9 ข้อคิด ‘ศาสตร์มืด’ ที่คุณจะต้องคิดว่าจริง
ข้อคิดสายดาร์กที่จะทำให้เราได้เปิดหูเปิดตากับแนวคิดสายดาร์กที่ใช้จิตวิทยาของคน ในการจะใช้มีดีแต่ก็เป็นสิ่งที่อันตรายในคราวเดียวกัน เมื่อมีคนนำข้อคิดเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด แต่จะเป็นคุณมากเมื่อเรานำมันมาใช้ในทางที่ดี และอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าช่างเป็นจิตวิทยาที่ทำให้น่าหงุดหงิดแต่ดันถูกต้องขึ้นมา
1. อย่าทำตัวโดดเด่นเกินกว่านายของท่าน เรามักจะจำประโยคพูดนี้ได้ว่า 'ดีได้ แต่อย่าเด่น' การไม่ทำตัวเด่นในบางเวลาจะเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเรา การโดดเด่นมากจนเกินไป ยืนอยู่ตรงแสงไฟตลอดเวลา จะไม่เป็นผลดี เวลาเรามองเข้าไปในสังคม เราจะเห็นธรรมชาติของนิสัยมนุษย์
คนเรามักจะขุ่นเคืองหรืออิจฉาคนที่โดดเด่นมากจนเกินไป แต่การที่เรารู้จักผลักแสงเป็น รู้ว่าควรแสดงความเด่นตัวเองมาตอนไหน เราจะสามารถบริหารความสามารถของตัวเองได้ดีขึ้น และยังไม่ก่อให้คนรอบตัวรู้สึกทางแง่ลบต่อตัวเราเองอีกด้วย
2. พูดให้น้อยกว่าจะเป็นและอ่านคนให้ฉลาด หาจุดอ่อนของอีกฝ่ายด้วยการสังเกต ปากและลิ้นคือสิ่งที่ทำให้เชื่องได้ยากที่สุด เวลาที่เราพูดนาน เราจะเผลอพูดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกมา เมื่อเราปล่อยให้มันไปเรื่อย ๆ มันจะกลายเป็นเจ้านายของเราแทนที่เราจะเป็นนายของคำที่เราพูด
ตระหนักถึงคำพูดของตัวเองให้ดี ฟังและหมั่นสังเกตให้บ่อย มากกว่าที่จะพูดมาก เพราะยิ่งพูด คุณก็จะยิ่งกลายเป็นคนธรรมดา ไม่มีระดับมากเท่านั้น ทักษะในการอ่านคนง่าย ๆ คือ ตาดู หูฟัง แต่อย่าไปถาม นั่นจึงเป็นข้อดีของการฟังให้มากและฝึกสังเกตเสมอ
3. จงแสร้งโง่เขลา คนแกล้งโง่คือคนฉลาดและมักจได้ผลประโยชน์ในภายหลัง คนแลาดมักจะแพ้คนฉลาดน้อยเสมอ นี่เป็นข้อคิดที่นำมาจากจิตวิทยามนุษย์ที่มักชอบโอ้อวดความรู้ตัวเอง ความเก่งและความฉลาด เป็นความรู้สึกที่เขามี แต่จงอย่าดูถูกสติปัญญาของพวกเขาเด็ดขาด
แต่ให้เราแสร้งทำตัวเองให้ไม่รู้เรื่อง ดูไร้เดียงสา และพวกเขาจะบอกสิ่งที่รู้ให้เรามากขึ้นเรื่อย ๆ
4. การหลอกหลวงคือการพิชิตชัยชนะ นี่คือทักษะข้อคิดจากกลยุทธ์ศึก พวกเขาได้สอนแนวคิดซ้อนทับความคิดที่อยู่เหนือ โดยการแสร้งว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่มี ไม่สามารถต่อสู้ชนะได้ แต่ความจริงมันคือหลักของการเอาชนะคน
หากเราพบเจอคนที่โมโหง่าย ให้เราเอาชนะด้วยความคิดที่ยืดหยุ่นมากกว่า และอีกฝ่ายจะสูญเสียการตัดสินใจได้อย่างง่าย ๆ หรือหากอีกฝ่ายเป็นพวกชอบหาแต่ผลประโยชน์ ให้คุณลองยื่นข้อเสนอที่มีผลในระยะสั้น และทำให้เขาเริ่มสับสนกับข้อเสนอที่ดีจนต้องคว้าไว้
5. จงสละผลประโยชน์ระยะสั้น เพื่อผลระยาว ข้อคิดจากกลยุทธ์ศึก นำมาจากธรรมชาติการตอบสนองความปรารถของมนุษย์ ที่มักจะชอบการเป็นผู้รับ โดยไม่เกี่ยงว่าจะจริงใจหรือไม่ก็ตาม เป็นการสอนให้เรารู้จักสละของบางอย่างก่อน โดยให้คิดอย่างรอบคอบว่าผลระยะยาวที่เราจะได้รับในอนาคตนั้นคุ้มค่าตามที่วางไว้หรือไม่ หากมันคุ้มค่าให้เราละทิ้งสิ่งที่จะเป็นด่านหน้า
เป็นการฝึกฝนมองวิสัยทัศน์ให้กว้างขวางยืนยาวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
6. จงเข้มงวดในกฏระเบียบ ข้อคิดจากกองทัพของผู้นำ นี่เป็นการคิดถึงการฝึกฝนควบคุมจิตใจผู้คนให้ทำตามเรา โดยการฝึกฝนนั้นจะเริ่มต้นมาจากตัวของคุณที่มีระเบียบ คุณธรรม และสม่ำเสมอ
เมื่อคุณทำสิ่งที่เป็นระบบอย่างสม่ำเสมอ เป็นคนซื่อสัตย์ มีรูปแบบความคิดที่สามารถนำทางผู้อื่นได้ เป็นตัวอย่างของระเบียบได้ แน่นอนว่าการเอาชนะจนควบคุมจิตใจผู้คนจะสูงขึ้น
7. จงระวังมิตร แต่จงเป็นเพื่อนกับศัตรู นี่คือหลักจิตวิทยาที่เกิดมาจากความเชื่อใจของมนุษย์ เพื่อนกลับเป็นคนที่อิจฉาง่าย ไม่พอใจ มักจำมองต่ำกันเอง หรือรังแกกันและกันได้ง่าย และมักจะมีการเปรียบเทียบกันและกันตลอดเวลา ยิ่งกว่าคนที่เกลียดคุณ เพราะเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณ ไม่สนใจคุณ เพราะแบบนั้นพวกจึงอาจจะจริงใจกับคุณมากกว่าก็ได้
เพราะแบบนั้น หลักแนวคิดนี้จะสอนให้เรารู้จักระมัดระวังตัวเอง ระวังจิตใจของตัวเองที่มักจะเกิดความอิจฉาต่อคนอื่นได้ จงพัฒนาตัวเองจากภายใน ใช้ความรู้สึกด้านลบมาทำให้เราเก่งขึ้นไปอีก และผู้ที่นำศัตรูมาเป็นพวกได้ คุณคือยอดคนนั่นเอง
8. หน้าหนาใจดำ นี่เป็นหลักแนวคิดทางธุรกิจ เป็นข้อคิดที่สอนให้เรารู้จักตนเอง และไม่ได้สอนให้คุณดำเนินชีวิตไปกับความคิดความต้องการของผู้อื่น โดยหลักแนวคิดนี้จะทำให้คุณเป็นคนที่เด็ดขาดในสิ่งที่ทำได้เป็นอย่างดี โดยสอนให้เรารู้จักละทิ้งความคิดเห็นผู้อื่นให้เป็น
โดยรู้จักที่คัดกรองความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ไม่คิดเล็กน้อยในเรื่องข้อคิดเห็นที่มันมีแต่ด้านลบ ฝึกที่จะมองหาผลประโยชน์จากความกลัว เมื่อเราเริ่มรู้สึกกลัวหรือว่าผิดต่อผู้อื่น แต่เราจะต้องมองข้ามไปและก้าวไปต่อ
9. ชิงชัยด้วยความคิดลบ บนโลกใบนี้มีความคิดลบและบวก ผสมปนเปกัน โลกใบนี้มีดำขาว และมันจึงกลายเป็นข้อสรุปของโลกสีเทาที่พวกเรามักจะเรียกกัน แต่ความคิดลบจะทำให้คุณรู้ทันการดำเนินไปของคนและโลก แต่ไม่ควรคิดลบมากจนเกินไป เพราะความคิดลบก็เหมือนกับการคาดการณ์ทางตันล่วงหน้า มันก็คือปัญหา และความคิดบวกนั้นก็คือการแก้ปัญหาของควมคิดลบนั้น
สิ่งที่นำมาบอกต่อนี้ มันอาจจะเป็นเนื้อหาที่น่ากังวลใจ แต่ถ้าเราชอบการพัฒนาตัวเอง และไม่ใช่คนที่จะนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด
แต่นำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ปรับเปลี่ยนให้เป็นทัศนคติเชิงบวกได้ จะทำให้เกิดผลดีในชีวิต อนาคตการทำงานรวมไปถึงการเข้าสังคมได้เป็นอย่างดีแน่นอน
**********************************************
จบสรุป ตำราศาสตร์มืด แล้วพบกันใหม่นะ