คุณรู้หรือไม่ การรับประทานอาหารก่อนเวลาเข้านอน ส่งผลต่อระบบเมตาบอลิซึ่ม (ระบบการเผาผลาญ) และความฝันของคุณ!
ผมว่าเราหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาตั้งแต่ยังเด็กๆ ว่า ไม่ควรรับประทานอาหาร หรือขนมอื่นใด ก่อนเข้านอน เพราะนอกจากปัญหาเรื่องฟันที่ผุได้ง่ายมากแล้ว อาจจะส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารทำงานในเวลานอน และไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกแสบร้อนกลางอกได้
.
แต่มีงานวิจัยจากหลากหลายหน่วยงานในต่างประเทศ ได้ค้นพบว่า การกินอาหารบางชนิด ส่งผลต่อระบบความฝันของเราได้
.
ข้อมูลจาก Livestrong.com นั้นบอกกับเราว่า การรับประทานอาหารก่อนนอน นั้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเพิ่มการทำงานของสมอง นอกจากเมตาบอลิซึมของคุณจะได้ทำ O.T แล้ว สมองของคุณก็จะได้ทำงานล่วงเวลาด้วยเช่นกัน ซึ่งส่งผลให้ความฝันของคุณนั้น สดใสมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
.
การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งโดย Nature Education ซึ่งชี้เฉพาะผลกระทบของความฝัน จากการรับประทานชีสก่อนนอน นั้นพบว่า มีผลกระทบต่อความฝันของมนุษย์ให้มีความฝันที่ดีมากขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากนมนั้นมีกรดอมิโน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองให้รู้สึกสงบมากขึ้น
.
และมากไปกว่านั้นก็คือ ความฝันของคุณจะยิ่งเป็นเรื่องแปลกๆ มากขึ้น เมื่อคุณกินชีสในปริมาณที่มากกว่าปรกติ โดยที่มีการทดสอบโดย British Cheese Board ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบจำนวน 200 คน รับประทานชีสในปริมาณ 20 กรัม ในเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนนอน และให้พวกเขาบันทึกความฝัน และคุณภาพการนอนหลับ
.
ซึ่งจากผลการทดลองนี้ ผู้คนราวๆ 67% นั้นสามารถจดจำความฝันตัวเองได้ และไม่มีใครรายงานเลยว่าตัวเองมีฝันร้าย นักวิจัยยังรายงานอีกว่า ชีสยังส่งผลให้คนส่วนใหญ่รู้สึกเพ้อฝันในตอนกลางคืน โดยที่ชีสในรูปแบบ blue Stilton นั้นทำให้เกิดผลกระทบต่อความเพ้อฝันของผู้เข้ารับการทดสอบมากถึง 80% โดยมันส่งผลให้พวกเขาเห็นสัตว์พูดได้ สัตว์ร้ายอย่างจระเข้เป็นมังสวิรัติ หรือกองทัพลูกแมว ในความฝัน...
.
และยังมีทฤษฎีบางอย่างกล่าวถึงชีสและความฝันว่า ในแบคทีเรียและเชื้อราในชีส โดยเฉพาะบลูชีส นั้นมีศักยภาพสูงในการเพิ่มความสดใสของความฝันของเรา ซึ่งผลกระทบนี้อาจเป็นผลจากสารเคมีบางอย่าง เช่น ทริปตามีน (Tryptamine) ที่จะพบได้ในชีสและอาหารหมักต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อระบบเคมีในสมอง และส่งผลต่อสภาพจิตใจของมนุษย์ด้วย
.
อธิบายอีกนิดคือ Tryptamine นั้นเป็นสารตั้งต้นทางเคมีที่พบได้ทั่วไปสำหรับสารเซโรโทนิน (Serotonin) และสารอัลคาลอยด์ (Alkaloid) อื่นๆ ทั่วไป ซึ่งมีฤทธิ์หลอนประสาท เช่น เห็ดเมา ซึ่งสาร Tryptamine ในชีสนั้น อยู่ในปริมาณที่ต่ำมากๆ จนไม่มีผลกระทบที่รุนแรงอะไรขนาดนั้น
.
ในทางกลับกัน Tryptamine เป็นโมโนเอมีน (Monoamine) ที่ทำงานโดยปล่อยสารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น อะดรีนาลีน (Adrenaline) นอร์อะดรีนาลีน (Noradrenaline) และโดปามีน (Dopamine) เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมีอีกทฤษฎีหนึ่งว่ากันว่า ปริมาณ Tryptamine ในชีสนั้น จะส่งผลต่อการหลั่ง Noradrenaline ในบริเวณของสมองที่เรียกว่า โลคัส โคเอรูเลียส (Locus Coeruleus) ซึ่งเป็นบริเวณเชื่อมต่อกับสมองส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับ การตอบสนองทางอารมณ์และ ความเครียด
.
นอกจากนี้ ยังเคยมีความเชื่อที่ว่า ถ้ารับประทานอาหารเผ็ดๆ จะทำให้ฝันร้าย ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการทดลองโดย มหาวิทยาลัย Tasmania ในออสเตรเลีย โดยรายงานของ New York Times ได้บอกเล่าว่า จากการทดลองนี้ ให้ผู้ชายกลุ่มหนึ่งรับประทานอาหารเผ็ดในเวลาไม่นานก่อนเข้านอน สลับกับการกินอาหารจืดๆ ธรรมดาในคืนต่อมาหลังจากทานอาหารเผ็ด พบว่า
.
ผู้เข้าร่วมการทดลองนั้นใช้เวลานอนหลับนานขึ้น และหลับลึกมากขึ้นโดยไม่รู้สึกฝันอะไรใดๆ ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่า แม้อาหารเผ็ดจะรบกวนการนอนของคุณ (ในกรณีที่เกิดกรดไหลย้อน) แต่ความเผ็ดนั้น ไม่ได้ส่งผลให้ฝันร้ายแต่อย่างใด
.
แม้ว่าการกินจะส่งผลต่อความฝัน หรือไม่ได้ทำให้เกิดฝันร้าย แต่การกินอาหารที่กระชั้นชิดก่อนเวลานอนมากเกินไป ก็ยังคงส่งผลให้เกิดอาการเสียดท้อง หรือกรดไหลย้อนได้ ซึ่งมีข้อมูลจากสำนักข้อมูลทางเดินอาหารแห่งชาติสหรัฐฯ (National Digestive Diseases Information Clearinghouse หรือ NDDIC) นั้นระบุว่า การรับประทานอาหารก่อนเข้านอน อาจทำให้อาการอาเจียนเป็นวัฏจักรซ้ำๆ ซึ่งส่วนมากแล้วผู้คนเหล่านั้นต้องทุกข์ทนทรมาน จากอาการคลื่นไส้และอาเจียนระหว่างนอน
.
ดังนั้น การกินอะไรที่พอดีๆ กับชีวิต ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่นะครับ เพียงแต่บทความนี้ จะเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างความฝัน กับอาหารที่ได้รับประทานเข้าไป ในเวลาก่อนนอน ก็เท่านั้นเอง
อ้างอิงจาก: https://www.sportsrec.com/8061896/does-eating-before-bed-cause-dreams
https://www.disabled-world.com/health/neurology/sleepdisorders/vivid-dreams.php
https://www.nature.com/scitable/blog/mind-read/sweet_dreams_are_made_of/
https://www.time4sleep.co.uk/blog/does-eating-before-bed-give-you-nightmares
https://restonic.com/blog/eating-bed-nightmares-2346