(นิยาย) It's Just Luv หัวใจนี้มีเพียงเรา ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 พบหน้ากันอีกครั้ง
“เอริส!” ลูคัสโผเข้ากอดน้องสาวด้วยความคิดถึงแทบจะยกเธอจนตัวลอย
“โอ้ย พี่คะเบาๆ”
“โทษทีๆ” เขารีบปล่อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีอย่างชัดเจนที่ได้พบกับน้องสาวตัวน้อยอีกครั้ง “เธอจะมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนเหรอ”
“คิดว่าจนจบปริญญาแล้วอาจจะหางานทำที่ลอนดอนนี่เลยก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นมาเป็นเลขาของพี่มั้ยล่ะ” เขาเสนอกึ่งเล่นกึ่งจริง
“ไว้จะเก็บไปพิจารณานะคะ”
“จริงสิ ต้องรีบบอกพี่คาร์ลอสก่อนว่าเอริสกลับมาก่อนกำหนด” ว่าพลางหยิบสมาร์ทโฟนออกมากดแต่ก็ถูกเด็กสาวยื่นมือมาจับรั้งไว้
“ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ อย่าไปกวนเวลาแห่งความสุขของพี่เขาเลย” น้ำเสียงและสีหน้าติดจะตัดพ้อน้อยๆ ทำเอาผู้เป็นพี่ลอบยิ้มอย่างขบขัน เพราะตั้งแต่เด็กๆ เอริสติดคาร์ลอสมากกว่าใคร และชายหนุ่มก็รักและเอ็นดูเจ้าหล่อนยิ่งกว่าเขาซึ่งเป็นน้องแท้ๆ
“พี่คาร์ลอสอยากจะเจอเธอมากนะ รู้รึเปล่า ถ้าบอกว่าเธอกลับมาแล้วพี่เขาจะต้องดีใจรีบตรงกลับมาบ้านแน่นอน”
“ถ้าพี่เขาอยากเจอเอริสจริง ทำไมถึงไม่ไปหากันบ้างเลยล่ะคะ” เธอทำแก้มอูมราวกับเด็กน้อย “โทรหาก็แทบจะนับครั้งได้ ไม่เหมือนพี่ลูคัส”
“ช่วงที่ผ่านมางานค่อนข้างยุ่งและมีปัญหามากมาย แล้วพี่ลูคัสเป็นรองประธานเป็นมือขวาของพ่องานจึงหนักกว่าพี่มาก อันนี้พี่ไม่ได้แก้ตัวแทนนะ” เขารีบพูดดักคอเพราะรู้ดีว่าน้องสาวตัวน้อยคงจะพยายามหาเหตุผลมาหักล้างให้ได้
“จะเชื่อก็แล้วกันนะคะ” เธอยืนเท้าสะเอวมองเขางอนๆ ด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง “ปกติพี่เขากลับดึกแบบนี้ตลอดเหรอคะ”
“ก็มีบ้าง” ลูคัสอึกอัก “วันนี้เห็นว่านัดเพื่อนไว้” เขาโกหกสดๆ ร้อนๆ
“เพื่อนสาวสินะคะ” เธอว่าอย่างรู้ทัน
ลูคัสคิดว่าน้องสาวตัวน้อยใสซื่อน่าทะนุถนอมคนเดิมของเขาได้มลายหายไปเรียบร้อย ตรงหน้าคือเด็กสาวอายุ 17 ย่าง 18 ซึ่งดูแก่นเซี้ยวและรับมือยากพอตัว
“ว่าแต่เธอไม่ง่วงเหรอเวลาที่นี่ 4 ทุ่ม ที่ไทยก็น่าจะราวๆ ตี 3 ได้”
“กำลังอยู่ในช่วงปรับตัวค่ะ อีกอย่างหนูก็นอนไปตอนหัวค่ำเรียบร้อย”
“แล้วนี่กำลังจะทำอะไรต่อ มาเล่นเกมส์ห้องพี่มั้ย” ลูคัสเสนอ เมื่อก่อนสามคนพี่น้องมักจะนั่งเล่นเกมส์ด้วยกันบ่อยๆ
“ไม่ดีกว่าค่ะ ว่าจะไปอ่านหนังสือซะหน่อย พี่เองก็ทำงานมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนเถอะค่ะ” เธอบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง “ต่อจากนี้เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกยาว ฝากตัวอีกครั้งนะคะพี่ลูคัส”
“อือ ฝากตัวเช่นกันน้องสาวที่น่ารักของพี่” จบคำพูดพร้อมกับยื่นมือไปขยี้หัวผู้เป็นน้องอย่างเอ็นดู
ลูคัส แอนเดอร์สัน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอายุ 27 ปี เจ้าของเรือนผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนระต้นคอ นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล จมูกโด่งเป็นสัน รูปร่างสูงโปร่งราวๆ 180 เซนติเมตร และเขายังเป็นนายแบบให้กับนิตยสารแฟชั่นผู้ชายในบางครั้งเมื่อยากหาอะไรทำฆ่าเวลา
เมื่อชายหนุ่มส่งเด็กสาวเข้าห้องเรียบร้อย เขาก็รีบหยิบมือถือของตนออกมากดปุ่มสองถึงสามครั้งแล้วก็ต้องหยุดชะงัก
“ไม่ดีกว่า” เขาแย้มรอยยิ้มพรายก่อนจะเก็บมือถือลง “เดี๋ยวก็หมดสนุกกันพอดี”
เวลา 23.45 PM.
เสียงข้อความจากมือถือทำให้เอริสละสายตาจากหนังสือในมือ ลูคัสส่งข้อความมาบอกให้เธอไปหาเขาที่ห้อง
“เวลานี้เนี่ยนะ” เด็กสาวเลิกคิ้วสูง แม้จะสงสัยแต่เธอก็ทำตามโดยดี เพราะตอนนี้เธออยู่ในชุดเชิ้ตนอนตัวยาวเสมอเข่าค่อนข้างบางจึงหยิบเสื้อคลุมยาวมาสวมทับก่อนจะเปิดประตูห้องออกไปหาผู้เป็นพี่
“นั่นใคร” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เด็กสาวชะงักหยุด “ทำไมออกมาจากห้องของน้องสาวฉัน”
เอริสหันกลับไปมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงดุดัน ชายหนุ่มนิ่งงันมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความงุนงงระคนตกใจ
“เอริส...เหรอ” แววตาสีฟ้าเขียวไล่มองพิจารณาร่างบาง นี่คือน้องสาวตัวน้อยที่เคยสูงเพียงแค่เอวของเขาอย่างนั้นเหรอ เขาจำได้ดีว่าเอริสเป็นเด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดูเพียงไหน ทว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้เป็นเด็กสาวแรกรุ่นที่หน้าตาสวยงามมากคนหนึ่ง เธอมีผิวพรรณเปล่งปลั่งและรูปร่างสมส่วนจนเขาเผลอไผลมองอย่างไม่วางตา
“นี่น้องสาวนะคะไม่ใช่สัตว์ประหลาด จ้องอย่างกับไม่เคยเห็นกันมาก่อน” ได้ทีแหวใส่เรียกสติเพราะยังคงเคืองชายหนุ่มอยู่เล็กๆ “เพิ่งจะกลับมาเหรอคะ”
“หือ ใช่” เขาอึกอัก “ไหนบอกว่าจะกลับมาพรุ่งนี้ช่วงค่ำไม่ใช่เหรอ”
“พอดีคุณแม่ติดธุระมาส่งไม่ได้ เลยต้องเลื่อนไฟท์บินค่ะ”
“แล้วนี่กำลังจะไปไหน”
“พี่ลูคัสเรียกให้ไปหาค่ะ” เธอบอกสั้นๆ มือถือสั่นน้อยๆ จนต้องหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง
...พี่ง่วงแล้ว โทษทีนะ...
อะไรของพี่เค้ากันเนี่ย
“ดูเหมือนว่าพี่เขาจะนอนแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” จบคำพูด เด็กสาวก็เดินไปยังประตูห้องของตน ยังไม่ทันที่มือเรียวจะถึงลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็คว้าแขนเธอไว้ก่อน
“ว่างคุยกันหน่อยมั้ย” เขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจถึงได้ฉุดรั้งอีกฝ่ายไว้ สาวน้อยช้อนหน้ามองชายหนุ่มอย่างครุ่นคิดก่อนจะผละกลับมามองมือที่ฉวยโอกาสกับแขนของตน “โทษที” เขารีบปล่อยมือ
“พี่ช่วยไปจัดการกับกลิ่นเหล้าที่ตัวก่อนนะคะ เสร็จแล้วค่อยส่งข้อความมาบอกฉันก็แล้วกัน” จบคำพูด เธอก็เปิดประตูเข้าห้องไปในทันที
เด็กสาวเดินตรงไปยังเตียงใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง มือเรียวทาบอกเพื่อสัมผัสหัวใจซึ่งกำลังเต้นระรัว เธอตื่นตระหนกกับการแสดงออกของเขา ราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
“คงเพราะไม่ได้เจอกันมานานสินะ” นั่นคือความคิดที่สมเหตุสมผลที่สุด
คาร์ลอส แอนดอร์สัน ชายหนุ่มนักธุรกิจอายุ 30 ปี เจ้าของผมสั้นสีน้ำตาลเข้มแซกกลาง ดวงตาสีฟ้าเขียว ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา รูปร่างสูงหุ่นนักกีฬา และกล้ามเนื้อที่เข้ารูปอย่างคนดูแลสุขภาพและร่างกายเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่มีครบทุกอย่างทั้งหน้าตาฐานะ และเป็นคาสโนว่าที่สาวๆ ต่างหลงไหลได้ปลื้มพยายามจะหอบพาตนเองให้ไปอยู่ในสายตาของเขา
ไม่ใช่เพียงแค่เด็กสาวที่ตกประหม่าในการเจอกันอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ต่างกัน ระหว่างที่เขานอนแช่ในอ่างน้ำอุ่นเต็มไปด้วยฟองสบู่มากมาย ใบหน้าของสาวน้อยก็ผุดขึ้นในห้วงความคิดของตน คงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อ่อนๆ สินะทำให้เขามองเธอแปลกๆ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน
เวลาล่วงเลยเกือบหนึ่งชั่วโมง เอริสแทบจะงีบหลับหลายครั้ง ทว่าตอนี้กลับตาสว่างจนไม่อาจข่มได้อีก ความจริงแล้วเธอควรจะบอกเขาว่าค่อยคุยกันในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ใช่...ควรจะเป็นแบบนั้นมากกว่า
เด็กสาวเปิดไลน์แล้วเริ่มพิมพ์ข้อความบอกชายหนุ่มพอดีกับที่เขาส่งข้อความสวนกลับมาพอดี
เสร็จเรียบร้อย ประตูไม่ได้ล็อคนะ
ดวงตาคู่สวยมองข้อความอย่างชั่งใจก่อนจะลบสิ่งที่ตนเองพิมพ์ทิ้ง เธอจัดแจงหยิบเสื้อคลุมตัวเดิมมาสวมทับแล้วรีบตรงไปยังห้องนอนของชายหนุ่มซึ่งติดกับห้องของเธอ
ก๊อกๆๆ
เอริสเปิดประตูเข้าไปพบว่าชายหนุ่มอยู่ในชุดนอนปาจามาสีขาวนั่งพิงพนักเตียง
“มานี่สิ” เขากวักมือเรียก เด็กสาวลังเลแต่ก็ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปหาโดยดี “ตรงนี้” เขาตบตรงพื้นที่วางเปล่าติดกับตนเอง เด็กสาวขึ้นไปนั่งลงข้างๆ เขา สีหน้าของเธอราบเรียบจนชายหนุ่มค่อนข้างแปลกใจ “เป็นอะไรน่ะเรา”
“ทำไมไม่ไปหากันเลยคะ” เธอช้อนดวงหน้ามองค้อนน้อยๆ “ช่วงที่ฉันไปอยู่ไทย พี่ไม่เคยไปเยี่ยมกันสักครั้งเลย”
“ขอโทษนะ พี่ค่อนข้างงานยุ่ง แล้วช่วงนั้นเกิดปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจนิดหน่อยเลยต้องใช้เวลา แต่เจ้าลูคัสก็ไปหาเธอนี่”
“มันคนละคนกันมั้ยคะ” เธอเม้มปากแน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ “พี่รำคาญฉัน เบื่อฉันแล้วเหรอคะ” ดวงตาสีฟ้าไหววูบรื้นด้วยหยาดน้ำตา แม้จะรู้ดีว่าไม่ควรงอแงเพราะเพิ่งจะได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง แต่ในบรรดาพี่ชายทั้งสองเขาคือคนที่เธอสนิทมากกว่าใคร
มือใหญ่ดึงเด็กสาวเข้าสู่อ้อมแขนแล้วกอดเธอแน่น คนตัวเล็กไม่ได้ขัดขืนใดๆ พยายามกลั้นสะอื้นเพื่อไม่ให้หยดน้ำใสสัมผัสกับเสื้อของเขา
“ทำไมโตมาเป็นเด็กขี้แยแบบนี้ละน้องสาวของพี่”
“เพราะใครล่ะ” เธอว่าเสียงอู้อี้ “คำขอโทษละคะ” ละจากแผ่นอกแกร่งของแล้วจ้องมองราวกับเด็กน้อย
“ขอโทษครับ” ว่าแกมสำนึกผิดพลางขยี้หัวอีกฝ่ายเบาๆ “ยกโทษให้ฉันนะ”
“ความจริงใจติดลบ ขอคิดดูก่อนนะคะ” เด็กสาวทำแก้มอูม เชิดสายตาอย่างคนเหนือกว่าเล็กๆ
“แล้วพี่ต้องทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ” คำถามของเขาทำให้เธอครุ่นคิด เด็กสาวโคลงหัวไปมาแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่พอใจในความคิดของตน
“ไว้จะบอกก็แล้วกันค่ะ” สาวน้อยยิ้มซื่อ เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วจนเขาแทบจะตามไม่ทัน เธอยังคงเป็นน้องสาวตัวน้อยแสนน่ารักน่าเอ็นดูของเขาคนเดิมเพิ่มเติมคือความขี้งอนจนน่าหมั่นเขี้ยว
“พรุ่งนี้อยากไปไหนมั้ย เดี๋ยวพี่พาไป”
“โนวค่ะ ทำงานไปค่ะอย่าอู้”
“งั้นเสาร์นี้พี่พาเที่ยว โอเคมั้ย” ชายหนุ่มเสนอ เด็กสาวทำหน้าอย่างคนใช้ความคิดหนัก “ทำไม ไม่สะดวกเหรอ”
“ก็ได้ค่ะ”
“คิดมานะว่าจะไปไหน พี่พาไปได้ทุกที่”
“ชวนพี่ลูคัสไปด้วยนะคะ”
“นั่นสินะ...เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันสามคนมานานแล้ว เธอชวนเจ้าหมอนั่นก็แล้วกัน”
“รับทราบค่ะ” เด็กสาวฉีกยิ้มกว้าง ชายหนุ่มบีบจมูกเธอเบาๆ คำว่าน่ารักเพียงคำเดียวคงไม่พอสำหรับคนตรงหน้า
“คืนนี้นอนห้องพี่มั้ย” จู่ๆ เขาก็หลุดปากถามออกมาอย่างไม่คิดอะไร แต่ทำให้เด็กสาวชะงักเล็กน้อยและยิ้มค้างแข็งพิกล
“พอดีคืนนี้ว่าจะจัดของอีกนิดหน่อยให้เสร็จค่ะ ไว้โอกาสหน้าดีกว่าค่ะ” เธอดันตัวถอยห่างจากเขา “ถ้าอย่างนั้นฉันกลับห้องก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่คาร์ลอส”
ชายหนุ่มมองเด็กสาวซึ่งเดินออกจากห้องไปอย่างงุนงงว่าตนเองทำอะไรผิดหรือเปล่า เขามองสองมือของตน เขารู้สึกว่าสัมผัสอันอบอุ่นอ่อนนุ่มของผิวกายเธอยังคงหลงเหลืออยู่
“คิดฟุ้งซ่านอะไรของฉันเนี่ย...ขยะแขยงตัวเองชะมัด”