วิโรจน์ ก้าวไกล จี้ ทบ. ต้องมีคำตอบ "น้ำมันหาย 2 แสนลิตร"
“วิโรจน์” จี้ ทบ. แจง น้ำมัน มทบ.18 สระบุรี หายไป 2 แสนลิตร
ต่อให้รั่วไหลหรือระเหย ก็คงไม่มากมายขนาดนี้
วันที่ 23 ก.ย. 2566 จากกรณีสำนักข่าว ไทยพีบีเอส นำเสนอข่าว รายงานข้อมูล (ลับ) ผลการตรวจพิเศษ การส่งกำลัง สป.3 ส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท 3 (น้ำมันเชื้อเพลิง) มทบ.18 (มณฑลทหารบกที่ 18 สระบุรี) โดยตรวจพบว่าตรวจน้ำมันดีเซลขาดบัญชี (สูญหาย) จำนวน 215,897 ลิตร
ล่าสุด นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข่าวดังกล่างลงบนทวิตเตอร์ (X) ส่วนตัว พร้อมระบุข้อความดังนี้
“ข่าวรายงานว่า น้ำมันเชื้อเพลิงของ มทบ.18 สูญหายไปถึง 215,897 ลิตร ถ้าสูญหายจริงตามข่าว เรื่องนี้จำเป็นต้องชี้แจงต่อสังคมว่าน้ำมันขนาดนี้หายไปได้อย่างไร ลำพังการรั่วไหล หรือการระเหย คงไม่หายไปมากขนาดนี้”
หลังจากนั้นไม่นาน ทางด้าน กองทัพบก ก็ออกมามีความเคลื่อนไหวโดย รองโฆษกกองทัพบกเปิดเผยถึงกรณีประเด็นน้ำมันหน่วยทหารสระบุรีหายกว่า 2 แสนลิตร ยันทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ มีการตั้งกรรมการสอบกรณีเบิกจ่ายน้ำมันแล้ว รอผลสรุป
จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับการตรวจสอบการเบิกจ่ายน้ำมันของหน่วยทหารพื้นที่สระบุรี ซึ่งระบุว่าอาจมีการสูญหายเป็นจำนวนหนึ่งนั้น
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) พลตรีหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าอาจมีการสูญหายเป็นจำนวนหนึ่งนั้น ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เกิดจากเมื่อปี 2565 กองทัพบกได้ส่งชุดตรวจพิเศษการส่งกำลัง โดยกรมจเรทหารบก ไปตรวจสอบการเบิกจ่ายเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์สำคัญทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และชุดตรวจพิเศษได้เข้าตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายและเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยในพื้นที่ จ.สระบุรี ได้ตรวจพบข้อสังเกตในการเบิกจ่ายน้ำมัน จึงรายงานให้กองทัพบกทราบ ต่อมาเมื่อมิถุนายน 2566 กองทัพบกจึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมโดยเจ้ากรมจเรทหารบกเป็นประธาน เพื่อตรวจสอบในรายละเอียดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกำลังเร่งดำเนินการยังไม่ได้สรุปผล หากผลสอบสวนปรากฏมีผู้ที่ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการก็จะเสนอให้พิจารณาลงโทษต่อไป
“ขอเรียนว่าเมื่อกองทัพบกได้รับรายงานว่าอาจมีความไม่เรียบร้อยในการเบิกจ่ายและเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ดังกล่าว กองทัพบกได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสอบสวนด้วยความรอบคอบ ครอบคลุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง และรายงานสรุปผลสอบสวนให้ทราบโดยเร็ว ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องบริหารจัดการสิ่งอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ กรณีนี้กองทัพบกให้ความสำคัญในการตรวจสอบทุกข้อมูลข้อเท็จจริง และจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติงานตามปกติ การเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยทหารกองทัพบก จะมีระบบการควบคุมตรวจสอบตามวงรอบระบบส่งกำลังบำรุงนอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบช้ำด้วยชุดตรวจพิเศษการส่งกำลังจากกรมจเรทหารบกเพื่อให้หน่วยปฏิบัติได้เรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการในลักษณะการตรวจสอบภายในองค์กรด้วย โดยกองทัพบกได้จัดชุดตรวจพิเศษในลักษณะดังกล่าวเข้าดำเนินการตรวจสอบการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์สำคัญ เช่น วัตถุระเบิด อาวุธ กระสุน รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเป็นการกำกับดูแลภายในอีกระดับหนึ่ง”