ผีบังตา พาหลงทาง
ผีบังตา พาหลงทาง
ดึกดื่นในพุ่มพงดงพฤกษ์ พรานไทยรุ่นเก๋าไม่เคยมองหาเต็นท์นอน กระทั่งเปลผูกก็ไม่มีกับเขา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ปืน กระสุน ข้าวสาร เกลือ พริกแห้งเท่านั้น รองเท้าที่ใส่ก็รองเท้าพื้นยางธรรมดา คงต่างจากพรานซาฟารีที่แบกทั้งเป้ ถุงนอน หมอนลม เรชั่น-เครื่องกระป๋อง ขวาน ยากันยุงและแมลง เข็มทิศ จีพีเอส และสารพัดอย่างที่พอแบกเอาเข้าป่าได้...เนื้อตัวของพรานรุ่นใหญ่รุ่นเก๋าเท่าไหร่จะยิ่งเบาสบายเท่านั้น แกว่า ไม่ต้องมีภาระเยอะ ส่วนสายตาที่แกมองไปที่พรานซาฟารีจะเป็นเช่นไรนั้นสุดจะประเมินได้
“ดึกสงัดก็พักนอนใต้ต้นไม้ หากเห็นท่าฝนจะพรำก็เลือกต้นที่ใบดกหรือหาตัดใบไม้ใหญ่ๆมาสุมคล้ายหลังคา หัวก็หันเข้าหาต้นไม้ ปลายตีนก็ก่อกองไฟเข้าให้ อาศัยหูไว นอนไว ตื่นทันเวลาที่มีเสียงผิดปกติรายรอบเข้ามา ปืนข้างกายมีเพียงลูกซองแต่อาศัยทักษะการคีบกระสุนมือซ้ายได้ครั้งละ 4-5 นัดพอให้ยัดทันเวลาประจันหน้ากับสัตว์ใหญ่ที่สั่งตายนัดเดียวไม่อยู่ แต่ถึงให้ฝนตกหนักแค่ไหนก็จะไม่ดิ้นรนเดินกลับหมู่บ้านในคืนนั้น สู้ทนอยู่ในป่า อาจปีนคาคบสูงขึ้นเพื่อหนีน้ำเท่านั้นหากจำเป็น”พรานเฒ่าพูดเรื่อย ๆ
“เคยฝืนเดินลุยฝนกลับเหมือนกัน โอกาสหลงทางมีสูง ต่อให้เป็นพรานเก่าเพราะฝนทำให้ป่าเปลี่ยน ต้นไม้ใบบังอุ้มน้ำแปลงโฉมไปสิ้นเชิง ทางด่านชวนสับสน ยิ่งเร่งยิ่งหลง โบราณว่าผีมันบังตาทำให้จำทางระลึกทิศไม่ได้ ยิ่งฝนตกเทซู่ๆยิ่งกลัวน้ำท่วมป่าพาให้วิตกเข้าไปอีก บางหนเหมือนเห็นคนเดินอยู่ข้างหน้า มือประคองใบบอนใหญ่คลุมหัวกันฝน พอเร่งเดินตามจะให้ทันก็แทบผงะหงายเพราะได้ที่เห็นจังๆยามส่องไฟกระทบคือหมีใหญ่เดินสองขาคล้ายคนถือใบบอนบังหัวหูที่โดนยิงเป็นรูน้ำฝนไหลเข้ารูหูจนต้องเดินตะแคง ต่างคนต่างตกใจยามไฟส่องถึงกับเผ่นไปคนละทาง” พรานใหญ่พูดพลางหัวเราะ
“บางทีไม่มีฝนให้รำคาญ แต่แยกลงจากรถส่องสัตว์ปล่อยให้พวกที่ส่องยังคงตะบึงรถไปตามทางรถชักลากเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งจบหมาดๆ ส่วนเราเดินอ้อมตัดเส้นทางไปดักที่จุดนัดพบ ระหว่างนั้นเจอคนเดินหน้าเหมือนกัน ส่องไฟเห็นเป็นคน แต่กลิ่นสาปแรงเหลือเกิน ร้องเรียกไปเพราะจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นคนรู้จักเพราะสังคมที่นั่นมันแคบนัก ...ฝ่ายโดนทักรีบเดินเร็วเหมือนหนี เรารีบจ้ำตามพอพ้นโค้งก็หายหัวไปไม่ทันได้ทักกัน เดินสักพักมีกลิ่นเหม็นสางมาจากเบื้องหลัง หันไปส่องไฟมันหลบแวบ พอให้รู้ว่าเป็นคนไม่ใช่สัตว์ร้ายสะกดรอยจะได้ไม่ยิงกัน...เราชะลอเท้ามันก็ชะลอตาม เป็นอย่างนี้ตลอดเส้นทาง กระทั่งไปพบเพื่อนที่ขับรถส่องไฟ พอคุยเรื่องที่เพิ่งเจอมาถึงกับอึ้งเพราะคนในรถบอกว่าไอ้คนที่เราเห็นนั่นมันตายมานานแล้ว มีคนเห็นเดินทางด่านนั้นประจำ” พรานชราเล่าพลางส่ายหน้า
“นับแต่นั้น พอเข้าป่า มีจุดพักนอนได้ก็จะพัก ไม่อยากเดินเร่ร่อนเดี๋ยวจะไปเจออะไรที่ไม่น่าพบเจอเข้าอีก เป็นพรานมันต้องไม่กลัวผีอยู่แล้ว แต่ ไอ้เรื่อง เดินกลางป่าพาหลงนี้บางที มันชวนให้นึกไปถึงเรื่องผีบังตา หรือสารพัดเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝันทั้งนั้น บางทีเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากระสุนที่ยิงเสือยิงช้างได้ผลน่ะมันจะยิงผีตายหรือเปล่า ทางที่ดี ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า”แกสรุปจบก่อนจะล้มตัวนอน แล้วหลับอย่างเร็วส่งเสียงกรนพอให้รำคาญ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
กินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรค
"ฮุน มานี" นำประชาชนกัมพูชาเดินขบวนกลางกรุงพนมเปญ..เพื่อเรียกร้องสันติภาพ
วิธีปลุก passion ให้กับช่วงเวลาหมดไฟ เมื่อต้องทำงานที่ไม่ชอบ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
"วัดสังกระต่าย" มหัศจรรย์ต้นโพธิ์ล้อมโบสถ์ 400 ปี วัดสวย ประจำจังหวัดอ่างทอง
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
"วัดสังกระต่าย" มหัศจรรย์ต้นโพธิ์ล้อมโบสถ์ 400 ปี วัดสวย ประจำจังหวัดอ่างทอง
กินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรค
อึ้งกันทุกคนพิพิธภัณฑ์ เก็บเรื่องราวความเป็นไทย
กัมพูชา ยอมรับความฝ่ายแพ้ไม่ได้ สร้างภาพ AI ปลอม บิดเบือนความจริง
จีนส่งสัญญาณเงียบหวังไทย–กัมพูชายุติการรบ
"ปูติน" ให้สัมภาษณ์สื่อ "กำลังอินเลิฟ"..สื่อผู้ดีขุดคุ้ยทันทีสาวคนนี้เธอเป็นใคร ?
"บ้านรักษ์ริมน้ำ" หลากหลายมุมเหมือนประหนึ่งมาทะเล สวยงามบรรยากาศหลักล้าน
"แผ่นดินของเรา"ความจริงจะคงอยู่ ใครแย่งของใครไปความจริงไม่มีใันบิดพริ้ว
"รอยยิ้มสร้างได้เสมอ"อากาศหนาวเราห่วงใย ใส่หมวกให้น้องยัฝมอบไออุ่น
ความสุขของสายใจผ่อนคลายจากสายน้ำ "น้ำตกวังเดือนห้า คอนสาร"