ขนมหวานของความคิดถึง
เป็นเมนูขนมหวานที่อยู่ในความทรงในวัยเด็ก ที่ทำให้รู้สึกนึกถึงช่วงวันและเวลาต่าง ๆ ที่ผ่านมา มีทั้งความสนุก ความสุข ความอร่อย ให้คิดถึงช่วงวันเวลาเหล่านั้น
ลอดช่องน้ำกะทิ เป็นเมนูขนมหวานที่ทำไม่ยาก ทำทานได้ง่ายมากๆ แค่เวลาไปตลาดแล้วเจอ ลอดช่อง ที่แม่ค้าเอามามัดขายเป็นถุงๆ ถุงละ 1 กิโล เราก็จัดการซื้อ ลอดช่อง กลับมา หาซื้อกะทิสดคั้นแล้วกลับบ้านมาด้วยจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาปลอกมาคั้นมะพร้าวกันอยู่
กลับมาถึงบ้าน เทลอดช่องใส่กะทะมังไว้ เอากะละมังมาอีกใบเทหัวกะทิลงไป ใส่น้ำตาลปี้บ เกลือนิดหน่อย คนทุกอย่างให้ละลายเข้ากันดี ชิมรสชาติ หวาน เค็ม เล็กน้อย เป็นอันเสร็จ ตักลอดช่องใส่ถ้วย ลาดด้วยน้ำกะทิ พร้อมกินได้เลย ( บ้านเราไม่ได้เอาน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟเคียวเพื่อให้น้ำตาลกับเกลือละลายนะค่ะ ใช้วิธีการคนแบบธรรมดาเลย เพราะกินกันหลายคน หมดในวันเดียว แต่บ้านใครจะเอาตั้งไฟเคียวก็แล้วแต่สะดวกได้เลยจ้า )
ข้าวเหนียวถั่วดำน้ำกะทิ เมนูนี้บ้างครั้งก็ซื้อมากินเลยที่เดียวไม่ต้องทำแต่ต้องซื้อมาหลายๆถุงหน่อยแค่นั้น แต่บางครั้งก็ทำกินกันเองบ้างถ้านึกอยากทำขนม แต่ก็ไม่ได้ทำทั้งหมดหรอก แม่เราจะซื้อ ข้าวเหนียวที่มูนสำเร็จมาแล้ว จะทำแค่ต้มถั่วดำ อย่างเดียวเท่านั้น
เอาถั่วดำแช่น้ำไว้อย่างน้อย 2 ชม. หรือบ้างครั้งก็แช่ทิ่งไว้ข้ามคืนก็มี นำถั่วดำมาล้างน้ำให้สะอาด เอาถั่วดำใส่หม้อต้มน้ำต้มไฟกลางๆ ต้นจนถั่วดำสุก ปิดไฟตักออก
เอาน้ำกะทิ น้ำลงตาลปี้ป ( ใช้น้ำตาลทรายก็ได้ แต่ส่วนตัวชอบน้ำตาลปี้ป ) ใส่เกลือ ลงไป เคี่ยวไฟอ่อน คนจะทุกอย่างละลายเข้ากันดี ชิมรสได้ตามชอบปิดไฟ พร้อมกินได้เลย
บวชคง หรือ บวชข้าวโพด อันนี้ทำง่ายไม่ยุ่งยาก มีข้าวโพดหวาน น้ำกะทิ น้ำตาลปี้ป เกลือ ปาดฝานข้าวโพดหวานออก เอาน้ำกะทิใส่หม้อตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำตาลปี้ป เกลือ คนจะละลายเข้ากันชิมรสชาติให้ถูกใจ ใส่ข้าวโพดหวานลงไปต้มรอน้ำเดือดข้าวโพดหวานสุกปิดไฟเป็นอันจบ
เต้าส่วน ขนมหวานนี้เราไม่ค่อยชอบเพราะจะมีความยืดๆของแป้ง แต่ที่บ้านชอบทานกัน มีถั่วเขียวผ่าซีก น้ำตาลทราย แป้งมัน หัวกะทิ เกลือ ใบเตย แป้งข้าวเจ้า
เอาถั่วเขียวผ่าซีกแช่น้ำ 2-3 ชม. แล้วเอามาล้างน้ำให้สะอาด เอาน้ำใส่หม้อ ใส่ใบเตย ถั่วเขียวผ่าซีกใส่ลงไปต้มไฟอ่อนจนสุก ( บางบ้านจะใช้วิธีเอาถั่วเขียวซีกไปใส่ซึ่งนึ่งก็ได้เหมือนกัน ) ระหว่างนี้เอาแป้งมันผสมน้ำคนให้ละลายเข้ากันรอไว้ ตักใบเตยออก ใส่น้ำตาลทราย ลงไปคนให้ละลายชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ เทแป้งมันที่ผสมไว้แล้วลงในน้ำเดือน เวลาเทต้องคนตลอดนะ คนจนเหนียวเข้ากันดีเป็นอันเสร็จ
ส่วนน้ำกะทิโรยหน้า เอากะทิใส่หม้อตั้งไฟอ่อน ใส่แป้งข้าวเจ้า เกลือ คนให้ละลายเข้ากัน กะทิเดือดเล็กน้อยก็ปิดไฟได้เลย
ฝักทองเชื่อม เมนูนี้เราชอบทาน มี ฝักทอง น้ำตาลทราย เอาฝักทอง มาผ่าคว้านใส่ฝักทองออก หันเป็นชิ้นเตรียมไว้ ล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำปูนทิ้งไว้ เพื่อที่เวลาเชื่อมฝักทองจะไม่เละ เอาน้ำตาลทรายใส่หม้อ เติมน้ำ ใช้ไฟอ่อน คนจนละลาย ใส่ฝักทองที่เตรียมไว้ลง เปิดไฟแรงจนน้ำเดือด แล้วจึงปรับมาใช้ไฟอ่อน ต้มฝักทองไปเรื่อย แต่ห้ามคนนะ เพราะจะทำให้น้ำตาลเป็นก้อน ต้องคอยตักน้ำเชื่อมลาดฝักทองที่ไม่โดนน้ำเชื่อมเรื่อยๆนะคะ เคี่ยวไปจนสุกก็ปิดไฟได้เลยคะ เช็คง่ายๆว่า ฝักทองจะสุกไหม เราเอาซ้อมจิ้มดูคะถ้าจิ้มทะลุแปลว่าสุกคะ
เมนูนี้บางครั้งเราก็เปลี่ยนเป็น มันสำปะหลัง มันเทศ หรือ เผือก มาเชื่อมแทนคะ ทำเหมือนกันคะ แค่เปลี่ยนวัตุดิบหลักแค่นั้นเอง
กล้วยไข่เชื่อม อันนี้ซื้อกินอย่างเดียวเลยคะ ไม่เคยทำกินเองเลย ส่วนตัวชอบทานกล้วยไข่เชื่อมแบบนิ่มคะ ชอบทานกล้วยไข่เชื่อมที่เวลาทานแล้วให้ความหอมซึ่งไม่รู้ว่าความหอมมาจากอะไร ได้ความหวานนิดหน่อย ตักเค็มด้วยน้ำกะทิ ความหอมแบบสมัยก่อนเดี่ยวนี้หาทานยากแล้ว ซื้อมาทานหลายเจ้าไม่มีกลิ่นหอมแบบสมัยก่อนเลย
บัวลอย น่าจะเป็นเมนูที่ทำกินกันเกือบทุกบ้าน เวลาทำที่ต้องเกณฑ์เด็กๆมาช่วยกันปั้น แป้งบัวลอยกันเลยที่เดียว
ส่วนผสมมี แป้งข้าวเหนียว ฝักทอง เผือก ใบเตย กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ หันฝักทอง เผือก เป็นชิ้นแล้วนึ่งให้สุกเตรียมไว้ นำใบเตยมาคั้นน้ำ เอาแป้งข้าวเหนียวมานวดผสมกับน้ำ นวดจนแป้งได้ที แบ่งแป้งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งใส่ฝักทองนึ่งสุก ส่วนหนึ่งใส่เผือกนึ่งสุก นวดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกันแล้วพักไว้ เอาแป้งข้าวเหนียวอีกส่วนมานวดด้วยน้ำใบเตยที่คั้นไว้ นวดจนแป้งเข้ากันดี แล้วเอาแป้งที่ได้มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดพอกิน คราวนี้ก็เกณฑ์เด็กๆมาข่วยกันปั้นเม็ดบัวลอย จะได้เสร็จเร็ว ๆ
เอาน้ำกะทิใส่หม้อขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ลงไปตั้งไฟอ่อน คนจนทุกอย่างละลายดี ชิมรสชาติได้ตามที่ชอบ เอาแป้งบัวลอยที่ได้ ( เขย่าแป้งที่โรยคลุกตัวแป้งบัวลอยออกให้หมด ) แล้วใส่ แป้งบัวลอยที่ปั้นลงไปต้มพร้อมน้ำกะทิที่ตั้งไฟไว้ได้เลย ต้มจนแป้งบัวลอย ลอยขึ้นแสดงว่าแป้งบัวลอยสุกแล้ว ปิดไฟตักให้เด็กๆทานกันได้เลย ค่าแรงช่วยปั้นเม็ดบัวลอย ( บางบ้างจะต้มตัวบัวลอยแยกต่างหากจากน้ำกะทินะคะ เพื่อที่น้ำกะทิจะได้ไม่ขุ่นข้น แต่บ้านเราจะชอบใส่ตัวบัวลอยลงไปต้มพร้อมน้ำกะทิเลยคะ เพราะความหวานของกะทิจะซึมเข้าไปในตัวบัวลอยเวลาทานแล้วเรารู้สึกว่าอร่อยกว่าเอาเม็ดบัวลอยไปต้มแยกน้ำ แล้วถึงเอามาใส่ในน้ำกะทินะคะ )
บางครั้งเราก็เปลี่ยนจาก บัวลอย มาทำ กล้วยบวชชี บวชมัน บวชเผือก แทนคะ ทำสลับๆ กันไป จะได้ไม่เบื่อขั้นตอนการทำเหมือนกันคะ เวลาทำกล้วยบวชชี เราก็จะเอากล้วยต้มในน้ำกะทิเลยเหมือนกันนะ เราชอบที่เวลาทานแล้วตัวกล้วยชุ่มไปด้วยน้ำกะทิ เราไม่ชอบเอากล้วยไปนึ่งให้สุกก่อนแล้วค่อยเอามาใส่ในน้ำกะทิคะ เป็นความชอบส่วนตัวคะ ส่วนใครชอบแบบไหนเอาตามที่ชอบคะ
ซาหริ่ม อันนี้ยิ่งทำง่ายมาก ๆ เลยคะ ซื้อเขามากินแบบพร้อมทานเลยคะ ง่ายที่สุด ซาหริ่ม จะให้ความหอมของตัวน้ำลอยดอกมะลิ คะ รสชาติ หอม หวาน ชื่นใจดีคะเวลาทาน
เป็นเมนูของหวานในวัยเด็ก ที่เราชอบและคิดถีง ขนมหวาน บางอย่างในสมัยนี้เวลาซื้อกินจะไม่ค่อยมีความหอมให้ได้กลิ่นแบบสมัยก่อนเท่าไหรแล้วคะ หาทานแบบที่ถูกใจค่อนข้างยากคะ
LOMA 🐬🐬