มนตราวายสะ ตอนที่ 3 ผู้หญิงที่หามานาน (3)
ดาวโหลด Ebook คลิ๊กที่ภาพด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
+++++++++
“อะไรวะ” ทีปกรณ์ยังคงสงสัย เพราะที่ผ่านมา เพื่อนคนนี้ไม่คิดจะสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ แต่ถ้าอีกฝ่ายเสนอ มันก็สนอง ไม่มีสานต่อ แต่เท่าที่รู้เหมือนมันจะมีคู่หมั้นอยู่แล้วด้วยมั้ง ตลอดมาคิดว่าเพราะสาเหตุนี้ มันเลยไม่จริงจังกับผู้หญิงคนไหน แต่จู่ ๆ มาบอกว่าสนใจคนนี้ได้ยังไง
“ไม่มีแฟน” เมื่อเอ่ยถึงคำนี้ สายตาของสุบรรณยิ่งเป็นประกาย ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเจือความกังวลอยู่เล็กน้อย
“เธอคนนั้นไม่มีแฟน...” ทีปกรณ์ขมวดคิ้ว ก่อนจะหันมามองเสี้ยวหน้าคนขับขณะที่มือก็ยังลูบเจ้าแมวน้อยบนตัก “พิเศษตรงไหนวะ คนไม่มีแฟนเยอะแยะ นายก็หาข้ออ้างไปเรื่อย”
“เอาเป็นว่าถูกใจละกัน” สุบรรณตัดบท ทีปกรณ์ส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วเลิกสนใจเพื่อน หันมาสนใจเจ้าตัวเล็กบนตักของตน ที่คิดว่าคงหนีไม่พ้นเขาต้องได้สัตว์เลี้ยงเพิ่มอีกตัว จึงไม่เห็นว่าตอนรถติดไฟแดง มีอีกาบินมาเกาะที่ป้ายใกล้ ๆ นั้น สุบรรณมีสีหน้าบิดเบี้ยวออกอาการไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับสบถ “ไอ้พวกสัตว์ปีกชั้นต่ำ”
เย็นวันต่อมา สุบรรณก็กลับมาที่คลินิกพร้อมกับเจ้าแมวที่ถูกใส่ไว้ในกรงหิ้ว และโดนทีปกรณ์กำชับว่า ถ้าไม่ชอบก็พยายามไม่ไปแตะต้องมัน ให้คุณหมอเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง หรือไม่ก็ให้พาแม่บ้านเขาไปด้วย แต่ด้วยความอยากเป็นส่วนตัวเขาจึงเลือกที่จะมาคนเดียว และปล่อยให้หน้าที่สัมผัสแมว เป็นของคุณหมอไป
และพอมาถึงเขาก็โดนนพรัตน์ทักขึ้นอย่างแปลกใจ “อย่าบอกนะว่าจริง ๆ แล้ว แมวตัวนี้คุณรับเลี้ยงน่ะ”
“เปล่าครับ แค่เจ้าของมันไม่ว่าง ผมเลยต้องพามา” แม้ปากจะพูด แต่สายตาก็สอดส่ายหาคนที่เขาต้องการมาเจอจริง ๆ
นพรัตน์กดยิ้มแล้วยื่นมือไปรับกรงของแมวมาถือเอง เดินนำเข้าไปในห้องตรวจ “ที่มาเพราะมีจุดประสงค์อื่นใช่ไหมครับ ถ้าไม่บอกผมช่วยไม่ได้นะ”
เมื่อโดนอีกฝ่ายพูดดักขนาดนี้ จะไม่ยอมรับก็คงไม่ได้ “ผมสนใจผู้ช่วยคุณที่ชื่อนก ยังไม่มีแฟนใช่ไหมครับ”
“เท่าที่รู้ เหมือนจะยังนะครับ”
“งั้นคุณช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ไว้จะมาเป็นลูกค้าประจำ” สุบรรณยื่นข้อเสนอ ที่ทำเอาเจ้าของคลินิกหนุ่มต้องเลิกคิ้วเงยหน้าขึ้นมามองคนที่บอกว่าจะเป็นลูกค้าประจำ ทั้งที่ไม่ชอบสัตว์ ก่อนจะเตือน “อย่าบอกนะครับ ว่าจะเลี้ยงสัตว์เพื่อผู้หญิงน่ะ ถ้าใช้ ผมไม่แนะนำนะ เพราะการเลี้ยงสัตว์ต้องเลี้ยงด้วยใจ ไม่ใช่เลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ไม่อย่างนั้นพวกมันคงน่าสงสารแย่”
“คุณคงไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว บ้านผมเลี้ยงสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งนะครับ” สุบรรณเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าชวนสงสัยของอีกฝ่าย “นกอินทรีครับ”
“งั้นที่ว่าคุณเกลียดสัตว์ก็ไม่จริงน่ะสิครับเนี่ย” นพรัตน์บอกเสียงกลั้วหัวเราะระคนรู้สึกผิดเล็กน้อย ที่เข้าใจอีกฝ่ายผิดเพราะคำพูดที่ได้ยินจากคนอื่น
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ นอกจากนกอินทรีแล้ว ผมก็ไม่ชอบสัตว์ชนิดไหนเลย” โดยเฉพาะพวกอีกา สุบรรณต่อประโยคนี้ในใจด้วยใบหน้าที่ถมึงทึงขึ้นเล็กน้อย
“คุณหมอคะ ลูกค้าที่นัดฉีดวัคซีนแมวมาแล้วค่ะ” พิกุลแจ้งคนเป็นหมอแล้วปรายตามองสุบรรณ ก่อนจะก้มหน้ายิ้มด้วยท่าทีเขินอาย
“งั้นเดี๋ยวไปเรียกนกมาดูแลเคสนี้ต่อด้วยนะ” นพรัตน์ลุกขึ้นพลางหันไปยิ้มให้สุบรรณเล็กน้อย ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยิ้มรับพร้อมกับผงกศีรษะให้เป็นการขอบคุณ
“เดี๋ยวกุลดูต่อให้เองก็ได้ค่ะ” พิกุลอาสาและทำท่าจะเข้าไปแทนที่คนเป็นหมอ แต่ก็โดนรั้งเอาไว้ “เธอเข้าไปช่วยหมอดีกว่า”
“ค่ะ” พิกุลรับคำแล้วเดินกลับออกไปเรียกสกุณาอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะเธอเล็งลูกค้าคนนี้เอาแล้วแท้ ๆ กลับโดนขัดเสียอย่างนั้น
“ขออนุญาตนะคะ” สกุณาที่โดนเรียกตัวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอ่ยทักขึ้น นั่นทำให้สุบรรณหันมามองแล้วรีบขยับตัวหลีกทางให้หญิงสาว “เชิญครับ” พร้อมกับแอบสังเกตอีกฝ่ายก่อนจะหรี่ตามองนิ้วนางข้างซ้ายที่มีรอยคล้าย ๆ กับรอยสัก ที่สำคัญมันได้กลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจ และต้องรู้ให้ได้ว่าเธอได้รอยนี้มาจากไหน “คุณแต่งงานแล้วเหรอครับ”
และคำถามนั้นทำให้สกุณาที่กำลังใส่ถุงมือถึงกับชะงัก สุบรรณจึงรีบอธิบายต่อไปว่า “พอดีเห็นคุณใส่แหวนที่นิ้วนางน่ะครับ”
“อ๋อ นี่เหรอคะ” สกุณายกมือซ้ายขึ้นมาโชว์พลางอมยิ้ม เพราะเขาไม่ใช่คนแรกที่ทักเรื่องนี้ “แค่รอยเหมือนแหวนเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่แหวน”
“งั้นคุณก็ยังไม่ได้แต่งงานสินะครับ”
“ยังค่ะ” สกุณาบอกเสียงกลั้วหัวเราะ ออกอาการเขินเล็กน้อย
“ขอโทษทีครับ ผมก็นึกว่าแหวนเสียอีก” สุบรรณผงกศีรษะแสร้งทำเหมือนรู้สึกผิด เมื่อเห็นอย่างนั้นสกุณาเลยเอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะมีคนทักบ่อย ๆ เหมือนใช่ไหมคะ มีมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ”
“ตั้งแต่เกิดเลยเหรอครับ” สุบรรณถามอย่างอยากรู้
“ไม่ค่ะ เหมือนเพิ่งสังเกตเห็นตอนอยู่ป.หกหรือไม่ก็ม.หนึ่งนี่แหละค่ะ ทุกคนชอบแซวว่ามีคนมาจองเอาไว้” ถ้าเป็นนิ้วอื่นเธอคงไม่โดนขนาดนี้ แต่นี่มันดันเป็นรอยตรงนิ้วนางข้างซ้าย เธอเลยโดนแซวตั้งแต่พ่อแม่ยันเพื่อน ๆ
“ผมลบให้ไหมครับ เดี๋ยวผมเล่นมายากลให้ดู หายในพริบตาเลย” สุบรรณว่าพลางแบมือออกไปข้างหน้า และหวังอย่างยิ่งว่าหญิงสาวจะวางมือที่มีรอยและกลิ่นอายน่าเกลียดนั้นลงบนมือของเขา
ทว่า...
“ไม่เป็นไรค่ะ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เอาไว้แบบนี้แหละ มันก็เก๋ดีออก อุ่นใจดีด้วยค่ะ” สกุณาดึงมือตัวเองไปกุม ก่อนจะรีบใส่ถุงมือพลางยิ้มแหย ๆ นั่นทำให้สุบรรณรู้สึกเสียหน้านิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย รู้สึกแค่ว่าตัวเองอาจจะรุกหญิงสาวเร็วไป “โอเคครับ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” สกุณาล้างแผลเสร็จก็เอาแมวน้อยใส่กรงให้กับชายหนุ่มทันที อย่างที่คุณหมอได้กำชับไว้ว่า เขาไม่ใช่เจ้าของแมวแต่มาแทนเพื่อนเลยไม่สะดวกจะจับมันเท่าไหร่
“ขอบคุณมากครับ”
“ยินดีค่ะ” สกุณายิ้มรับเล็กน้อยแล้วเดินไปเปิดประตูให้กับลูกค้าหนุ่มกับเจ้าแมวน้อยในกรงได้เดินออกไปก่อน
“แล้วเจอกันนะครับ”
สุบรรณถอนหายใจเมื่อคิดถึงอดีต เพราะหลังจากเขาพูดคำนั้นออกไป เขาก็ไปหาหญิงสาวเกือบจะทุกวัน แม้จะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เหมือนทุกอย่างยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย ทั้งที่มีตัวช่วยอย่างนพรัตน์
เพราะอะไรกันนะ
เพราะรอยนั่นน่ะเหรอ เขามั่นใจว่ากลิ่นสาบน่ารังเกียจที่ออกมาจากรอยบนนิ้วของสกุณา คือกลิ่นของพวกชั้นต่ำอย่างอีกาแน่นอน
มันควบคุมเธอได้อย่างนั้นเหรอ เขาคงวางใจเรื่องนี้ไม่ได้อีกต่อแล้ว
จะต้องกำจัดรอยนั้นแล้วเอาสกุณามาเป็นของเขาให้ได้
++++++++
อ่านล่วงหน้าที่เว็บอื่น ๆ
ธัญวลัย : https://bit.ly/3UbaXxJ
Readawrite : https://bit.ly/3Vcevkz
เด็กดี : https://bit.ly/3gBJtUi