าแขนไปกอดเพ็ญจันทร์แต่คำพูดของเพ็ญจันทร์เมื่อวันก่อนทำให้มัจฉาเปลี่ยนใจชักมือกลับทันที 

“ ทำไมมัจต้องกลัวป้าและทำตัวห่างเหินกับป้าอย่างนี้ด้วย  ป้าไม่ชินเลยที่มัจเป็นแบบนี้ ” เพ็ญจันทร์พึมพำกับตัวเองยืนมองมัจฉาเดินจากไป   พิมภาอดเป็นห่วงเพ็ญจันทร์ไม่ได้

“ วันนี้คุณผู้หญิงกินข้าวน้อยจัง กับข้าวไม่ถูกปากหรอค่ะ ”

“ ฉันไม่ค่อยหิว ค่ำแล้วมัจยังไม่กลับมาอีก โทรไปก็ไม่ยอมรับสาย ไม่รู้มัวทำอะไรอยู่ ”

“  ปลาช่อนเผาเกลือ  ต้มยำทะเล ของโปรดคุณผู้หญิง ” 

“ ฉันอิ่มแล้วยังจะยกมาอีก  เอาไปเก็บให้หมด  ”

“ คุณผู้หญิงยังอิ่มไม่ได้นะค่ะเพราะกับข้าวทั้งสองอย่างนี้เป็นฝีมือของคุณหนูและตอนนี้คุณหนูกำลังเดินมาที่โต๊ะอาหารด้วย ”  เพ็ญจันทร์เหลือบไปเห็นมัจฉากำลังเดินเข้ามา จี๊ดรีบออกไปต้อนรับมัจฉาทันที

“ คุณหนูกลับมาแล้ว คุณผู้หญิงรอกินข้าวอยู่ค่ะ ”

“ แต่ ! ” จี๊ดรีบจูงมือมัจฉาไปที่โต๊ะอาหาร เพ็ญจันทร์ถึงกับยิ้มออกเมื่อเห็นมัจฉาเดินมา

“ สวัสดีค่ะป้า ”

“ ไปไหนมา ทำไมไม่บอกป้าสักคำ ป้าโทรไปก็ไม่รับสาย ”

“ ป้าลืมไปแล้วหรอ ป้าเป็นคนบอกมัจเองไม่ใช่หรอว่าเวลาป้าทำงานไม่ให้มัจเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับป้า  ” เพ็ญจันทร์ถึงกับสะอึกพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำตอบจากปากของมัจฉา 

“  เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว มัจยังไม่ลืมอีก  ป้ากำลังโกรธเลยพูดออกไปอย่างนั้น ”

“ ป้าอาจจะลืมแต่มัจกลับจำได้แม่น ป้าไม่ได้พูดกับมัจแค่ครั้งเดียวแต่ป้าบอกมัจทุกครั้งที่มัจเข้าไปหาป้า ” มัจฉาพูดไม่คิดแต่คำตอบของมัจฉาทำให้เพ็ญจันทร์ยิ่งทุกข์ใจเข้าไปอีก  เพ็ญจันทร์พยายามหาเรื่องคุยกับมัจฉาแต่มัจฉากลับไม่คุยเพ็ญจันทร์เหมือนเมื่อก่อนยิ่งทำให้เพ็ญจันทร์ไม่สบายใจและกลุ้มใจมาก พรศรีทราบเรื่องของเพ็ญจันทร์จากสุปราณีย์ทั้งคู่นัดกันมาหาเพ็ญจันทร์ที่บ้าน

“  ลมอะไรหอบพวกเธอสองคนมาหาฉันพร้อมกันได้ ” เพ็ญจันทร์เอ๋ยปากถามเพื่อนสนิททั้งสองคน

“ พวกฉันสองคนเป็นห่วงเธอ สุเล่าให้ฉันฟังว่าเธอกลุ้มใจเรื่องยัยมัจ  ยัยมัจไปขัดใจอะไรเธออีกล่ะ ” 

“ เปล่า แต่ไม่รู้ทำไมช่วงนี้มัจทำตัวห่างเหินกับฉันชอบกล  ”

“ สุ ! เธอเจอหลานแล้ว ทำไมไม่บอกฉันบ้าง ” พรศรีดูกระตือรือร้นเมื่อได้ยินสุปราณีย์กล่าวถึงมัจฉา 

“ ฉันเจอยัยมัจทุกวัน ฉันเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของยัยมัจที่วิทยาลัย  ”

“ มีแต่ฉันคนเดียวที่ยังไม่เจอหลานแล้วนี้มัจไม่อยู่บ้านหรอ  ฉันไม่เห็นตั้งแต่มาถึง ” พรศรีถามถึงมัจฉา  

“  มัจออกไปตั้งแต่เช้า  ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าออกไปไหนเย็นๆคงกลับมา ”

“ ตกลงเธอกับยัยมัจทะเลาะอะไรกันอีกหรือว่าเธอบังคับให้หลานทำอะไรตายัยมัจไม่ยอมทำตามใจเธอ ” สุปราณีย์เอ๋ยถามเพ็ญจันทร์ตรงๆ พรศรียิ่งสงสัยในคำถามของสุปราณีย์เข้าไปอีก

“  เพ็ญเธอบังคับให้มัจทำอะไร ทำไมเธอไม่ให้หลานทำในสิ่งที่ตังเองชอบเค้าจะได้มีความสุข เธอไปบังคับให้หลานทำตามใจแบบนี้ เค้าไม่ได้มีความสุขในสิ่งที่เราเลือกให้แต่กลับทำให้เค้ามีแต่ความทุกข์ ”

“ รู้ตอนนี้มันก็สายเกินไปที่กลับไปแก้ไข เป็นไงล่ะคราวนี้คนที่ทุกข์ใจกลับเป็นเธอ ตอนหลานมาอยู่ใกล้ๆไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ฉันอยากสมน้ำหน้าเธอจริงๆ ”

“ เพ็ญ ! เธอไล่หลานไปไหน หลานทำอะไรผิด ถ้าเธอไม่ต้องการยัยมัจทำไมเธอไม่บอกฉัน  ฉันยินดีรับเลี้ยงเอง ”

“ ฉันไม่ได้ไล่ยัยมัจออกจากบ้านหรือว่าไปไหนทั้งนั้น ”

“ แค่ไล่ให้ยัยมัจไปพ้นหน้าเท่านั้นเอง ” สุปราณีย์พูดแทรกขึ้นมา 

“ ฉันผิดไปแล้ว  หากย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ทำแบบนี้หลาน ฉันไม่ได้ตั้งใจ   ”

“ ฉันว่าเธอรีบไปปรับความเข้าใจกับยัยมัจ ก่อนทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม ”  สุปราณีย์และพรศรีปลอบใจไม่ให้เพ็ญจันทร์คิดมากและคลายกังวลใจลงบ้าง หลังจากทำงานเสร็จมัจฉาแวะมาหาชลธีที่บ้าน ชลธีชวนมัจฉาไปเดินเล่นในสวนบริเวณบ้านพร้อมทั้งเอื้อมมือไปกอดคอมัจฉาด้วยความคุ้นเคย   มัจฉาหันหน้าไปสบตากับชลธี ดวงตาคู่ใสจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าต่างฝ่ายต่างรับรู้ความรู้สึกของกันแต่ละกัน

“ แกเป็นอะไรมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า ดูหน้าแกซิไร้อารมณ์สุดๆหรือว่าแกอกหัก ”  สองมือของชลธีจับแก้มขอมมัจฉาส่ายไปมา มัจฉาสะดุดก้อนหิน ชลธีใช้มือช้อนตัวมัจฉากลับมาที่เดิม มัจฉาอยู่ในอ้อมกอดสัมผัสไออุ่นจากแผงอกของชลธี

“ ตกลงแกเป็นอะไร แกตอบฉันมาซิ  ”

“ เป็นมนุษย์ มีสองเท้า สองแขน หนึ่งหัว  ”  ชลธีหมั่นไส้ในคำตอบของมัจฉาใช้มือคล้องคอมัจฉา มัจฉาเงยหน้าขึ้นสบตากับชลธี มัจฉายิ้มให้ชลธี ใบหน้าของชลธีแนบชิบกับใบหน้าของมัจฉา ศีรษะของทั้งสองคนตรงกันพอดี

“  คราวนี้แกบอกฉันได้มั้ยว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร ถ้าให้ฉันเดาคงเป็นเรื่องป้าเพ็ญ ”   มัจฉาพยักหน้า ชลธีปล่อยแขนออกจากต้นคอของมัจฉา

“ ทะเลาะเรื่องอะไรกันอีกล่ะ  แกกับป้าเพ็ญเกิดมาเพื่อเป็นศัตรูกันมากกว่าเป็นป้ากับหลาน เจอหน้ากันทีไรต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันประจำ ”

“ คงจริงถ้าที่แกบอก ตอนนี้ฉันไม่ได้ทะเลาะกับคุณนายเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ ฉันแทบไม่คุยกับคุณนายต่างหากล่ะ  ”  

“ ไม่ดีหรอว่ะแกไม่ต้องทะเลาะกับคุณนายแต่ทำไมหน้าแกไม่สดใสชื่นบานแต่กลับทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์  ”

 “ ฉันไม่คุยกับคุณนายต่างหาก ฉันเบื่อที่ต้องมาทะเลาะ   ฉันไม่อยากฟังคุณนายบ่น ฉันไม่อยากโดนคุณนายไล่เวลาฉันเข้าไปหา  คุณนายทำเหมือนฉันเป็นคนอื่นไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลาน  ฉันเหมือนเป็นคนนอกสายตาไม่เคยมีค่าและมีความสำคัญในชีวิต ”  มัจฉาพรั่งพรูความรู้สึกทั้งหมดภายในใจให้ชลธีได้รับรู้

“ ยังไม่ชินอีกหรอคุณหนูมัจ   ไม่เป็นไรฉันคนนึงที่รักแก  ”  ชลธีโน้มตัวลงกอดมัจฉา   สองกายแนบชิดสัมผัสไออุ่นซึ่งกันและกัน  ทุกอย่างสงบนิ่งและหยุดลงชั่วครู่หนึ่ง พ่อและแม่ของชลธีเดินผ่านเห็นชลธีกับมัจฉากำลังกอดกันอยู่ทั้งคู่เข้าใจผิดคิดว่าชลธีกับมัจฉาเป็นแฟนกัน

“  แกรักฉันจริงหรอ ฉันไม่เชื่อ ”

“  เชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้ ฉันรักแกจริง ”  

“ เชื่อก็ได้ ฉันก็รักแกเหมือนกัน  รักมานานแล้ว ”  มัจฉาขยับหน้าเข้าไปหอมแก้มของชลธีอีกครั้งหนึ่ง ชลธีเข้าใจว่ามัจฉารักตนเองแบบเพื่อนแต่มัจฉากกลับไม่รักชลธีแบบเพื่อน ความรู้แท้จริงของหัวใจถูกเก็บซ่อนไว้เพื่อมิตรภาพของสองเรา

 “ อย่าเพิ่งรีบกลับอยู่กินข้าวกันก่อน วันนี้แม่ของฉันทำคะน้าหมูกรอบของชอบแกด้วย ”

“ ขอบใจว่ะแต่วันนี้คงไม่ได้ ฉันมีงานต้องรีบทำให้เสร็จ  ”  ชลธีหน้ามุ่ย

“ ดูทำหน้าเข้าสิ อาทิตย์เดี๋ยวฉันมากินข้าวบ้านแก ” 

“ แกสัญญาแล้วนะ ห้ามลืมด้วย   ”   ชลธีเดินจูงมือมัจฉากลับบ้านพามัจฉาไปลาพ่อและแม่กับตนเองในบ้าน

“ พ่อค่ะ !  แม่ค่ะ ! มัจขอตัวกลับก่อน ”

“ ทำไมรีบกลับล่ะลูกอยู่กินข้าวกันก่อนซิ ”

“ ขอบคุณค่ะ มัจต้องรีบกลับไปทำงานให้เสร็จไว้โอกาสหน้า  ” มัจฉาพนมมือไหว้พ่อและแม่ของชลธี  พ่อและแม่ของชลธีพยักหน้าตอบรับ ชลธีเดินไปส่งมัจฉาที่รถ ชลธีโน้มตัวลงกอดกระซิบข้างหูของมัจฉา คำพูดสั้นๆของชลธีทำให้มัจถึงกับยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“  หัวใจดวงนี้ขอมอบให้คุณหนูมัจฉาเพียงคนเดียว ”  ชลธีสับสนกับความรู้ภายในใจของตัวเอง ความเข้าใกล้และความผูกพันตั้งแต่เด็กทำให้ชลธีแยกไม่อออกว่าตนเองรักมัจฉาแบบเพื่อนหรือว่าแบบคนรักแต่อบอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้

“ ไอ้มัจ ฉันชักสับสนตัวเองแล้วว่าฉันรักแกแบบไหน ความรู้สึกแบบนี้ฉันไม่เคยมีให้ก้องภพแต่ฉันกลับมีให้แกหรือว่าฉันกับแกสนิทกันมากจนทำให้ฉันคิดมากถึงความสัมพันธ์ของเราสองคน ”  ชลธีพึมพำเดินกลับเข้าภายในบ้าน 

“  ชล !  ” เสียงเรียกของสมาน ชลธีหันหลังกลับไปยังต้นเสียง สมานและมาลัยยิ้มกรุ่มกริ่ม ชลธีแปลกใจในท่าทีของพ่อและแม่

“  พ่อกับแม่เป็นอะไร ทำไมมองผมแปลกๆ ” 

“ ชลกับมัจไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ” ชลธีเอ๋ยปากถามตรงๆ ชลธีอึ้งไปคิดว่ามาลัยและสมานจะเข้าใจผิดคิดว่าตนเองกับมัจฉาเป็นแฟนกัน

 “ เปล่าครับ ผมกับมัจไม่ได้เป็นแฟนกันเราสองคนเป็นเพื่อน  ”

“ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ พ่อเห็นชลกับมัจยืนกอดกันกลมแถมหอมแก้มกันอีก   ถ้าชลเป็นแฟนกับมัจพ่อกับแม่ได้ว่าอะไรแต่ป้าขอมัจจะยอมให้ชลกับมัจคบกันหรือเปล่า นี้แหละปัญหา  ”

“ พ่อกับแม่คิดไปไกลแล้ว ผมขอตัวไปทำการบ้านดีกว่า ”  สมานและมาลัยสบตากันเข้าใจว่าชลธีคงเขิน  สมุด หนังสือของชลธีถูกวางลงบนโต๊ะแต่ชลธีกลับไม่สนใจมัวแต่คิดถึงคำพูดของสมานและมาลัย

“ ตกลงเรากับไอ้มัจเหมือนแฟนกันมากเลยหรอหรือว่าเราตกหลุมรักไอ้มัจเข้าแล้ว ” ชลธีบ่นพึมพำโน้มตัวลงนอน   มาริษากลับมาจากประชุมต่างจังหวัด เมื่อเห็นมัจฉาเดินเข้ามาในห้องเรียนมาริษาสวมกอดมัจฉาด้วยความคิดถึง มัฉฉาหอมแก้มมาริษาทำให้ทุกคนในห้องหันมามองทั้งสองคน 

“ คิดถึงจังเลยไม่เจอกันตั้งหลายเดือน เป็นไงบ้างไอ้น้องรัก  ได้ข่าวว่าได้งานใหม่แล้วนิ ”

“ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่โทรมาบอก มัจจะได้ไปรับที่สนามบิน ”

“ พี่มาถึงเมื่อเช้านี่เอง พุดเป็นไงบ้างพี่โทรไปไม่รับสายเลย ”

“ มัวแต่บ้าผู้ชายเหมือนหมาตัวเมียติดสัด ความรักบังตาจนลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว ลืมได้แม้กระทั่งน้องของตัวเอง ”

“ ช่วยอธิบายให้พี่ฟังหน่อย พี่ไม่เข้าใจที่มัจพูด ”

“ พี่พุดมีแฟนแล้วตั้งแต่มีแฟนบ้านไม่เคยกลับโทรไปก็ไม่รับสายแถมพี่พุดก็เชื่อทุกอย่างที่ไอ้ศิวามันพูด ”

“ อะไรกันเนี่ย พี่ไปอบรมไม่กี่วันกลับมาพุดมีแฟนแล้ว แฟนของพุดชื่ออะไร  ”

“ ศิวา ! ไอ้หมอนิสัยไม่ดีปลิ้นปล่อนกะล่อนตอแหล พี่พุดโดนมันหลอกยังไม่รู้ตัว ”

“ มีรูปไหม พี่ขอดูหน่อยใช่คนเดียวที่พี่รู้จักหรือเปล่า ” มัจฉาเปิดภาพของศิวาในโทรศัพท์ให้มาริษาดู มาริษาตกใจเมื่อเห็นรูปของศิวา

“ ไอ้ศิวา ! พี่รู้จักมันดีมันเคยหลอกเพื่อนพี่ไปขายซ่องโชคดีที่เพื่อนพี่หนีออกมาได้ พุดไม่หน้าโง่ไปคว้าผู้ชายเฮงซวยแบบนี้มาเป็นแฟน ”

ความรักบังตาทำให้คนเราลืมสิ้นทุกอย่างแม้กระทั่งน้องตัวเองยังลืมได้เห็นคนอื่นดีกกว่าทั้ง ๆ ที่มันมาทีหลังแต่พี่พุดกลับเชื่อมัน ”

“ พี่จะไปเตือนให้พุดระวังตัวเลิกกับมันได้ยิ่งดีเลย  ”

“ คงยาก มัจเตือนพี่พุดแล้วแต่พี่พุดไม่ฟังเลย ไอ้ศิวาพูดอะไรพี่พุดเชื่อไปหมดทุกอย่าง มัจเคยมันตอนไปเที่ยวผับกับน้ำหวาน ”

“ เราคงต้องดูอยู่อย่างห่าง ๆ กันแบบนี้ไปก่อน น้ำกำลังเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ถ้าไม่อย่างนั้นเรือจำคว่ำ ”

“ ไม่ใช่คว่ำธรรมดา พี่ว่าคว่ำไปถึงหน้าบ้านคุณนายเพ็ญจันทร์เลยละ ”  ฮ่า  ฮ่า ฮ่า

“ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ”  ชลธีชวนก้องภพมาหามัจฉาที่วิทยาลัย ก้องภพไม่อยากมาแต่จำใจต้องมา มัจฉาเห็นก้องภพมากับชลธีด้วยแสร้งทำสี่หน้าเป็นปกติทั้งที่ใจจริงไม่อยากเจอแม้แต่เงา มัจฉารู้ดีว่าก้องภพไม่ได้รักชลธีแม้แต่นิดเดียวแต่ที่เขาทนคบกับชลธีก็เพราะต้องการเป็นที่ยอมรับของทุกคนในโรงเรียน ชลธีมีทุกอย่างให้เขาตามที่ใจต้องการหมดผลประโยชน์เมื่อไหร่แล้วค่อยแยกทางไปมีคนอื่น

“ ไอ้มัจแกอยู่ไหน ทำไมฉันหาแกไม่เจอเลย  ”

“ ฉันอยู่นี้ ” มัจฉาโผล่หัวขึ้นมาพ้นมาจากผิวน้ำแกล้งใช้มือตวัดน้ำใส่ชลธีน้ำกระเด็นไปโดนหน้าก้องภพ  มัจฉาแอบยิ้มด้วยความสะใจ ก้องภพหงุดหงิดไม่พอใจมัจฉาแต่แกล้งทำตัวเป็นปกติในใจคิดหาวิธีเอาคืนมัจฉา

“ แกลงไปทำอะในน้ำ แดดแรงขนาดนี้หน้าดำคล้ำแดดกันพอดี นี่แกทาครีมกันแดดแล้วหรือยัง ”

“ ทำกระชังเลี้ยงปลา พรุ่งนี้จะเอาลูกปลานิลมาอนุบาลเลยต้องรีบทำให้เสร็จ ”

“ ฉันซื้อน้ำมาฝากแกด้วย ”

เนื้อหาโดย: ต้นรัก
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Tonruk's profile


โพสท์โดย: Tonruk
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชัยชนะของทรัมป์ ทำราคาทองตลาดโลกดิ่งลงเหวจับด่วน! ทนายตั้มและภรรยาถูกจับกลางทางที่ฉะเชิงเทรา ก่อนถึงชายแดนสระแก้วเผยภาพ พอร์ชสีน้ำตาล ทนายตั้ม ขับออกจากบ้าน มุ่งหน้าสู่สระแก้วทางกัมพูชา ได้ทดลอง นำเรือ "สุพรรณหงส์" และ "เรือนาค" ที่ทำเอง ลงไปลอยน้ำแล้ว เบื้องต้นเรือลอยน้ำได้อยู่ แต่ยังไม่ได้ใส่ฝีพายลงไปวิจารณ์ยับ! สาวดึงทิชชูห้องน้ำสาธารณะหมดม้วน กลับบ้านตำรวจรวบทนายตั้มแล้ว หลังพบว่ากำลังมุ่งหน้า จ.สระแก้วอาหารเช้าแสนง่าย อิ่มทนชูวิทย์ หอบพวงมาลัยขอขมา สนธิ อภัยทุกเรื่องโรคคลั่งกินคลีน (orthorexia) คนรักสุขภาพต้องระวังสาวมาเลย์กระดูกขาหัก 2 ท่อง ขณะเล่นสไลเดอร์ที่สนามบินชางงี ทำพลาดเที่ยวบินกลับบ้าน 😔ดีเจชาวลาวเคลม "ลาวดวงเดือน"ไม่ใช่เพลงไทยชายอินเดียเสียชีวิตทันที หลังนั่งทับประทัดแล้วจุด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชายอินเดียเสียชีวิตทันที หลังนั่งทับประทัดแล้วจุดชัยชนะของทรัมป์ ทำราคาทองตลาดโลกดิ่งลงเหววิจารณ์ยับ! สาวดึงทิชชูห้องน้ำสาธารณะหมดม้วน กลับบ้านอาหารเช้าแสนง่าย อิ่มทน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
“โกเบคลี เทเป” (Gobekli Tepe) วิหารแห่งแรกของโลกปราสาทจามปา โปกลองการาย (Po Klong Garai Temple)รีวิวHarry Potter!!🌲ประตูสู่โลกที่ไม่เคยมีใครรู้จัก✨ตอนที่ 4
ตั้งกระทู้ใหม่