คั่นเวลาหลังกองไฟ
คั่นเวลาหลังกองไฟ
เรื่องในป่า เล่ากันจนถึงชาติหน้าก็ไม่มีวันจบ โดยเฉพาะเรื่องราวของพรานเก่าที่นับวันจะหายสูญไปตามกาลเวลา นำมาแลกเปลี่ยนกันเมื่อไหร่เปลืองทั้งกาแฟ น้ำดีกรีแรง กับแกล้ม รวมไปถึงอารมณ์สารพัดที่ผุดพรายขึ้นระหว่างคำพูดแต่ละคำที่ล้วนแล้วแต่สะกดใจไล่อารมณ์กันชนิดเบาสลับหนักหรือกระแทกกระทั้นจนสนุกหรือบางโอกาสถึงระดับขี้ขึ้นสมองกันจนตั้งตัวไม่ทัน
พรานเก่าเข้าป่าต้องทำพิธีเปิดป่ากันก่อน เข้าทางไหนบอกเจ้าป่าเจ้าเขากันตรงนั้น ปักธูปที่จุดแล้วจำนวน 9 ดอกเข้าให้ที่ดินหากไม่มีธูปก็นำกิ่งไม้คล้ายธูปมาปักพร้อมอธิษฐานจิตขอท่านจงเปิดป่าให้ด้วย จากนั้นก็แจ้งความประสงค์ไปว่าจะเข้าป่าเพื่ออะไร ไปล่าสัตว์ก็ขอสัตว์เกเรจากท่านสักตัวสองตัวหรือจำนวนหนึ่งเท่าใดก็ว่ากันไป หรือถ้าจะไปตามหาคนหาย คนพลัดหลงก็แจ้งไป(ในใจ)หรือจะบอกกล่าวดังๆก็สุดแล้วแต่ หลังจากนั้นก็พลิกหน้าดินขึ้นมาด้วยการใช้มีดปักดินแล้วแล้วงัดมาสามครั้งสามครา ต่อไปจึงพลิกใบไม้รอบกายบริเวณนั้นจากคว่ำให้เป็นหงายกันให้หมด และเมื่อได้ทำภารกิจในป่าจนครบถ้วนแล้วก็ทำพิธีปิดป่าโดยหากกลับทางเส้นทางเดิมก็อธิษฐานบอกเจ้าป่าเจ้า-เขาว่าทำภารกิจครบถ้วนแล้ว จากนั้นก็พลิกดินที่หงายหรือพรวนขึ้นมากลับลงไปอย่างเดิม รวมถึงคว่ำใบไม้ที่หงายให้คว่ำลงพอเป็นพิธี...หากไม่ได้กลับเส้นทางเดิมก็บอกเจ้าที่เจ้าทางไปว่าไม่ได้กลับเส้นทางเดิม ลักษณะทั้งหมดนี้เป็นการไปลามาไหว้ตามธรรมเนียมไทย
สมัยก่อนนั้น หากเข้าป่าไปล่าสัตว์ได้ พรานก็จะเฉือนเอาเนื้อสัตว์เฉพาะที่พอกินกันในครอบครัวติดมือกลับไป ที่เหลือก็ทิ้งเอาไว้ในป่าเป็นการบรรณาการเจ้าป่าเจ้าเขาหรือผีไพร แต่บางพรานก็ทำตรงข้ามคือเฉือนเอาเฉพาะเนื้อจำนวนหนึ่งเอาไปบูชาเจ้าที่เจ้าทาง ส่วนที่เหลือจำนวนมากก็แบกกันกลับไปที่หมู่บ้านเป็นต้น แต่มายุคหลังๆดูเหมือนสิ่งนี้จะเลือนๆไปแล้วเพราะพรานแบกกลับทั้งตัวไม่เฉือนเนื้อสัตว์ที่ล่าได้ถวายเจ้าป่าเจ้าเขากันก็มี
พรานบางรายลุยเข้าป่า ได้ยินเสียงเสือร้องคำรามคล้ายเสียงขู่ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะเพิ่งล่ากวางมาได้ จู่ๆได้ยินเสียงพรานป่าเดินเข้าพื้นที่ทำให้มันต้องละทิ้งเหยื่อที่กำลังจะกินหรือกินเข้าไปได้นิดหน่อยออกไปคุมเชิงเพราะหากมันไม่ใช่เสือกินคนมันย่อมเกรงพรานเป็นธรรมดา...วาระนั้นพรานอาจจะเข้าไปดูซากกวางแล้วตัดเอาขาหลังของกวางติดมือมาสักขาหรือสองขาทำนองว่าขอแบ่งเสือเอามากินกันบ้าง อย่างนี้ก็มี ส่วนเสือมันจะโกรธหรือเปล่านั้นก็ไม่มีใครรู้ได้ บางทีมันอาจจะอยากใจดีแบ่งเนื้อให้พรานบ้างเพราะมาขอกันดื้อๆชนิดหักคอเสือกับแบบนั้น
พรานบางรายก็หวงโป่งจนน่ารังเกียจ บางทีมีหลายโป่งอยู่ในพื้นที่ ตามปกติพรานทั้งหลายก็แบ่งๆพื้นที่กันไปไม่นั่งโป่งซ้ำๆกันในคราวเดียวกัน แต่พรานเห็นแก่ตัวบางรายเล่นไม่ซื่อด้วยการเอาประทัดเป็นตับไปวางไว้ที่โป่งอื่นที่ตนไม่ได้ผูกห้างแล้วจุดธูปรอไว้ ส่วนตัวเองก็ไปนั่งโป่งที่ตนหมายตา คราวนี้พอธูปใกล้หมดดอกมันก็เผาชนวนประทัดที่โป่งอื่นทำให้เสียงระเบิดดังต่อเนื่องคล้ายเสียงปืน ตกลงโป่งอื่นๆที่โดนประทัดก็มีสภาพไม่ต่างจากป่าแตกไปทั้งคืน สัตว์ไม่ลงโป่งอื่นๆ แต่โป่งพรานหวงโป่งที่เล่นสกปรกกลายเป็นโป่งที่มีสัตว์มาลงกินโป่งเพราะหนีจากที่อื่นมาปลอดภัยที่นี่ เลยกลายเป็นเป้าปืนของพรานหวงโป่งไปก็มี...เรื่องนี้ว่ากันว่าเกิดกันในกลุ่มพรานกะเหรี่ยง ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหนคงต้องไปจุดธูปบอกวิญญาณหาคำตอบกันเพราะเรื่องมันเกิดมานานร่วมร้อยปีแล้ว