คุณมี EQ มากแค่ไหน
สถานการณ์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยความตึงเครียดและปัญหาเกิดขึ้นอย่างมากในสังคม ความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญสำหรับทุกๆคนในช่วงเวลานี้เลยที่จะต้องมี ที่จะต้องพัฒนาตัวเองให้มี เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์และความตึงเครียดที่เข้ามา หลายคนอาจจะสงสัยว่าเราเป็นคนที่มี EQ มากพอหรือยังมี EQ สูงพอหรือยังที่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้
10 ข้อต่อไปนี้เป็นวิธีสังเกตว่าคุณมี EQ มากแค่ไหน ลองเช็คตัวเองหรือเช็คคนรอบตัวคุณได้เลยค่ะ
1 รู้ตัวเสมอว่ามีอารมณ์อย่างไร
คนบางคนเผลอพลั้งทำอะไรบางอย่างแล้วเขามักจะพูดว่า โกรธจนขาดสติหรืออารมณ์ชั่ววูบนั้น แสดงว่าเป็นคนไม่มีความฉลาดทางอารมณ์ คือไม่สามารถที่จะควบคุมและบริหารจัดการอารมณ์ตัวเองได้ ถึงปล่อยให้ตัวเองกระทำในสิ่งที่ตัวเองอาจจะเสียใจภายหลัง ดังนั้นถ้าคนที่มี EQ สูงพอ เขาจะสามารถบอกได้ว่า ณ ขณะนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร เขากำลังมีอารมณ์แบบไหน แล้วมันจะเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาสามารถที่จะจัดการหรือควบคุมอารมณ์ได้ ถ้าหากว่าเขารู้ตัวเองและที่สำคัญเขายังจะสามารถบอกหรืออธิบายความรู้สึกอารมณ์ของเขาออกมาเป็นคำพูดได้ เขาจะมีคลังคำศัพท์ที่พูดถึงความรู้สึกเขาได้ อย่างเช่น รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกรำคาญ รู้สึกสงบ ใครสามารถอธิบายออกมาให้คนอื่นได้รู้ได้ว่า ณ ขณะนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไร นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์
2 จัดการควบคุมอารมณ์ได้
คุณสามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ ไม่ว่า ณ ขณะนั้นคุณกำลังรู้สึกอย่างไร ถ้าโกรธคุณรู้วิธีที่จะแสดงออกมาอย่างถูกต้องเหมาะสม ควบคุมให้ตัวเราแสดงออกมาได้อย่างพอเหมาะพอดี บางคนโกรธแต่ไม่รู้ว่าจะควบคุมมันอย่างไรเลยเผลอทำในสิ่งที่ขาดสติ นั่นแสดงว่าคุณบริหารจัดการอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ หรือบางครั้งเราอาจจะรู้สึกเศร้ากับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป หากคุณรู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นได้ รู้สึกหายเศร้าได้ คุณก็จะมีวิธีการจัดการอารมณ์ตัวเองได้เยอะมาก รวมถึงอารมณ์ความเครียด ความวิตกกังวล หดหู่ ความกลัว คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์มากพอ จะมีวิธีการจัดการอารมณ์ของพวกเขาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะต้องไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแต่จะทำอย่างไรให้แสดงออกหรือควบคุมให้มันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ปล่อยออกมาในจังหวะที่เหมาะสมและสื่อสารออกมาได้พอเหมาะ นั่นต่างหากที่เรียกว่าความฉลาดทางอารมณ์
3 บังคับจูงใจตัวเองได้
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ เขาจะสามารถ build ตัวเองให้ทำในสิ่งที่ควรทำ แม้ว่ามันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากทำ รู้สึกไม่สนุก รู้สึกว่ามันเครียด ดูหน้ากังวลน่ากลัวจังเลย แต่คนที่บริหารอารมณ์ตัวเองได้ เขาจะจัดการความรู้สึกเหล่านั้น และบอกให้ตัวเองได้ลงมือทำในสิ่งที่ควรทำ ในสิ่งที่ถูกต้อง ในสิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญ ณ เวลานั้น คนที่มี EQ สูงเขาจะมีเซลล์ motivation สร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง จะยิ่งทำให้คนที่เขามี EQ สูงมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตและในการทำงานมากกว่าคนทั่วไป หรือมากกว่าคนที่ไม่สามารถที่จะสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองได้ แล้วปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับอารมณ์ อยากทำก็ทำไม่อยากทำก็ไม่ทำ เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในชีวิตก็จะน้อยลงไปอีก เพราะว่าอาจจะทำให้ขาดวินัยได้ ดังนั้นคนที่มี EQ สูง ก็มักจะเป็นคนที่มีวินัยในตัวเอง ที่จะบอกตัวเองให้ทำในสิ่งที่ต้องทำ และนำพาให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต
4 ยืดหยุ่นและปรับตัวได้เร็ว
เป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะเปลี่ยนไปอย่างไร กิจวัตรประจำวันต้องเปลี่ยนไป เช่น จากที่ต้องออกไปทำงานข้างนอก ต้องเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน (Work From Home) หรือสถานการณ์ของโควิดทำให้เราต้องล็อคดาวน์อยู่ที่บ้าน คนที่มี EQ สูง ก็จะยืดหยุ่นมากพอที่จะปรับตัวเองให้อยู่กับปัจจุบันได้ ให้เข้ากับสถานการณ์ความเหมาะสมหรือสถานการณ์ต่างๆได้ โดยที่ใช้ความสามารถในการจูงใจตัวเองบริหารอารมณ์ แม้ว่าเขาก็เครียดเหมือนกันที่จะต้องเจอการเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายแล้วคนที่เขามี EQ สูง เขาจะจัดการอารมณ์ตัวเองได้และยอมที่จะยืดหยุ่นตัวเอง ไม่ยึดติดกับความสำเร็จไม่ยึดติดกับรูปแบบ กิจวัตรประจำวันหรือสิ่งที่ตัวเองเคยทำในอดีตมากเกินไป ถึงเวลาที่ต้องปล่อยวางแล้วต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้วิถีชีวิตใหม่ๆ ก็จะสามารถทำได้ดีกว่าคนที่ EQ ต่ำ
5 ไม่ตื่นตระหนกหุนหันพลันเเล่น
คุณจะไม่หุนหันพลันแล่นมากเกินไป เวลามีเหตุการณ์หรือมีเรื่องราวบางอย่างที่มากระตุ้นอารมณ์ของคุณ สมมุติง่ายๆเลย อย่างเช่น ป้ายเซลล์หรือเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์อะไรบางอย่าง แล้วเห็นสินค้าบางอย่างที่มันลดราคาหรือมันน่าสนใจมากๆเลย ถ้าหากว่าคุณไม่สามารถควบคุมความหุนหันพลันแล่นได้ คุณอาจจะเผลอใจแล้วก็รีบตัดสินใจซื้อของออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง ถ้าคุณ EQ สูงมากพอ คุณจะยังไม่ผลีผลาม ยังสามารถสุขุมและใจเย็นได้ รอเช็คข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใจเย็นเกินไปจนช้าไม่ทันการณ์ แต่หมายความว่าไม่ได้รีบตอบสนองโดยทันทีอย่างขาดสติ แต่คิดหน้าคิดหลังและไตร่ตรองก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งนั้นๆลงไป
6 ฟังคนอื่น
คนบางคนเขาอาจจะพูดไม่หยุดและไม่ฟังคนอื่นเลย แต่คนที่มี EQ สูง เขาจะหยุดและฟังคนอื่นเพื่อทำความเข้าใจมุมมองและความรู้สึกของคนอื่น เปิดรับไอเดีย เปิดใจรับฟังคอมเมนต์หรือ feedback จากคนอื่น ที่เขาอาจจะให้ feedback หรือ comment เรื่องการทำงานเรื่องการใช้ชีวิต กล้าที่จะเปิดใจรับฟัง เข้าใจมุมมองของคนที่กำลังพูดอย่างแท้จริง โดยที่ไม่อีโก้สูงจนไม่ฟังความรู้สึกไม่ฟังความคิดเห็นไม่ฟังไอเดียของใครเลย แต่ถ้าคุณมี EQ ในระดับที่เหมาะสม คุณจะรับฟังคนอื่นถึงเวลาที่คุณพูดคุณก็จะกล้าพูดกล้าแชร์ในสิ่งที่คุณคิด หรือพูดในสิ่งที่คุณคิดว่าควรพูด แต่เมื่อไหร่ที่รู้ว่าถึงจังหวะที่ต้องหยุดแล้วฟังคนอื่น คุณก็จะหยุดแล้วฟังคนอื่นเพื่อทำความเข้าใจคนอื่นให้มากพอ
7 เข้าใจมุมมองความรู้สึกคนอื่น
มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นได้ (ภาษาอังกฤษเรียกว่า embassy) หรือเข้าใจมุมมองของคนที่กำลังพูดอยู่ หรือคนที่คุณกำลังอยากที่จะเข้าใจเขาคนๆนั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องพูดหรือบอกอะไรออกมาเลย แต่ถ้าคุณมี EQ ที่สูงมากพอ คุณจะอ่านจากสีหน้าแววตาท่าทาง จังหวะการพูด คำพูดคีย์เวิร์ด คำศัพท์ที่ใช้ คุณจะสามารถอ่านความรู้สึกหรือเข้าใจความรู้สึกและมุมมองของคนๆนั้นได้โดยที่เขาไม่ต้องอธิบาย ยิ่งถ้าหากเป็นพวกนักจิตวิทยาหรือเป็นโค้ชที่เขาฝึกการฟังและฝึก embassy มาเยอะๆ แค่อ่านสีหน้าแววตาหรือท่าทางการแสดงออก ก็สามารถบ่งบอกความรู้สึก บ่งบอกสิ่งที่อยู่ในใจได้อีกหลายๆอย่างเลย ทักษะนี้จะทำให้คุณได้เปรียบและเข้าสังคมอยู่กับคนอื่นๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนได้อีกเยอะมาก ถ้าคุณมีทักษะการเข้าอกเข้าใจคนอื่นหรือ embassy ซึ่งสิ่งนี้สามารถฝึกได้ คุณลองฝึกอ่านความรู้สึก อ่านสีหน้าท่าทางของคนอื่น โดยที่เขาไม่ต้องพูดออกมาเลย ถ้าหากว่าคุณทายได้ว่าคนนี้กำลังรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม ลองฝึกกับเพื่อนหรือว่าคนรอบตัวคุณ เขาไม่ได้พูดออกมาแต่คุณลองถามเขาดูสิว่า เขากำลังรู้สึกแบบนี้ใช่หรือเปล่า เขากำลังมีความรู้สึกต่อสิ่งนี้แบบนี้ใช่ไหม แล้วถ้าหากว่าเขาตอบว่าใช่ แสดงว่าถูกต้องแล้ว ฝึกบ่อยๆจะยิ่งทำให้คุณเข้าอกเข้าใจ รู้จิตใจคนอื่นได้สูงมาก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเหมือนคุณเป็นนักจิตวิทยาเข้าไปนั่งอยู่ในใจของคนคนนั้นได้เลย
8 เปลี่ยนอารมณ์ของคนอื่นได้
ถ้ามีคนที่กำลังเครียดหนักอยู่ กำลังโกรธจัดมาก หรือกำลังเศร้าเสียใจสุดๆ แล้วคุณสามารถปลอบประโลม หรือทำให้คนๆนั้นใจเย็นลงด้วยทักษะความสามารถของคุณได้ คุณอาจจะมีวาทะศิลป์หรืออาจจะมีวิธีการเข้าไปสร้างแรงจูงใจ เบี่ยงเบนความสนใจ หรืออะไรก็ตามที่จะจัดการอารมณ์คนอื่น ให้เขาปรับระดับอารมณ์ออกมาอย่างเหมาะสม และกลับมาคุยกันด้วยเหตุได้ผลได้ สิ่งนี้จะทำให้คุณมีอำนาจโดยที่ไม่รู้ตัวเลย อำนาจในการที่จะจัดการควบคุมคนอื่นได้ โน้มน้าวให้คนอื่นเห็นคล้อยตามหรืออยากทำในสิ่งที่คุณชักชวนให้เขาไปทำได้ ซึ่งสิ่งนี้ก็ฝึกได้เหมือนกัน และถ้าใครมีสิ่งนี้รับรองได้ว่า ชีวิตคุณจะได้เปรียบแล้ว ก็เหมือนมีอาวุธติดตัวที่ดีมากๆเลย
9 มีแต่คนอยากทำงานด้วย
ข้อนี้อาจจะพูดถึงเรื่องของการทำงาน ถ้าคุณมี EQ ที่สูงมากพอ ไปที่ไหนก็มีแต่คนที่อยากจะร่วมงานกับคุณ หรือถ้าหากว่าคุณเป็นหัวหน้า ลูกน้องก็อยากจะติดตามคุณไปทุกที่ ไปที่ไหนก็มีแต่คนอยากจะเข้ามาปรึกษาอยากจะเข้ามาคุยด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณมีความฉลาดทางอารมณ์มากพอที่จะทำให้คนอื่นที่อยู่รอบข้างของคุณอารมณ์มั่นคงไปด้วย รู้สึกว่าสบายใจที่จะอยู่กับคุณที่จะคุยกับคุณ ตรงกันข้ามถ้าหากว่าไปไหนแล้ววงแตก ไม่มีใครอยากคุยด้วย ไม่มีใครอยากจะร่วมงานกับคุณเลย หรือถ้าหากว่าคุณเป็นหัวหน้าแล้วลูกน้องทำไมลาออกบ่อยแบบนี้ ลองกลับมาถามตัวเองดูว่า เราทำอะไรที่ทำให้คนที่ทำงานอยู่รอบข้างเราอึดอัดหรือไม่สบายใจและไม่มีความสุขหรือเปล่า
10 ผ่านวิกฤตไปได้อย่างมีสติ
ท่ามกลางสภาวะที่กดดันและยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คุณมีสติมากพอที่จะจัดการชีวิตทุกๆด้านให้สมดุลแล้วก็เดินก้าวต่อไปได้ ไม่ว่าตอนนี้คุณอาจจะกำลังเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน รายได้ลดลง หรือปัญหาอะไรก็ตามที่คุณกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เนื่องจากภาวะวิกฤตแต่คุณยังคุมอารมณ์ตัวเองได้ ยังพาตัวเองอยู่ในเส้นทางและมีแผนที่จะรับมือยังไงต่อไป คุณใจเย็นมากพอและมีสติมากพอที่จะอยู่กับสิ่งนี้ได้โดยที่ไม่สติแตก ไม่เครียดหรือไม่เศร้าจนป่วย ก็ถือว่าคุณมีความฉลาดทางอารมณ์เพียงพอที่จะจัดการกับชีวิต และพาชีวิตของคุณให้ก้าวผ่านปัญหาและรอดไปได้ ความฉลาดทางอารมณ์ไม่ได้เป็นประโยชน์แค่ตัวเอง ถ้าหากว่าคุณมี EQ สูงมากพอ คุณยังจะช่วยคนรอบข้างของคุณได้ ทั้งคนในครอบครัวหรือคนในที่ทำงาน ลูกน้องของคุณหรือแม้แต่หัวหน้าของคุณ ได้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ถือว่าเป็นทักษะชีวิตของเราเลยที่เราต้องเรียนรู้กันตั้งแต่เด็กแล้วต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ไม่ว่าเราจะอยู่วัยไหนความฉลาดทางอารมณ์นี้ก็จำเป็นและสำคัญมากๆ ไม่ว่าเราจะเข้าสู่ยุคดิจิทัลหลังโควิด new normal ก็ยังจำเป็นต้องใช้ทักษะนี้อยู่ดีค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ หลังจากอ่านจบแล้ว คุณลองเช็คตัวเองว่าตรงกับคุณกี่ข้อ ข้อไหนบ้างที่ยังทำไม่ได้ ลองมาคอมเม้นต์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ ชวนทุกคนที่ได้อ่านจบแล้วมาเช็คกันว่าคุณเข้าเกณฑ์คนมีอีคิวสูงกันกี่ข้อบ้าง