กัญจนา ศิลปอาชา ในฐานะประธานมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย

ภายหลังจากที่ เอเชี่ยนพาราเกมครั้งที่ 12 ในปี2023  ณ.ประเทศกัมพูชา ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีการเปิดแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราลิมปิกเกม ต่อโดยทันที  โดยเป็นการแข่งขันกีฬาสำหรับผู้ที่มีความพิการแต่มีความสามารถเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป ซึ่งประเทศไทยก็ได้เข้าร่วมในการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย  โดยที่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยผลักดันสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเหล่านักกีฬาคนพิการคือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หรือที่รู้จักกันในนาม คุณหนูนา  ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะประธานมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย พร้อมด้วย ทางด้าน นายนิกร จำนง กรรมการ และเหรัญญิก มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาด้วยการสนับสนุนเรื่องนี้ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะสนับสนุนทางด้านกีฬา ทางด้านอาชีพ หรือทางด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้พิการไทย  โดยทางด้านกัญจนา ศิลปอาชา ได้กล่าวไว้ว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์ ได้เปลี่ยนมาเป็นอาเซียนพาราเกมส์ เพื่อให้ทุกประเทศในแต่ละภูมิภาคได้ตระหนักถึงศักยภาพของคนพิการ เพราะถ้าทุกคนถ้าได้รับการส่งเสริม เขาก็สามารถทำทุกอย่างได้ และเมื่อคนพิการได้แสดงศักยภาพให้คนทั่วไปทั้งประเทศได้เห็น เขาก็ยังเป็นพลังใจให้กับคนปกติทั่วไป ที่ท้อแท้ในชีวิตด้วย  และที่เล่าให้น้อง ๆ ฟัง จากครั้งนั้น ทำให้คนพิการได้รับสิทธิต่าง ๆ มากมาย และการที่พรรคชาติไทย ดูกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เรามีนโยบายว่า คนพิการทุกคนที่อยากเรียนต้องได้เรียน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การศึกษาของคนพิการได้เรียนร่วมกับคนปกติทั่วไป "พูดได้เลยว่าโลกนี้ มันอยู่ด้วยกันทั้งคนปกติ คนพิการ คุณจะแยกให้คนพิการต้องเรียนต่างหาก คนปกติต้องเรียนต่างหาก มันไม่ได้ เพราะในที่สุดก็ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน คนไหนที่สามารถเรียนร่วมกับคนปกติได้ ต้องให้มีการเรียนร่วม นอกจากพิการมาก ๆ อาจจะต้องแยกเป็นโรงเรียนเฉพาะ" อีกด้วย

เมื่อมาถึงวันนี้ จนถึงวันนี้พวกเรายังรับช่วงต่อในการสนับสนุนนักกีฬาคนพิการและอยากจะบอกน้อง ๆ ทุกคน ให้เชื่อมั่น และพยายามทำดีที่สุด จะได้เป็นเจ้าเหรียญทองหรือไม่เป็นเจ้าเหรียญทอง ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่สิ่งสำคัญ คือ จิตใจที่เป็นนักกีฬาของพวกเรา และการเป็นตัวอย่างให้กับสังคมเห็นว่าสภาพร่างกายและจิตในเราแข็งแกร่งอย่างไร "คนรุ่นใหม่วันนี้ มีแรงต้านทานต่อปัญหาน้อยมาก ผิดหวังอะไรนิดหน่อยก็ฆ่าตัวตายกันแล้ว แต่ถ้าเขาได้มาดูพวกเรา ที่มีร่างกายไม่ครบ 32 เรายังทำชื่อเสียงให้ประเทศได้อย่างนี้เขาต้องมีพลังใจ อย่าไปคิดถึงส่วนที่บกพร่อง สมมติ ว่า ถ้าเราบกพร่องเรื่องขาอวัยวะเรามีตั้ง 32 อย่าง เรายังดีมีอีกตั้ง 31 อย่างที่ยังอยู่ เราจะต้องไปใส่ใจกับส่วนที่พร่องทำไม เราก็ต้องพยายามฝึกให้มันทำได้เท่าที่ทำได้ เรายังมีส่วนดี ๆ ตั้งเยอะ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคน และเชื่อมั่นว่าเพลงชาติไทยจะต้องดังหลาย ๆ ครั้งในประเทศกัมพูชา ในการแข่งขันครั้งนี้" น.ส.กัญจนา กล่าว

สำหรับปีนี้ผลงานนักกีฬาไทยสามารถทำผลงานได้อย่างเต็มที่ และสามารถคว้าชัยชนะเหรียญรางวัลกลับมาสร้างความภูมิใจให้กลับพี่น้องคนไทยเป็นอย่างมาก และในอีก 2 ปีประเทศไทยจะได้รับไม้ต่อในการจัดงานกีฬาครั้งต่อไป โดยในฐานะเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทย พ.ศ.2568 และเจ้าภาพกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ.2568 ที่ จ.นครราชสีมา  ทางด้านกัญจนา ศิลปอาชา ก็จะผลักดันและสนับสนุนนักกีฬาคนพิการไทย ต่อไปอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะอยู่ในสถานะการเมืองแบบไหนก็ตาม ก็ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่เสมอ