10 วิธีเก็บเงินให้อยู่และเห็นผลอย่างยั่งยืน
การออมเงินเป็นวิธีการสะสมเงินเพื่อใช้จ่ายได้ในอนาคตหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นแผนสำรองที่สำคัญในชีวิตเลยก็ว่าได้ เนื่องจากในอนาคตควรมีเงินสำรองเอาไว้เพื่อความไม่แน่นอนในชีวิต ดังนั้นการออมเงินก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะสามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตนั่นเอง ซึ่งวิธีเก็บเงินมีอยู่หลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของตัวเอง
1. บันทึกค่าใช้จ่ายประจำวัน
วิธีเก็บเงินที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถติดตามค่าใช้จ่ายประจำวันได้ คือ การจดรายรับรายจ่ายประจำวันนั่นเอง เนื่องจากวิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายเพียงแค่จดบันทึกว่าในหนึ่งวันมีค่าใช้จ่ายและรายรับเท่าไหร่บ้าง
นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่คอยกระตุ้นให้เกิดการออมได้มากขึ้นเนื่องจากจะทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายว่ามีอะไรบ้างและรายจ่ายมันสัมพันธ์กับรายรับมากน้อยแค่ไหน และยังสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้อีกด้วย ดังนั้นวิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายมากที่สุดและสามารถจัดการรายจ่ายที่ไม่สำคัญออกไปได้ทันที
2. เศษเงินเดือนก็เอามาเป็นเงินเก็บได้
วิธีเก็บเงินที่เป็นที่นิยมและสามารถทำได้ คือ การเอาเศษของเงินเดือนมาเป็นเงินเก็บนั่นเอง เพราะว่าเงินเดือนในแต่ละเดือนก็จะมีเศษเงินที่ไม่ลงตัวหลังจากที่หักค่าต่าง ๆ เช่น เงินประกันสังคม เงินทุนสำรองเลี้ยงชีพต่าง ๆ ดังนั้นการเอาเศษเงินในส่วนนี้มาเป็นเงินเก็บทุก ๆ เดือนก็จะทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้เงินส่วนนี้ยังเป็นเงินเก็บที่สม่ำเสมอแต่อาจจะมีจำนวนน้อย แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีเงินเก็บทุก ๆ เดือนซึ่งมันดีกว่าใน 1 เดือนที่ไม่มีเงินเก็บเลย
3. เปิดบัญชีฝากประจำ
หลังจากที่มีเงินเก็บแล้วหลาย ๆ คนก็อาจจะเลือกวิธีหยอดกระปุกออมสินหรือวิธีการพับเก็บไว้ในกล่อง แต่มีวิธีเก็บเงินที่จะสามารถช่วยให้เงินที่เก็บนั้นงอกเงยขึ้นมาก็คือวิธีการฝากเงินในบัญชีฝากประจำนั่นเอง ซึ่งบัญชีนี้ควรเป็นบัญชีที่ไม่สามารถถอนออกได้ โดยผู้ฝากเองจะต้องฝากเงินให้ครบตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้เช่น ฝากประจำ 2 ปี ฝากประจำ 1 ปี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกให้ธนาคารดึงเงินจากเงินเดือนเก็บเข้าบัญชีฝากประจำของผู้ฝากไปได้เลยเพื่อป้องกันการลืมฝากนั่นเอง โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกและสามารถหักออกจากบัญชีเงินเดือนได้แบบทันที เรียกได้ว่าเป็นการออมเงินที่คุณจะมีเงินเก็บอย่างแน่นอน
4. เก็บเงินหรือเหรียญตามที่ตัวเองกำหนดเอาไว้
วิธีเก็บเงินในรูปแบบเลือกเก็บนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาจากเด็ก ๆ สมัยนี้และยังเป็นวิธีที่ได้ผลได้ดีทีเดียว โดยวิธีการเลือกเก็บแบงก์หรือเหรียญที่กำหนดเอาไว้จะเป็นเหมือนกิจกรรมที่ตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าหากเจอแบงก์ 50 จะไม่ใช้ หรือถ้าเจอแบงก์ใหม่ก็จะเก็บเอาไว้ไม่ใช้แน่นอน
วิธีเก็บเงินวิธีนี้จะมีความสนุก ไม่เครียดจนเกินไปเพราะไม่มีการกำหนดที่ตายตัวว่าต้องเก็บแบงก์อะไรซึ่งผู้ฝากเองสามารถกำหนดได้ตามความชอบส่วนตัวอีกด้วย ดังนั้นวิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจและสามารถทำได้จริง
5. แบ่งใช้แบบรายวัน
วิธีเก็บเงินที่เป็นการแบ่งใช้แบบรายวันเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะเป็นวิธีที่กำหนดค่าใช้จ่ายให้กับตัวเองเลยว่าในหนึ่งวันจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ และถ้าหากใช้หมดจะไม่สามารถใช้ได้เกินนี้ได้แล้ว ซึ่งวิธีนี้จะต้องอาศัยการวางแผนตั้งแต่เงินเดือนออกเลยว่าค่าใช้จ่ายหลังจากหักออกแล้วจะเหลือเท่าไหร่ และจะต้องเก็บเท่าไหร่เพื่อให้พอใช้จ่ายในแต่ละวัน
นอกจากนี้ยังต้องคำนวณอีกด้วยว่ามีค่าใช้จ่ายประจำวันอะไรบ้างที่ต้องใช้ทุกวัน หลังจากนั้นถึงจะสามารถกำหนดได้ว่าจะต้องใช้จ่ายเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอใน 1 วัน
6. งดใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น
การใช้จ่ายสำหรับสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นหรือสินค้าที่ฟุ่มเฟือยดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เงินเก็บของทุกคนหายไป ซึ่งถ้าสามารถตัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้มันจะเป็นวิธีเก็บเงินที่ทำให้เงินเก็บเพิ่มขึ้นและสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญมากกว่าก็ได้
ซึ่งสูตรการออมเงินนี้แทบจะมีอยู่ในทุกสูตรเลยก็ว่าได้ เพราะปัจจัยหลักที่ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินได้ก็เพราะค่าใช้จ่ายสำหรับของฟุ่มเฟือยนั่นเอง ดังนั้นถ้าตัดมันออกไปได้ก็จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
7. คิดก่อนจะซื้อ ยื้อเวลาสักนิด
สำหรับบางคนการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่หรือที่มีมูลค่าสูงก็จะมีความหักห้ามใจก่อนตัดสินใจซื้อ หรืออาจจะใช้เวลาสักพักถึงจะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะซื้อหรือไม่ ซึ่งวิธีเก็บเงินวิธีนี้ คือ การคิดถึงความจำเป็นและให้เวลาในการตัดสินใจก่อนการซื้อของชิ้นใหญ่หรือของที่มูลค่าสูง ๆ ทุกครั้ง เนื่องจากควรทบทวนว่าอยากได้จริง ๆ หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบที่พาไปเท่านั้น อีกทั้งยังถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการมองหาโปรโมชันต่าง ๆ ว่าโปรโมชันไหนถึงจะคุ้มที่สุดนั่นเอง
8. เงินเหลือเท่าไหร่เอามาเป็นเงินเก็บ
วิธีเก็บเงินจากเงินเหลือไม่ว่าจะเป็นเงินรายเดือนหรือเงินรายวันก็สามารถเอามาเป็นเงินเก็บในทุก ๆ เดือนได้ เพียงแค่ตรวจสอบในกระเป๋าเงินทุกวันว่ามีเงินเหลือจากการใช้จ่ายเท่าไหร่และนำเงินส่วนที่เหลือมาเป็นเงินออมทุกวัน ๆ ก็จะทำให้เงินเก็บเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถนำเงินเก็บในส่วนนี้มาใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ประจำเดือนได้เช่นกัน แล้วแต่ว่าจะมีการจัดการหรือบริหารเงินในรูปแบบไหน เพียงเท่านี้ก็จะมีเงินเก็บทุกเดือนแล้ว
9. ยิ่งช้อป ยิ่งเก็บ
ทริคเก็บเงินทริคนี้เป็นวิธีเก็บเงินที่อาจจะยากไปสำหรับคนใจไม่แข็งพอ แต่ความจริงแล้วถือว่าเป็นวิธีที่ดีเหมาะสำหรับคนใจเด็ดที่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ดี หรืออาจจะเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลยก็ว่าได้
ซึ่งเพียงแค่ใช้จ่ายสำหรับการช้อปไปเท่าไหร่ก็เก็บเงินให้เท่ากับเงินที่ช้อปไปเท่านั้น โดยสามารถหักเงินเก็บนั้นจากส่วนไหนก็ได้ตามต้องการ แต่ไม่ควรที่จะรอให้มีเงินแล้วเอามาเก็บ ควรที่จะเก็บเงินทันทีหลังจากช้อปเพราะว่าถ้ารอให้มีเงินก็อาจจะลืมหรือไม่นำเงินมาเก็บเลยก็ได้
10. ใช้แอป MAKE by KBank ช่วยเก็บเงิน
วิธีการออมเงินวิธีสุดท้ายที่เหมาะสำหรับขาช้อปและเหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้แอปพลิเคชันทางการเงินเพื่อเป็นเงินเก็บจะอาจจะเจอปัญหาที่จะต้องเปิดหลายบัญชีเพราะอยากมีหลาย ๆ กระเป๋าเงินสำหรับการใช้จ่ายแต่ละประเภท แต่การเปิดหลายบัญชีก็จะยุ่งยากและสับสนได้
ดังนั้นขอแนะนำแอปพลิเคชันทางการเงิน MAKE by KBank ที่มีฟีเจอร์ช่วยเก็บเงินได้หลากหลายกระเป๋า อีกทั้งยังมีการสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละกระเป๋าได้อีกด้วย โดยฟีเจอร์ Cloud Pocket เป็นฟีเจอร์ที่สามารถแบ่งเงินได้การออมหลายกระเป๋าภายในบัญชีเดียวสามารถตั้งชื่อและใส่รูปภาพได้ตามชอบ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างกระเป๋าได้ไม่จำกัดและแต่ละกระเป๋าก็สามารถใส่วงเงินได้อีกด้วย ซึ่งมันช่วยให้ทำบัญชีรายจ่ายและรู้ขอบเขตการใช้เงินได้เป็นอย่างดี
สำหรับฟีเจอร์ Expense Summary ก็เป็นฟีเจอร์สรุปรายจ่ายของแต่ละกระเป๋าอย่างชัดเจนของทุกเดือน ซึ่งสามารถแสดงรายจ่ายพร้อมกับหลักฐานการใช้เงินที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการค้นหาหลักฐานต่าง ๆ ทั้งนี้ยังสามารถจดบันทึกได้อีกด้วย ดังนั้นวิธีเก็บเงินในแอปพลิเคชัน MAKE by KBank จะเป็นวิธีที่สร้างนิสัยการออมเงินและยังเป็นตัวช่วยการวางแผนทางการเงินได้เป็นอย่างดี
สรุป
วิธีการใช้เงินของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปตามความจำเป็นของแต่ละคน ซึ่งอาจจะไม่มีวิธีเก็บเงินวิธีใดวิธีหนึ่งที่จะสามารถบอกได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วเห็นผลอย่างแน่นอน เนื่องจากการออมเงินสามารถเลือกได้ว่าวิธีไหนเป็นวิธีที่เหมาะสมและตรงกับลักษณะการใช้ชีวิตมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือการนำมาปรับให้ใช้กับตรงลักษณะการใช้ชีวิต ถ้าหากสามารถนำมาปรับใช้ได้จะเป็นผลดีอย่างแน่นอน
ดังนั้นควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้ชีวิตมากที่สุด และนำมาปรับใช้ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง โดยเลือกได้ว่าวิธีไหนเหมาะสม หลังจากนั้นค่อยนำมาปรับใช้หรือเรียนรู้ที่จะค่อย ๆ ปรับใช้ก็ได้
ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดก็คือการใช้แอปพลิเคชัน MAKE by KBank ที่สามารถวางแผนทางการเงินและสามารถเก็บออมเงินในอนาคต เพื่อให้มีเงินในการใช้ยามจำเป็น และหากใครก็ตามที่ได้ลองใช้จะทำให้มีการวางแผนการเงินส่วนตัวรัดกุมและสามารถต่อยอดนำเงินที่มีนั้นไปใช้ในการลงทุนอื่น ๆ ให้เงินงอกเงยได้อีกด้วย