อาถรรพ์ "บ้านไม้ริมน้ำ"
ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายหนึ่ง มีบ้านไม้เก่าแก่หลังหนึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำ บ้านหลังนี้ถูกทิ้งร้างมานานหลายสิบปี ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เพราะเรื่องราวที่ถูกเล่าขานกันมาว่าบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยอาถรรพ์ ผู้คนที่เคยเข้าไปใกล้ๆ กลับต้องพบกับโชคร้ายหรือบางคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านนั้น แต่เสียงกระซิบจากคนในหมู่บ้านก็มักจะพูดถึงมันเสมอ
กวี นักเขียนหนุ่มวัย 28 ปี ที่เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ เพื่อหาความสงบและแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ เขาได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านไม้ริมน้ำจากชาวบ้านหลายคน แต่ด้วยความที่ไม่เชื่อในเรื่องผีหรืออาถรรพ์ใดๆ เขาจึงตั้งใจว่าจะเข้าไปสำรวจบ้านหลังนี้ด้วยตัวเองเพื่อหาคำตอบว่าเรื่องเล่านั้นเป็นแค่ตำนานหรือจริง
หลังจากตัดสินใจแล้ว กวีจึงไปที่บ้านไม้ริมน้ำในช่วงเย็นของวันหนึ่ง บ้านไม้หลังนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับริมน้ำ มีเสียงคลื่นลมเบาๆ ที่ปะทะฝั่งและต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่รอบบ้าน ดูเหมือนบ้านที่เต็มไปด้วยอดีตและความเงียบสงบ แต่เมื่อกวีเข้าไปใกล้ประตูไม้เก่า เขากลับรู้สึกถึงลมเย็นที่พัดออกมาเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างรออยู่ภายใน
เมื่อกวีผลักประตูเข้าไป ภายในบ้านเต็มไปด้วยฝุ่นหนาและอากาศที่อบอ้าว เขาเดินผ่านห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความมืดและเสียงขูดขีดจากไม้กระทบกัน ภาพที่เขาเห็นทำให้เขารู้สึกขนลุก—ราวกับมีอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยเป็นมิตร
เมื่อกวีเดินไปถึงห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าที่เคยใช้ เขาก็เห็นภาพหนึ่งที่ทำให้เขาหยุดชะงัก—เป็นภาพถ่ายเก่าของครอบครัวหนึ่งที่ยิ้มแย้มอยู่ในกรอบรูปไม้ ภาพนั้นดูเหมือนจะเป็นภาพที่เคยอยู่ในบ้านนี้มาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือ ผู้ชายในภาพนั้นมองเขาด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าเหมือนกำลังจ้องมองไปที่เขา
ทันใดนั้นเอง เสียงลมก็พัดแรงขึ้น เหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนไหวในความมืด กวีหันไปมองและเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งในชุดผ้าขาวลอยผ่านไปในห้อง เขาพยายามไล่ตามเงานั้น แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ กลับไม่พบอะไรเลย
แต่สิ่งที่ทำให้กวีตกใจยิ่งกว่าคือเสียงก้องจากมุมหนึ่งของบ้าน "ออกไปจากที่นี่!" เสียงนั้นดังก้องในหัวของเขา เขาพยายามเบือนหน้าหนี แต่เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง "ออกไป... อย่าอยู่ที่นี่!"
กวีวิ่งออกจากบ้านอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาวิ่งไปที่แม่น้ำโดยไม่หันกลับไปมอง ทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบสงัด จนกระทั่งเขามาหยุดที่ริมฝั่งน้ำ เขาหันมองไปที่บ้านไม้ริมน้ำที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า และเห็นแสงจากหน้าต่างบ้านที่ยังคงส่องออกมา แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ในนั้นแล้ว
คืนต่อมา กวีไม่สามารถหลับตาหลับตาได้ เขาเริ่มเห็นภาพต่างๆ ในความฝัน—ภาพของผู้หญิงในชุดผ้าขาวที่เคยเห็นในบ้านไม้ริมน้ำ เธอยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่เศร้าหมองและกล่าวว่า "อย่าหนี... เพราะคุณคือคนที่ถูกเลือก"
เมื่อกวีตื่นขึ้นมา เขารู้สึกถึงอาการอ่อนเพลียและเครียดมากกว่าเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นทำให้เขารู้ว่าไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญหรือจินตนาการ แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่เขาควรจะหาคำตอบให้ได้
วันต่อมา เขาไปหาชาวบ้านที่เคยเล่าเรื่องบ้านไม้ริมน้ำให้เขาฟัง และได้คำตอบที่น่าสะพรึงกลัวจากหญิงชราผู้หนึ่ง
"บ้านไม้ริมน้ำนั้นเคยเป็นบ้านของครอบครัวหนึ่ง... แต่ในวันหนึ่ง ชายคนหนึ่งในครอบครัวนั้นเกิดเสียชีวิตในอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้หญิงในบ้านได้หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหน แต่หลังจากนั้น ครอบครัวนั้นก็เริ่มพบกับอาถรรพ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้"
"บ้านหลังนั้นถูกทิ้งร้างมานาน และวิญญาณของหญิงสาวที่หายตัวไปยังคงหลอกหลอนคนที่กล้าเข้าไปในบ้าน เสียงของเธอที่ร้องเรียกอยู่ในบ้านนั้นคือการขอให้คนช่วยตามหาครอบครัวของเธอที่หายไป... แต่ใครก็ตามที่เข้าไปโดยไม่เข้าใจเรื่องราว จะต้องตกอยู่ในคำสาปของเธอและถูกดึงเข้าไปในโลกที่เธอสูญเสียไป"
คำพูดของหญิงชราทำให้กวีเริ่มเข้าใจว่าเขาไม่ได้เผชิญกับเรื่องเล่าธรรมดา แต่เขาได้เข้าไปในที่ที่ไม่ควรไป บ้านไม้ริมน้ำไม่ได้เป็นเพียงแค่บ้านที่ถูกทิ้งร้าง แต่มันคือสถานที่ที่วิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งรอคอยการช่วยเหลือจากใครสักคน—และตอนนี้ กวีคือคนที่ถูกเลือกให้ช่วยเธอแก้แค้นและปลดปล่อยคำสาปนั้น
แต่นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ และไม่รู้ว่าจะออกจากที่นี่ได้หรือไม่...
ภาพถ่ายโดย Kirandeep Singh Walia: https://www.pexels.com/th-th/photo/16249340/