🙏น้ำปานะ ทำอย่างไร ถวายพระได้ไม่ผิดศีล🙏
น้ำปานะ ตามหลักพระวินัย คือ เครื่องดื่มหรือน้ำที่คั้นจากผลไม้ที่สุกเองโดยธรรมชาติ เท่านั้น สามารถเก็บไว้ 1 วันกับ 1 คืนเท่านั้น และต้องไม่มีเนื้อเจือปน
จุดประสงค์หลักของน้ำปานะ เพื่อบรรเทาความหิวกระหาย และการดับธาตุไฟที่เผาผลาญอาหารอยู่ภายในร่างกาย เพื่อให้สามารถปฏิบัติกิจของสงฆ์ต่อได้ เมื่อรู้หลักแล้วหากพุทธศาสนิกชนท่านใดจะถวายน้ำปานะ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น
สำหรับผู้ถือศีลแปดจะฉันได้ เฉพาะบางช่วงเวลา ไม่ได้ฉันได้ตลอดเวลาเพราะว่าน้ำหวานเมื่อทานเข้าไปแล้วท้องเราจะอืด มีแต่ลม ปฏิบัติธรรมไปก็ไม่สะดวก
ถ้าฉันได้ตลอดเวลาคงไม่ใช่การถือศีลปฏิบัติธรรม ติดในรสอร่อยไป
น้ำขิง น้ำมะตูม น้ำว่านหางจรเข้ สามารถฉันได้ ไม่มีวุ้นของว่านหางจระเข้ ไม่มีการปรุงแต่งใดๆ
สรุปน้ำปานะ คือ ...
เครื่องดื่มที่คั้นจากลูกไม้ หรือ น้ำคั้นผลไม้ จัดเป็น "ยามกาลิก" คือ
ของที่พระภิกษุสงฆ์รับประเคนไว้แล้ว
ฉันในช่วงหลังเที่ยงไปได้ทั้งวันทั้งคืนก่อนรุ่งเช้า
- พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตน้ำปานะ
หรือน้ำดื่ม 8 ชนิดคือ
1. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลมะม่วง
2. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลหว้า
3. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลกล้วยมีเมล็ด
4. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลกล้วยไม่มีเมล็ด
5. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลมะซาง
6. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลจันทน์ หรือผลองุ่น
7. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลเหง้าบัว
8. น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลมะปราง หรือผลลิ้นจี่
- และทรงอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด
ยกเว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก
- อนุญาตน้ำใบไม้ทุกชนิด
เว้นน้ำผักดอง
-อนุญาตน้ำดอกไม้ทุกชนิด
เว้นน้ำดอกมะซาง
- และทรงอนุญาตน้ำอ้อยสด
สรุปได้ว่า
ในเวลาวิกาลพระท่านสามารถดื่มน้ำผลไม้ได้ทุกชนิด เว้นผลไม้ที่มีผลใหญ่กว่าผลมะตูม หรือผลมะขวิด ที่เรียกกันว่าเป็นมหาผล
สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมจะทราบดี แต่หากผู้ใดที่ต้องการถวายน้ำปานะ คงรู้วิธีทำและ สามารถนำมาถวาย โดยไม่ผิดหลักพระพุทธศาสนา