สยองป่า
สยองป่าของแต่ละคนมีราคาค่างวดที่แตกต่างกัน บางรายสยองเบาะๆก็แค่จับไข้ต้องไปรดน้ำมนต์หรือให้หลวงพ่อเป่ารังควานสักพักก็กลับมาเป็นปกติ บางรายโดนหนักถึงขนาดต้องเอาชีวิตเข้าแลกกับเรื่องราวสุดสยองชนิดที่เจ้าตัวเจอเข้าให้เต็มๆแต่ไม่มีสติพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ สุดท้ายก็ขาดใจตายกับสภาวะสยองสุดกลั้นนั้น
เพื่อนรุ่นพี่รายหนึ่งเข็ดขี้อ่อนขี้แก่กับเหตุการณ์ตั้งเต็นท์ริมแก่งแห่งหนึ่ง ที่ทุกวันนี้เป็นแหล่งเก็บน้ำของเขื่อนยักษ์ แต่ในอดีตนั้นมันเป็นพื้นที่หวงห้ามลึกลับของชุมชนกะเหรี่ยงโบราณ กล่าวกันว่าเป็นจุดฝังศพหรือพูดง่ายๆว่าป่าช้ากะเหรี่ยงโบราณ แต่เวลาผ่านมานานหลายปีจนผู้คนลืมไปแล้ว เพื่อนรุ่นพี่ที่ว่าพากันไปตั้งแคมป์กันช่วงบ่ายใกล้ค่ำไม่ทันได้สำรวจอะไร จากนั้นก็ตั้งวงเหล้ากันพอเมาได้ที่ก็ปลุกทุกข์หนักเบากันข้างต้นไม้ใหญ่ คืนนั้นทั้งคืนไม่เป็นอันหลับอันนอนโดนอาถรรพ์เล่นงานจนต้องจุดธูปขอขมากันกลางดึก เช้าวันรุ่งขึ้นมีเวลาสำรวจจึงได้เห็นหลุมผีในจุดที่ลึกเข้าไป
เพื่อนอีกคนเล่าเคยไปนั่งห้างในจุดที่เข้าท่า ตอนนั้นทะนงตัวว่ามีของดีมีวิชาพรานไพรก็ออกฉายเดี่ยวในพื้นที่ต่างๆ ไม่รู้เวรหรือกรรมที่ได้พื้นที่เหมาะมากก็ผูกลูกห้างกัน ตกดึก สิ่งที่ผ่านเข้ามาให้เห็นกลับไม่ใช่สัตว์ แต่กลับเป็นคบไฟเรืองๆของกลุ่มผู้คนที่เขามาในพื้นที่ ในกลุ่มนำสัตว์ออกมาเชือดกันอย่างสยดสยอง จากนั้นก็จากไป สักพักก็มีกลุ่มวิญญาณหรือผีป่าตาแดงพากันรุมกินซากสัตว์อย่างมูมมาม คนที่คิดว่ามีวิชาดีถึงกับนั่งตัวแข็งบนคาคบแทบไม่กระดิกตัว แม้หายใจยังต้องผ่อนให้เบาที่สุด...กว่าจะผ่านไปถึงเช้าแทบบ้าตาย สติสตังค์แทบบิน มารู้ทีหลังว่าตรงนั้นคือ “ลานเลี้ยงผี” ว่ากันว่าเฮี้ยนนัก
ผู้เฒ่าท่านหนึ่งสาธยายประสบการณ์ให้ฟังว่า บางทีมองเห็นลานหินเรียบๆใกล้หมู่บ้านร้างดูน่านั่งน่านอนเหลือเกินก็อย่าได้ชะล่าใจลงไปนอนตีแปลง เพราะดีไม่ดีลานหินดังกล่าวนั้นอาจเป็น “ลานพักศพ” ของพวกชาวบ้านโบราณที่คั่นระหว่างเส้นทางของหมู่บ้านไปป่าช้า ใครๆเขาก็ไม่นั่งกัน มีแต่คนไม่รู้เท่านั้นที่จะไปนั่นเล่นนอนเล่น แล้วท้ายที่สุดก็จะโดนสิ่งที่มองไม่เห็นสิงสู่เข้าให้ ทุกวันนี้เรื่องที่ผู้เฒ่าเล่าให้ฟังยังติดหูอยู่แต่ตัวผู้เล่านั้นจากโลกนี้ไปนานแล้ว