วันนี้ผมจะมานำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินและการลงทุนในลักษณะที่ทำให้เป็นคนรวย
นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมสามารถสรุปบางหลักการสำคัญได้จากหนังสือ:
1. แยกแยะระหว่างสินทรัพย์และหนี้สิน:
สินทรัพย์คือทรัพย์สินที่มีมูลค่าและสามารถสร้างรายได้หรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ตัวอย่างของสินทรัพย์ได้แก่ บ้านที่มีค่าสูงขึ้น เงินสะสมในบัญชีธนาคาร, การลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์
หนี้สินคือความหนี้หรือสิ้นค้าที่ต้องชำระในอนาคต ตัวอย่างของหนี้สินได้แก่ เงินกู้จากธนาคาร, สินเชื่อที่จ่ายที่ร้านค้า หรือการผ่อนชำระเครื่องใช้ไฟฟ้า
การสรุปคือ สินทรัพย์เป็นสิ่งที่เพิ่มมูลค่าในอนาคต ในขณะที่หนี้สินเป็นสิ่งที่ต้องชำระคืนในอนาคต การมีสินทรัพย์มากแต่มีหนี้สินด้วยอาจเป็นสิ่งที่ผลักดันความรวยของเรา เพราะสามารถใช้สินทรัพย์ในการสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่การมีหนี้สินมากแต่ขาดสินทรัพย์อาจทำให้เป็นผู้มีความเสี่ยงมากในกรณีที่ไม่สามารถกำไรอดทนและรับผิดชอบต่อหนี้สินได้
2. กลยุทธ์การลงทุน: หนังสือนี้เสนอกลยุทธ์การลงทุนทีตลาดหลักทรัพย์,:
การหาและตรวจสอบข้อมูลเทคนิคการลงทุน: ความสำเร็จในการลงทุนที่น่าดึงดูดพบได้จากการมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับตลาดการเงินและเครื่องมือการลงทุนต่างๆ เข้าใจในข่าวสารทางการเงิน ต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่คุณสนใจก่อนที่จะลงทุน
การกระจายการลงทุนหมายความว่าคุณควรลงทุนในหลายๆ ชนิดของสินทรัพย์แทนการใช้เงินลงทุนให้โดยเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การกระจายการลงทุนช่วยลดความเสี่ยงและรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น การลงทุนในกองทุนรวมที่ควบคุมความเสี่ยงได้ระดับ พร้อมกับการสร้างบล็อกสูง เป็นต้น สินทรัพย์เช่นนี้มีโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่เสถียรและมั่นคงในระยะยาว
โดยส่วนตัวจะคำแนะนำว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทำความเข้าใจและศึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนอื่นๆ ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาหรือเงื่อนไขทางการเงินที่แตกต่างกันไป
3. การสร้างรายได้เสริม: นอกจากการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือการดำเนินธุรกิจของตนเอง หนังสือยังเสนอแนวคิดในการสร้างรายได้อื่นๆเพิ่มเติม :
หางานพาร์ทไทม์เพิ่มเติมที่คุณสามารถทำในเวลาว่าง เช่น งานออนไลน์ เช่น การเขียนบทความ การออกแบบกราฟิก หรือ การเป็นช่างภาพ นอกจากนี้คุณยังสามารถทำงานที่ร้านอาหารหรือร้านค้าเพื่อเพิ่มรายได้ระหว่างสัปดาห์ได้ด้วย
ขายสินค้าออนไลน์: หากคุณมีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถขายได้คุณสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เว็บไซต์ส่วนตัว หรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว เช่น Etsy หรือ Shopee
รับจ้างทำงานออนไลน์: คุณสามารถรับจ้างทำงานแบบออนไลน์เช่น เขียนบทความ เพื่อนำสิ่งนี้ไปใช้กับเว็บไซต์ แปลภาษา การออกแบบกราฟิก หรือการบรรณาธิการรูปภาพได้
ให้บริการวิชาการ: หากคุณมีความเชี่ยวชาญในบางด้านเช่น การสร้างเว็บไซต์ การทำโปรโมชั่น หรือการบริหารจัดการ คุณสามารถให้บริการวิชาการให้กับบุคคลหรือธุรกิจอื่นได้ ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย
หากคุณมีเงินออมที่ว่างไว้ คุณสามารถลงทุนในทรัพย์สินหรือตลาดที่น่าสนใจ เช่น ตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายสกุลเงิน หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
สร้างธุรกิจของตัวเอง:หากคุณมีความฝันที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองคุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจของคุณเองได้ เลือกไอเดียธุรกิจที่สอดคล้องกับความสนใจและความเชี่ยวชาญของคุณ
ใช้ทักษะเสริมหากคุณมีความสามารถเฉพาะทาง เช่น การเล่นเครื่องดนตรี การวาดรูป หรือการสร้างออร์แกนิคสำหรับเกม คุณสามารถใช้ทักษะพิเศษดังกล่าวในการจัดอบรมหรือการสอนอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เสริม
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใดก็ตาม ควรตั้งเป้าหมายและสร้างแผนการเพื่อให้มีความสำเร็จในการสร้างรายได้เสริมของคุณ
4. การเตรียมความพร้อมในเชิงการเงิน: สำคัญที่ต้องมีแผนการเงินที่ชัดเจนและมีเป้าหมายที่เหมาะสม เช่นการสร้างแผนบัจจุบันและอนาคตในการเงิน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการรายจ่ายและรายได้อย่างระเบียบเรียบร้อย:
กำหนดเป้าหมายการเงิน: กำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการให้เพียงใด อาทิ เพื่อทำกุศล การออมเงินเพื่อซื้อบ้านหรือรถ หรือการสร้างก้อนทรัพย์ให้กับครอบครัว เป็นต้น การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีแผนการเงินที่เหมาะสมและตัดสินใจทางการเงินที่สมเหตุสมผล
สร้างงบประมาณ: การสร้างงบประมาณช่วยให้คุณรู้เงินที่คุณมีอยู่และวางแผนการใช้จ่ายได้ตรงตามเป้าหมายทางการเงินของคุณ แบ่งงบประมาณตามความสำคัญของรายการ ไม่ลืมเฉลี่ยรายรับและรายจ่ายเดือนละโดยรวม งบประมาณที่ดีจะช่วยคุณในการควบคุมการใช้เงินได้ดี และทำให้คุณมีเงินสำรองสำหรับฉุกเฉิน
คำนวณหนี้สิน: ทำการตรวจสอบหนี้สินที่คุณมีอยู่และจัดการให้ค้างชำระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงสุดให้เสร็จสิ้นก่อน นอกจากนี้คุณอาจต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการชำระหนี้เพื่อลดดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่าย เช่น การผ่อนชำระหนี้เมื่อมียอดค้างตั้งเซน เป็นต้น
สร้างเงินสำรองฉุกเฉิน: เงินสำรองฉุกเฉินช่วยให้คุณมีทุนสำรองเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางการเงิน เช่น ฉุกเฉินการเสียงงานและค่ารักษาการตัว เจ้าของบ้านและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอื่นๆ
การลงทุน: หากคุณมีเงินทองสุทธิที่เหลือจากการออมหรือการลดหนี้คุณอาจต้องพิจารณาการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนเงินที่มีอยู่ คุณสามารถเริ่มจากการศึกษาเกี่ยวกับตลาดการเงินและเครื่องมือการลงทุนต่างๆที่เปิดให้บริการ แต่ก็ควรจดจำว่ามีความเสี่ยงในการลงทุนด้วย
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเงิน: เป็นสิ่งสำคัญที่จะให้คำแนะนำให้คุณเตรียมตนให้พร้อมในเชิงการเงิน แต่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการเงินที่ไม่ดี เช่น การหยุดใช้บัตรเครดิตหรือสืบค้นรายการทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ
ทำการวางแผนเชิงบุคคลด้วยความรู้ด้านการเงินส่งผลให้คุณมั่นใจและเตรียมความพร้อมในภาวะที่ไม่แน่นอนทางการเงิน
หนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" เป็นหนังสือที่มีข้อมูลรายละเอียดและแนวคิดที่มีประโยชน์สำหรับการเพิ่มความรู้ในการเงินและการลงทุน แนะนำให้คุณอ่านหนังสืออย่างละเอียดเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากเนื้อหาในหนังสือนี้