ทางกลับบ้าน
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าและเป็นความเชื่อส่วนบุคคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของคนที่รู้จักกัน วันหนึ่งฟิวได้ข่าวจากญาติห่างๆกันคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงว่าญาติหห่างๆของฟิวคนหนึ่งเสีย ตอนนั้นฟิวกับครอบครัวและญาติประมาณ 4-5 คนได้ประชุมกันว่าจะเอารถใครไปบ้าง สุดท้ายเลยตกลงกันว่าจะเอารถของฟิวกับรถของน้านึกไป และจะไปวันพรุ่งนี้ พอถึงเช้าวันใหม่วันที่ต้องออกเดินทางไปงานศพกันทุกคนก็มารอที่จะขึ้นรถไปงานศพที่บ้านของฟิว พอถึงเวลาทุกคนก็ขึ้นรถไปงานศพกันโดยมีรถ 2 คันคือของน้านึกเป็นรถเก๋งคันหนึ่งและรถของฟิวที่เป็นรถกะบะ
มีคนเดินทางไปครั้งนี้รวมแล้ว 8 คน น้านึกและฟิวก็ขับรถไปเมื่อถึงงานศพของญาติคนนั้น งานศพนี้เขาจะตั้งศพและทำพิธีไว้ที่บ้านเมื่อตั้งสวดศพครบกำหนดแล้วเขาจะแห่ศพไปทำพิธีเผาที่วัด เมื่อฟิวไปถึงงานก็มีญาติที่มาด้วยกันพาฟิวเดินไปกราบศพและเดินไปหาคนที่เป็นเมียของคนที่เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจด้วยจากนั้นฟิวกับญาติคนอื่นจึงเดินไปนั่งที่ใต้ถุนบ้านเพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้าน 2 ชั้นเพื่อไปฟังพระสวด พอถึงเวลาบ่ายแก่ประมาณบ่าย 3 โมงสัปเหร่อจึงเดินมาบอกกำหนดการนำศพไปทำพิธีต่อที่วัด
จากนั้นจึงได้แห่เพื่อนำศพไปที่วัด เมื่อถึงวัดฟิวเล่าว่า วัดที่แห่นำศพไปเป็นวัดป่าและวัดนี้ยังใช้เป็นเชิงตะกอนในการเผาศพอยู่เพราะเมรุยังไม่ได้จัดสร้างขึ้น จากนั้นทุกคนที่มาจึงไปวางดอกไม้จันทน์และอำลาคนที่เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อทุกคนได้ร่วมงานจนเสร็จทุกคนก็มาขึ้นรถที่จอดไว้และเดินทางกลับ ในขณะเดินทางกลับเรื่องก็เกิดขึ้น โดยฟิวให้รถของน้านึกขับนำหน้าไปก่อนและฟิวจะขับตามต่อท้าย รถของน้านึกและฟิวก็ขับไปเรื่อยๆตามปรกติจนถึงทางออกของหมู่บ้านนั้น อยู่ๆรถของน้านึกก็เบรคอย่างกะทันหันทำให้ฟิวเกือบจะชนท้ายรถของน้านึก ฟิวจึงโทรศัพท์ไปหาน้านึกรถคันข้างหน้าและถามอย่างโมโหว่า
น้านึกน้าเบรครถกะทันหันทำไมผมเกือยจะชนท้ายน้าแล้วเนี่ย น้านึกเลยบอกว่าขอโทษทีน้าเจอหมาดำวิ่งตัดหน้านะแต่หมาอะไรก็ไม่รู้ตัวโคตรใหญ่เลยเมื่อน้านึกพูดจบแกก็ขับรถไปต่อตอนนั้นเวลา 6 โมงเย็นกว่าๆแล้วเมื่อทั้ง 2 คนขับไปเรื่อยๆฟ้าก็เริ่มมืดลงทั้ง 2 คนขับรถไปได้เกือบๆชั่วโมงฟ้าก็มืดสนิทราวๆอีก 17 กิโลจะถึงบ้านฟิวจึงมองดูนาฬิกาอีกครั้งเวลานั้นประมาณ 1 ทุ่มกว่าแล้วฟิวเลยหันไปถามญาติที่มาด้วยกันว่า เราจอดกินข้าวก่อนไหมเพราะยังอีกไกลจะถึงบ้าน
ญาติที่มาด้วยกันก็เห็นด้วยเพราะทุกคนหิวแล้วฟิวจึงโทรหาน้านึกอีกครั้งว่า เราจอดหาอะไรกินก่อนถึงบ้านดีไหมเพราะทุกคนหิวมากแล้วแล้วทางก็ยังอีกไกลอยู่ น้านึกก็พูดว่างั้นเราจอดกินก๋วยเตี๋ยวกันก่อนเพราะแถวนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยอยู่จากนั้นน้านึกเลยขับรถนำรถที่ตามมาไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งซึ้งเป็นก๋วยเตี๋ยวข้างทางแต่ว่าร้านจะอยู่ไม่ติดถนนมาก
ร้านนี้จะอยู่ห่างจากถนนประมาณ 10 กว่าเมตร เมื่อทุกคนเข้าไปนั่งในร้านต่างคนก็ต่างสั่งก๋วยเตี๋ยวกินกันเมื่อฟิวกินเสร็จเนคนแรกฟิวก็ขอตัวสูบบุหรี่ตอนที่ฟิวสูบบุหรี่อยู่นั้นฟิวก็เหลียวไปมองที่รถแล้วฟิวก็เห็นชายแก่ใส่ชุดสีขาวยืนอยู่ข้างรถของน้านึกฟิวก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดแค่ว่าคนที่มาซื้อก๋วยเตี๋ยวแต่พอกินก๋วยเตี๋ยวอิ่มแล้วจึงเล่นเฉยๆ แล้วฟิวเลยเดินมานั่งกับญาติๆในร้านก๋วยเตี๋ยวและคุยกันเรื่องต่างๆทั่วไปแล้วฟิวเลยหันมองดูที่รถอีกครั้งคราวนี้ฟิวก็เห็นชายแก่ใส่ชุดสีขาวคนั้นอีกแต่ครั้งนี้เขาขึ้นไปนั่งบนหลังคารถของน้านึกเลยฟิวเลยหันไปทางน้านึกและกระซิบน้านึกว่าน้าๆดูสิผู้ชายคนนั้นถึงขึ้นไปนั่งบนหลังคารถของน้าเลยน้านึกเลยทำไมน้าไม่ไปไล่เขาทำไมน้าถึงยังนั่งเฉยอยู่
น้านึกเลยหันมาพูดกับฟิวว่า นี่เอ็งก็เห็นเหมือนกันหรอ ฟิวก็ตกใจและคิดแค่ว่า ก็เห็นสิ ก็นั้นชายแก่ใส่ชุดสีขาวไงทำไมเห็นไม่ได้ แล้วน้านึกยังพูดอีกว่า นี่เอ็งรู้ไหมชายแก่ที่เอ็งเห็นนะคือคนที่เราไปงานศพวันนี้และน้าเห็นตั้งแต่ออกมาจากหมู่นั้นแล้ว น้าเห็นเขายืนอยู่ข้างทางโบกอยู่และน้ายังเห็นมาตลอดทางเลยสงสัยว่าเขาจะมาส่งเรามั้ง เมื่อน้านึกพูดจบฟิวเลยหันไปมองที่รถอีกครั้งแต่คราวนี้ฟิวก็ไม่เห็นผู้ชายแก่คนนั้นอีก เมื่อทุกคนกินก๋วยเตี๋ยวอิ่มกันแล้วหมดทุกคน ทุกคนจึงพากันมาที่รถและขึ้นรถกลับบ้าน จากนั้นฟิวก็ไม่เคยเห็นผู้ชายแก่คนนั้นอีกเลย
ขอขอบคุณรูปถาพจาก : Pixar