“อ่างล้างตีน” กับ "หัวบันไดไม่แห้ง"
สมัยแอดเป็นเด็กมีหน้าที่อยู่อย่างคือล้างทำความสะอาดเจ้าอ่างนี่แหละเพราะว่าใช้ไปได้ 4-5 วันก็จะมีตะไคร่น้ำเขียวขึ้นเต็มอ่างเพราะมันโดนแดด หรือไม่ก็จะเจออึ่งอ่างคางคกไปไข่ไว้บางทีทิ้งไว้จนเป็นลูกอ็อด แอดต้องคอยถ่ายน้ำและและใช้แปรงทองเหลืองขัดให้สะอาด เสร็จแล้วอุดด้วยจุกไม้ซีลด้วยผ้า กันซึม แล้วเติมน้ำใหม่ลงไป
เจ้าอ่างนี้ สมัยก่อนถือว่าเป็นของสำคัญที่ทุกบ้านจะต้องมี ไม่มีไม่ได้ เพราะสมัยนั้นการเดินไปไหนมาไหนส่วนมากจะเดินเท้าเปล่า รองเท้าน่ะไม่มีกันหรอกถึงมีก็ใส่ลำบาก กลางท้องทุ่งนาเต็มไปด้วย เต็มไปด้วยดินโคลนทั้งนั้นใส่ไม่ได้แน่ๆ เท้าแต่ละคนที่เดินออกจากบ้านไปน่ะ เปรอะเลอะไปด้วยดินด้วยโคลนด้วยอะไรต่อมิอะไรทั้งนั้น ทีนี้เวลาจะขึ้นบ้านก็ต้องล้างต้องทำความสะอาดให้ดีก่อน การล้างนั้นครั้นจะไปตักน้ำจากบ่อมารึก็เสียเวลาโดยใช่เหตุ คนสมัยก่อนจึงทำ “อ่างล้างตีน” ไว้หน้าบ้านซะเลย เวลาล้างก็ใช้เท้าที่เลอะๆ “จุ้ม” หรือจุ่มลงไปให้สะอาดดีแล้วจึงขึ้นเรือน
บ้านไหนคนมาไม่ได้ขาดเลย ก็เรียก "หัวบันไดไม่แห้ง"
ส่วนใหญ่ใช้บอกเป็นนัยว่า "บ้านนี้ลูกสาวสวย"
ซึ่งผิดกับสมัยนี้ที่สภาพบ้านเราไม่ เหมือนแต่ก่อน ถนนหนทาง การสัญจรไปมาสะดวกสบายไม่มีอะไรติดเท้า อีกอย่างคนส่วนใหญ่ก็ใส่รองเท้ากันแล้วไม่ได้เดินตีนเปล่าแบบสมัยนั้นทำให้ บ้านส่วนใหญ่ไม่มี “อ่างล้างตีน” อีกต่อไป