7 ประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีภาษีรถยนต์สูงที่สุดในโลก
หลายประเทศมีภาษีรถยนต์สูงเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การควบคุมความแออัด และการสร้างรายได้ ต่อไปนี้คือบางประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีภาษีรถยนต์สูง:
1. สิงคโปร์: สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาษีรถยนต์สูงที่สุดในโลก ซึ่งเรียกว่าระบบ Certificate of Entitlement (COE) ภายใต้ระบบนี้ ผู้ซื้อรถต้องประมูล COE ในจำนวนที่จำกัด ซึ่งสามารถเพิ่มต้นทุนในการเป็นเจ้าของรถได้อย่างมาก
2. นอร์เวย์: นอร์เวย์เก็บภาษีสูงสำหรับรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนสูง อย่างไรก็ตาม ประเทศนี้ยังเสนอสิ่งจูงใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนำไปสู่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
3. เดนมาร์ก: เดนมาร์กมีภาษีรถยนต์สูง ซึ่งรวมถึงภาษีการจดทะเบียนและภาษีการเป็นเจ้าของรายปี ภาษีเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมูลค่าของรถและขนาดเครื่องยนต์ ซึ่งอาจทำให้การเป็นเจ้าของรถมีราคาค่อนข้างแพง
4. ฟินแลนด์: ฟินแลนด์มีโครงสร้างภาษีรถยนต์ที่สูง รวมถึงภาษีการจดทะเบียนและภาษีรถยนต์ประจำปีตามน้ำหนักและการปล่อยมลพิษของรถยนต์ นอกจากนี้ ราคาเชื้อเพลิงในฟินแลนด์ค่อนข้างสูง
5. เนเธอร์แลนด์: เนเธอร์แลนด์เรียกเก็บภาษีรถยนต์สูง ซึ่งรวมถึงภาษีการจดทะเบียนและภาษีถนนตามน้ำหนักรถและการปล่อยมลพิษ ภาษีมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
6. สหราชอาณาจักร: สหราชอาณาจักรมีภาษีรถยนต์สูง รวมถึงภาษีสรรพสามิตยานพาหนะ (VED) ตามการปล่อย CO2 และภาษีโชว์รูมสำหรับรถยนต์ที่มีราคาขายปลีกเกินเกณฑ์ที่กำหนด
7. เยอรมนี: เยอรมนีมีภาษียานยนต์แบบก้าวหน้าตามขนาดเครื่องยนต์ การปล่อยคาร์บอน และประเภทของเชื้อเพลิงที่ใช้ รถยนต์หรูหราและรถยนต์ที่มีการปล่อยมลพิษสูงจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีที่สูงขึ้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราภาษีและโครงสร้างสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงแนะนำให้ปรึกษาหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องหรือหาข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเมื่อพิจารณาภาษีรถยนต์ในประเทศใดประเทศหนึ่ง