เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม ช่วยละลายไขมัน
เห็ดนางรมขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม มีโคนก้านดอกติดกันและมีหมวกเห็ดซ้อนกันเป็นชั้นๆ และสามารถงอกออกมาจากขอนไม้ หรือกิ่งไม้ผุบนต้นไม้ยืนต้นได้. การใช้ประโยชน์จากเห็ดนางรม
เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า มีสารโรซูวาสแตติน (rosuvastatin) ธรรมชาติ คนที่เป็นโรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง หรือ LDL ในเลือดสูง ต้องกิน “สารสแตติน” (statins) เพื่อละลายไขมันในเส้นเลือด
จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และทำให้เส้นเลือดขยายตัวได้ การกินเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าสด 1 ดอก ได้ผลดีกว่า สามารถทดแทนยาละลายไขมันได้ 1 เม็ด และยังได้โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีการเปิดเผยให้ประชาชนรู้
เรื่องกลุ่มเห็ดตระกูล (Pleurotus species) ซึ่งมีเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดนางนวล เห็ดนางรมสีทอง ซึ่งมีกลุ่มสารสแตติน เพราะไปกระทบกับบริษัทที่ทำสารสแตตินขาย
ปัจจุบันคนไทยกินเห็ด 12,000 กรัมต่อคนต่อปี แต่คนไทยผลิตเห็ดได้ไม่เกิน 3 แสนตัน ขณะที่ความต้องการบริโภค 7-8 แสนกรัมต่อคนต่อปี ทำให้มีการนำเข้าเห็ดจากต่างประเทศจำนวนมาก อย่างที่เห็นตามโมเดิร์นเทรด เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดชิเมจิ เห็ดหอม เห็ดกระดุม ฯลฯ หากเปรียบเทียบราคาเห็ดของไทย กับเห็ดที่นำเข้า แต่เห็ดไทยราคาสูงกว่าเห็ดนำเข้าจากต่างประเทศเกือบเท่าตัว
เนื่องจากเห็ดนำเข้าส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ซึ่งมีราคาถูกมาก เพราะจีนถือว่า “เห็ดเป็นอาวุธทางการเมือง” โดยจีนบอกว่า เห็ดเป็นอาหารที่จะเลี้ยงพลเมืองจีน 1,400 ล้านคน ได้เพียงพอ ประชากรจะไม่ขาดแคลนอาหาร
เพราะสรรพคุณทางยา และคุณค่าทางอาหารสูง นอกจากนี้ เห็ดเป็นพืชที่อาศัยวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร ทั้งเศษฟาง เศษข้าวโพด เศษหญ้า เศษขี้เลื่อย ฯลฯ รัฐบาลจีนจึงมีนโยบายส่งเสริมการเพาะเห็ดอย่างเป็นระบบ
ปี 2000 จีนผลิตเห็ดได้ ไม่ถึง 2 ล้านตัน แต่ปี 2020 จีนผลิตเห็ดได้ 35 ล้านตัน แต่คนจีนกินเห็ด 27-28 ล้านตัน ที่เหลืออีก 7 ล้านตัน รัฐบาลจีนสนับสนุนให้ส่งออก สมมุติต้นทุนคนเพาะเห็ด 100 บาท แต่ส่งขายให้ไทยได้ราคา 20 บาทต่อ กก. รัฐบาลจีนจะจ่ายโบนัสให้ 80 บาท และมีสิทธิกู้เงินขยายกิจการมากขึ้น