หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โลกใบหน้าคงดีกว่านี้

เนื้อหาโดย toomthong001

 

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้จะมาเขียนเรื่องเล่าสั้นๆที่สะท้อนสังคมในเมืองจีนบางครอบครัว

 

เป็นที่เรารู้กันมาบ้างอยู่แล้วว่าประเทศจีนนั้นมีประชากรที่เยอะและการแข่งขันที่สูงมาก

 

และคนจีนเด็กที่ไม่โดนกดดันในสังคมและครอบครัวนับเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะที่จีนไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองแบบซื้อเลยสามารถเป็นมรดกให้ลูกหลานได้แบบของไทยเราดั้งนั้นการแข่งขันและการใช้ชีวิตค่อนข้างกดดัน อาจเพราะเป็นกฎหมายของประเทศเขานั้นเอง  เอาละค่ะเราจะมาเริ่มแต่งเรื่องสมมุติกันขึ้นมาค่ะหวังว่าคนที่เข้ามาอ่านจะไม่คิดมากกันนะค่ะอันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสมมุตินะค่ะ 

 

นามสมมุติของตัวละครหลัก

 

เข่อซิง เด็กสาวที่เป็นตัวละครหลักของเรา

หวังเหล่ย เด็กหนุ่มที่เป็นตัวละครเสริมของเรา

 

ตัวละครมีไม่เยอะนะเพราะเป็นแค่เรื่องสั้นๆ 

 

 

เด็กสาวเข่อซิงผู้น่าสงสารทนแบกความเงียบในใจของเธอมาอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น

ย้อนไปในวัยที่เธอยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆในวัยเพียง 5 ขวบนั้นพ่อแม่ของเธอได้จัดแจ้งชีวิตของเธอไว้ทุกๆวัน

หลังเลิกเรียนของเข่อซิงแม่ของเธอนั้นจะพาเธอไปเรียนเปียโนทุกวันเด็กน้อยที่ได้เพียงมองเด็กในวัยเดียวกัน

ได้ไปเล่นสวนสนุกในวันหยุดและในหลังเลิกเรียนพ่อแม่พาไปกินไอศครีมแต่เข่อซินของเรานั้นไม่เคยมีโอกาส

แบบนั้นเลยทุกวันที่เลิกเรียนเธอต้องไปเรียนเปียโนและในวันหยุดของเธอนั้นก็ไม่เคยได้ไปไหนนอกจากจะต้อง

อ่านหนังสือเงียบๆภายในห้องนอนของเธอ 

 

เด็กน้อยในวัย 5 ขวบไม่เคยมีเสียงหัวเราะหรือรอยยิ้มที่ดีใจออกมาจากใจจริงๆของเธอสักครั้ง พ่อกับแม่ของ

เธอนั้นได้พร่ำสอนเธอในทุกวันว่าการที่เป็นเด็กดีของพ่อแม่นั้นคือการเชื่อฟังพ่อกับแม่หวังดีต่อลูกสมอโลกใบนี้

มันน่ากลัวมากถ้าหากวันหนึ่งลูกโตไปเป็นเด็กที่ไร้ความสามารถลูกจะสอบเข้ามหาลัยดีดีมีหน้าที่การงานที่ดีได้

ยังไงถ้าลูกมัวแต่เล่นแต่พ่อของเด็กนั้นลืมคิดไปสินะว่าลูกของตนนั้นเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้น เด็กน้อยเข่อซิง

ทำได้เพียงฟังเงียบๆตามประสาเด็กที่โดนจัดแจงชีวิตมาตั้งแต่เด็ก

 

เด็กน้อยคนนี้ใช้ชีวิตมาโดยที่เธอเห็นพ่อและแม่ของเธอนั้นไปทำงานเช้าเย็นกลับโดยเฉพาะพ่อของเธอนั้น

ทำงานเช้าดึกๆในแต่ละวันกว่าจะกลับบ้านมาบางทีพ่อของเธอนั้นต้องไปทำงานต่างเมืองนานๆพอพ่อกับมาเด็ก

น้อยดีใจที่ได้เจอพ่อแตแทนที่ความดีใจของเด็กน้อยจะได้รับการเติมเต็มเป็นการกอดหรือพูดคุยกับพ่อนั้นแต่

ทุกครั้งที่พ่อของเธอไปทำงานต่างเมืองะนานๆจะกลับมาทีเธอมักจะได้ยินเสียงของพ่อและแม่ทะเลาะกันเรื่อง

ของเธอทุกครั้ง

 

โดยที่แม่ของเธอนั้นจะเริ่มดุวาพ่อทุกครั้งที่ไปทำงานต่างเมืองว่าทิ้งให้เธอนั้นต้องมาเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว

ไหนจะทำงานไหนจะดูลูกไปด้วยไหนจะต้องพาลูกไปเรียนเปียโนในทุกๆวันไหนจะดูแลบ้านคนเดียวพ่อของเธอ

นั้นก็จะตอบมาด้วยความรุนแรงไม่ต่างกันว่าต้องไปทำงานก็ตามที่บริษัทส่งไปหาเงินมาเป็นค่าเช่าบ้านแต่ละ

เดือนค่าผ่อนรถค่าโรงเรียนลูกค่าต่างๆนาๆ

 

เด็กน้อยเข่อซิงผู้น่าสงสารทำได้เพียงหลบที่มุมเสาร์ฟังเงียบๆเพียงลำพังเธอได้เพียงแต่คิดในใจว่าการเกิดมา

ของเธอนั้นทำให้พ่อกับแม่ของเธอลำบากขนาดนั้นเลยหรือเธอยืนกอดตุ๊กตาตัวน้อยที่แม่ของเธอซื้อเป็นของ

ขวัญในวันเกิดครบ 5 ขวบของเธอเด็กน้อยทำได้เพียงหลบเข้าไปในห้องนอนและแสร้งทำเป็นหลับเพราะเธอ

ได้ยินเสียงเท้าของคนกำลังเดินเข้ามาแต่แล้วเสียงเท้านั้นก็เดินห่างจากเธอออกไป

 

และแล้ววันเวลาก็ผ่านมาเนินนานเป็น 10ปี ตอนนี้เข่อซินก็ได้อายุครบ 15 ปีเป็นปีสุดท้ายของเด็กคนนี้ที่จะได้

ใช้ชีวิตบนโลกใบนี้

 

 

เข่อซินนั้นมีเพื่อนชายที่เธอพึ่งจะมารู้จักตอนเรียนโรงเรียนในวัน15ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกมีเพื่อนและมีคน

เข้าใจเธอ เข่อซิงและหวังเหล่ยเป็นเพื่อนรวมชั้นกัน จากเด็กน้อยที่ไม่ค่อยพูดค่อยยิ้มในวันนั้นเธอก็ค่อยๆมีรอย

ยิ้มขึ้นมาบ้างแล้วแต่โชคชะตาของโลกใบนี้มันไม่ได้ใจดีกับเธอเลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อแม่ของเข่อซินนั้นมาเห็นเด็กสองคนนี้เดินเล่นด้วยกันหลังเลิกเรียนเพราะเข่อซิงนั้นมีเรียนพิเศษในตอนเย็น

ของทุกวันเช่นดั่งเดิม แม่ของเข่อซินนั้นเข้ามาดุด่าลูกต่อหน้าเด็กหนุ่มว่าเพราะคบเพื่อนแบบนี้สินะเลยเริ่มดื้อกับ

พ่อแลแม่แกกลับบ้านกับฉันเดียวนี้เลยนะวันนี้แกเรียนเสร็จต้องไปนั่งอ่านหนังสือทบทวนให้ห้องจนกว่าฉันจะ

พอใจและคืนนี้ฉันจะยึดมือถือของแกพูดจบก็กระชากแขนลูกไปอย่างแรงแต่เข่อซิงนั้นไม่พูดและไม่ร้องสักคำ

เพราะเธอมักจะโดนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเมื่อม่ของเธอนั้นโมโห

 

เข่อซิงนั้นได้แต่เพียงหั่นไปมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาสิ้นหวังแต่พ่อหวังเหล่ยหันมาโบกมือให้เธอนั้นจึงทำให้เข่อ

ซิงยิ้มได้เพราะอย่างน้อยเพื่อนคนนี้ก็ยังเข้าใจเธอ 

 

วันต่อมาในโรงเรียนเข่อซิงมีอาการเหม่อลอยและเก็บตัวเงียบมากขึ้นและเป็นบ่อยครั้งจนหวังเหล่ยได้ชวยให้

เข่อซิงไปหาหมอด้วยกัน หมอนั้นได้สรุปว่าเข่อซิงนั้นเป็นโรคซึมเศร้าแนะนำให้ผู้ปกครองพามารักษา

 

เข่อซิงได้กลับบ้านไปบอกแม่ของเธอว่าวันนี้ได้ไปหาหมอมาคุณหมอบอกว่าเข่อซิงเป็นโรคซึมเศร้าแต่แม่ของ

เธอกับหัวเราะพร้อมกับตบหน้าองเข่อซิงอย่างแรงและพูดว่าแกนี้ตั้งแต่มีเพื่อนก็กลายเป็นเด็กขี้โกหกเลยนะโรคซึมเศร้าอะไรของแกกันไม่อยาก

เรียนแล้วใช่ไหมแกอย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกแอบไปซื้อหนังสือนิยายไร้สาระพวกนั้นมาอ่านฉันได้เอาไปเผาทิ้ง

หมดแล้วแกอย่าได้ให้ฉันบอกพ่อแกนะว่าเดี๋ยวนี้ไม่อยากจะอ่านหนังสือเรียนแล้วพอแกจะตีเข้าให้ไปเดี๋ยวนี้

ไสหัวไปอ่านหนังสือเรียนเตรียมสอบได้แล้วอีก3ปีต้องสอบเข้ามหาลัยแล้วถ้าแกสอบเข้าไม่ได้ได้เห็นดีกัน

 

ในคืนนั้นของวันต่อมา

 

 

เข่อซิงได้คบทบทวนมาอย่างดีแล้วเธอได้ทิ้งจดหมายฉบับหนึ่งไว้ที่โต๊ะกินข้าวในกลางดึกเพราะพ่อกับแม่ของ

เธอยังไม่เลิกงานกลับมาเด็กน้อยทบความเจ็บปวดในใจที่ต้องเจอตั้งแต่อายุ5ปีจนถึงตอนนี้15ปีแล้วอายุขอเธอ

และเธอก็ได้โพตส์ข้อความสุดท้ายของเธอลงในเว้ยป๋อไว้ว่า หนูพยายามที่สุดแล้วพ่อจ๋าแม่จ๋าแต่ไม่ว่าถึงหนูจะ

พยายามเชื่อฟังพ่อกับแม่มากแค่ไหน พอกับแม่ก็ไม่เคยพอใจในตัวหนูสักครั้งไม่ว่าหนูจะตั้งใจเรียนมากแค่ไหน

แต่มันไม่เคยดีสำหรับพ่อกับแม่บ้างเลยพ่อจ๋าแม่จ๋าต่อไปนี้หนูไม่อยู่แล้วพ่อกับแม่คงไม่ต้องทะเลาะกันเพราะหนู

อีกแล้ว

 ไม่มีหนูแล้วนะพ่อกับแม่จะได้หมดตัวถ่วงในชีวิตของพวกทานสักทีขอโทษที่หนูเกิดมาในตอนที่พวก

ท่านไม่พร้อมเลยทำให้ทานทั้งสองต้องลำบากหากแม้ว่าท่านจะมีลูกอีกในภายภาคหน้าหนูขออย่างหนึ่งอย่าให้

น้องที่อาจจะเกิดมาต้องมีชะตากรรมแบบเดียวกันกับหนู ขอให้พ่อกับแม่เป็นเกาะป้องกันภัยให้ลูกแค่หนูต้องสู้

กับชีวิตแรงกดดันของสังคมที่โรงเรียนก็มากพอแล้วหนูต้องมาสู้กับแรงกดดันในครอบครัวหนูสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว

 

ตัวหนูเองเป็นโรคซึมเศร้ามีแผลในใจตั้งแต่เด็กแม่กับพ่อไม่เคยเชื่อหนูสักครั้งเลยต่อไปนี้หนูไม่อยู่แล้วพ่อกับ

แม่ดูแลตัวเองด้วยนะอย่าทำงานหนักจนเกิดไปเข่อซิงรักพ่อกับแม่มากนะแต่วันนี้เข่อซินไม่ไหวแล้ว ได้แต่หวัง

ว่าโลกใบหน้าคงต้องดีกว่านี้ 

 

ถึงเพื่อนคนแรกเพื่อนรักหวังเหล่ยต่อไปนี้เข่อซินไม่อยู่แล้วทำตามความหวังความตั้งใจของตัวเองต่อไปนะเข่อ

ซินจะค่อยมองหวังเหล่ยมาจากบนฟ้าเสมอถ้าวันไหนคิดถึงเข่อซินให้มองขึ้นบนฟ้านะเข่อซินอยู่ตรงนั้นเสมอไม่

ได้จากไปไหน 

 

พอพิมพ์จบแล้วเข่อซินได้โพตส์ข้อความลงในเว้ยป๋อและตัดสินใจโดนตึกในที่สุดเข่อซินก้ได้มีความคิดของเธอ

เองถึงแม้มันจะเป็นวิธีคิดที่ไม่ดีก็ตามเธอต้องการไปใช้ีวิตในโลกใบใหม่ของเธอ

และบทความนี้ก็จบลงแล้ว

เนื้อหาโดย: toomthong001
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
toomthong001's profile


โพสท์โดย: toomthong001
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: toomthong001
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวเน็ตกระหน่ำวิจารณ์ น้ำปั่นแก้วละ 465 บาท คุ้มจริงไหม? ทำไมถึงแพงได้ขนาดนั้นช็อก อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร พระเอกชื่อดัง เสียชีวิตแล้วภาพเก่าหาดูยาก : แร้งประจำถิ่น ณ วัดสระเกศ เมื่อ คริสตศักราช 1905หนูน้อยวัยทารกถูกนกโฉบเข้าข่วนตา ขณะยายกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ อันตรายมาก!!จำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 41,431 คนแล้วสมาคมโรงแรมกระบี่ ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือวาฬหลังค่อมได้เผลอกินแมวน้ำ แต่กลับต้องสำรอกออกมาอย่างรวดเร็วขบวนเกี้ยวของหว่านหรงถ้ำหินแกะสลักภูเขาเทียนที อายุ1600 ปีอ.เจษฎ์ ทลายความเชื่อผิด ๆ "กินไก่ไม่ทำให้เป็นโรคเก๊าต์" ชี้ชัดอาหารต้องห้าม และวิธีป้องกันพบฟันเมกาโลดอนขนาด 6.55 นิ้ว นอกชายฝั่งของนอร์ทแคโรไลนา: หลักฐานจากอดีตสัตว์ทะเลที่ยิ่งใหญ่10 สูตรปรุงไข่เจียว เมนูไข่ไม่น่าเบื่อ พ่วงวิธีทอดไข่เจียวให้อร่อย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เมื่อหมูเด้ง ต้องไปแคสติ้งเป็นนักแสดงซูปเปอร์ฮีโร่สมาคมโรงแรมกระบี่ ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือสุดยอด 5 อันดับประเทศเอเชียระบบขนส่งเจ๋งสุด พร้อมไทยติดอันดับด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 41,431 คนแล้วประสบความสำเร็จ นักวิทยาศาสตร์ คืนชีพให้กับจุลชีพดึกดำบรรพ์ที่ถูกแช่แข็ง อายุกว่า 24,000 ปี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
รถสองคันกับคนเกษียณ•สิบปีต่อมา.หมดไปกับ•!!!ตำนานเมืองลับแลเจ้าหญิงเวียงชื่น เทพวงศ์ ไม่ยอมถูกจับกุมคุมขัง ยอมปลิดชีพตน ด้วยการดื่มยาพิษ
ตั้งกระทู้ใหม่