"ผีอำ" คืออะไร? วิทยาศาสตร์อธิบายว่า : การนอนหลับที่เป็นอัมพาต

เที่ยงคืน นอนหลับอยู่บนเตียง คุณก็ตื่นขึ้นมา เห็นเงาน่ากลัวในห้อง อยากตะโกน แต่อ้าปากไม่ได้เลย ... นี่แหละที่เรียกว่าผีอำ ตามสถิติ 40% ของคน จะเจอปรากฏการณ์เลวร้ายแบบนี้ และถือว่าโชคร้ายมาก ดังนั้น ผีอำขนาดนั้นจริงหรือ?

วิทยาศาสตร์อธิบายผีอำ
ความจริงแล้วประสบการณ์แปลกประหลาดนี้เรียกว่า "อาการอัมพาตจากการนอนหลับ" นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก กล่าวว่า พวกเขาได้ค้นพบสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังประสบการณ์ที่น่าขนลุกนี้แล้ว: ทั้งหมดเชื่อมโยงกับความสับสนในบริเวณหนึ่งของสมอง

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าอาการอัมพาตขณะหลับเกิดขึ้นเมื่อคนๆ หนึ่งตื่นขึ้นในระหว่างที่ดวงตาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ความฝันมักเกิดขึ้นระหว่างการกลอกตาอย่างรวดเร็ว ช่วง REM ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีถึง 15 นาที และทำซ้ำทุกๆ 90 นาที ในการนอนหลับเป็นอัมพาต แม้ว่าบุคคลนั้นจะตื่นอยู่ แต่กล้ามเนื้อเกือบจะเป็นอัมพาต นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่านี่อาจเป็นกลไกทางวิวัฒนาการที่ป้องกันไม่ให้ผู้คนเดินในขณะหลับ

คนส่วนน้อยที่เป็นอัมพาตจากการนอนหลับรายงานว่า เห็นผีในห้องและกดหน้าอก นักวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากความผิดปกติในบริเวณสมองส่วนเดียว ส่วนต่างๆ ของสมองอาจมีภาพหรือแม่แบบของร่างกายโดยธรรมชาติ นักวิจัยชี้ให้เห็นว่าภาพที่แท้จริงนี้ปรากฏในส่วนข้างขม่อมซึ่งเป็นส่วนกลางบนของสมอง เมื่อมีคนตื่นขึ้นมาในช่วง REM ส่วนข้างขม่อมจะตรวจสอบเซลล์ประสาทในสมองที่สั่งให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหว แต่แขนขาเป็นอัมพาตชั่วคราวซึ่งนำไปสู่ความสับสนในสมองและประสาทหลอน

คนส่วนใหญ่จะตกใจเมื่อเกิดปรากฏการณ์นี้ และรู้สึกกลัวหลังจากตื่นนอน เพราะคิดว่าเกิดจากการถูกอะไรไม่รู้มากดทับไว้ จึงมีคำกล่าวว่า "ผีอำ"

ทำอย่างไรเมื่อผีอำ
หากคุณมีอาการผีอำ คุณสามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็วโดย: เริ่มต้นด้วยการกลอกลูกตาอย่างรวดเร็วเพื่อให้ลูกตาเคลื่อนที่เป็นวงกลม เลื่อนขึ้น ลง ซ้ายและขวา จากนั้นกระพริบตา เกร็งกล้ามเนื้อรอบปาก ขยับกรามและลิ้น และเมื่อกล้ามเนื้อเริ่มตึง ให้ขยับคอ ไหล่ มือ นิ้ว ขา ข้อเท้าและนิ้วเท้า และสุดท้าย ซิทอัพและบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วน

วิธีหลีกเลี่ยงอาการผีอำ
1. พยายามอย่ากินก่อนนอน
หากกินก่อนนอนจะทำให้กระเพาะและลำไส้ไม่ได้พัก ซึ่งจะเพิ่มภาระและทำให้ส่วนอื่นๆ ของร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ

2. อย่าใช้สมองมากเกินไปก่อนเข้านอน
ก่อนนอนอย่าคิดมาก ให้สมองได้พัก จะได้หลับง่าย มิฉะนั้นสมองจะอยู่ในสภาวะตื่นเต้นและเป็นโรคนอนไม่หลับได้ง่ายมาก

3. อย่าอารมณ์แปรปรวนก่อนเข้านอน
ตื่นเต้นและเศร้าเกินไปไม่ดีต่อการนอนหลับ นี่คือ สาเหตุที่เด็กไม่สามารถนอนหลับได้ทันทีหลังจากถูกตีและดุ

4. หลีกเลี่ยงการพูดคุยก่อนนอน
การพูดคุยจะทำให้อยู่ในสภาวะตื่นเต้นทำให้หลับยาก

5. การดื่มชาและกาแฟเข้มข้นก่อนเข้านอนเป็นความคิดที่ไม่ดี
ชาและกาแฟรสเข้มเป็นเครื่องดื่มที่ระคายเคือง ซึ่งสามารถกระตุ้นประสาทและทำให้ตื่นเต้นและหลับยาก

6. อย่านอนนานเกินไป
แพทย์แผนจีนเชื่อว่า "การโกหกเป็นเวลานานทำร้ายจิตใจ" และควรเข้าใจเวลานอนด้วย ไม่ใช่ว่ายิ่งนอนมากยิ่งดี โดยทั่วไป 6-8 ชั่วโมงเหมาะสม การนอนมากเกินไปจะทำให้วิงเวียนศีรษะ ความอ่อนแอ ความกระสับกระส่าย และเบื่ออาหาร