ปราบหัวใจยัยตัวแสบ/บทที่ 6
....บทที่ 6
((ธาวิน))
เช้าของวันที่รฐาเตรียมการให้ผมมาที่บ้านของคุณดิเรกตามกำหนดคุณดิเรกเป็นเพื่อนของพ่อบุญธรรมที่พ่อมักจะส่งของมาให้เสมอ หลายปีก่อนพ่อจะเดินทางมาด้วยตนเองทุกปีแต่พักหลังด้วยงานที่มากทำให้ไม่มีเวลา
ครั้งนี้พ่อบุญธรรมต้องการให้ผมเอาไปให้ด้วยตนเองโดยไม่มีเหตุผล เท่าที่รู้ข้อมูลทั้งสองเป็นเพื่อนกันโดยเรียนที่เดียวกันในสมัยเรียน และคุณดิเรกเคยช่วยชีวิตพ่อบุญธรรมเอาไว้
พ่อบุญธรรมของผมไม่เคยดีกับใคร ยกเว้นคนที่ได้ชื่อว่ามีบุญคุณต่อกันเท่านั้น และนั่นทำให้คุณดิเรกเป็นคนเดียวที่ได้รับของจากพ่อ รองจากแม่ที่ได้เป็นเมียที่พ่อบุญธรรมเอาใจใส่
“เรามาพบคุณดิเรก.....” โยธกาแจ้งต่อแม่บ้านคนหนึ่งที่อายุราวสี่สิบปีได้
“คุณดิเรกออกไปเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ แต่บอกไว้ว่าหากคุณธาวินมาพบให้รับของเอาไว้ให้ด้วย....”
“........” รฐาถือถุงกระดาษใบโตที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไรส่งให้กับแม่บ้านคนนั้นแม้จะได้รับคำบอกกล่าวว่าเป็นชาก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่อยู่ภายในจะเป็นชา
สายตาที่ผมไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ด้วยนิสัย กับทำให้ผมมองไปทางหนึ่งซึ่งเป็นมุมของบ้านหลังนี้ มันทำให้ผมเห็นอะไรบางอย่างที่คุ้นตาผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อยืดสีฟ้ากับกางเกงยีนส์สีเก่าขาดๆ ผู้หญิงที่ผมสีน้ำตาลยาวมัดรวบไว้ด้านหลัง
ผู้หญิงที่ผมเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน และเธอกำลังหอบกระเป๋าเป้ไปทางด้านข้างกำแพงพยายามปีนออกไป
ผมเคยเจอเธอที่ไหนกันนะ!!
เฝ้าคิดอยู่ในใจระหว่างที่เธอกำลังพยายามปีนกำแพง จนใบหน้าสวยหวานคนหนึ่งที่ผมเจอที่ร้านอาหารลอยเข้ามา และเธอเป็นคนทำร้ายกล่องดวงใจของผม
“ยัยตัวแสบ...”
“ครับ..คุณธาวิน” รฐาเอ่ยถามเมื่อผมอุทานออกมา
“โยธกาจัดการงานที่เหลือให้ฉันด้วย ส่วนรฐาขับรถอีกคันไปกับฉันเดี๋ยวนี้...”
ผมสั่งการก่อนที่จะแยกไปนั่งรถอีกคัน ต้องการไปดักเธอที่กำแพงด้านหลัง เธอเป็นหัวขโมยที่เข้ามาขโมยของในบ้านนี้แน่ๆ เป็นโจรที่ใจกล้าที่คิดขโมยของในเวลากลางวันแสกแบบนี้ แล้วบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ปล่อยให้ตีนแมวตัวแสบอย่างเธอเข้าบ้านได้ยังไง
“โอ๊ยยย... ทำไมวันนี้ลงไม่ดีเลยล่ะลูกตาลโอ้ยเจ็บตูด!!” ผมยืนอยู่ด้านหลังคนที่ร้องโอดครวญกับพื้น ‘วันนี้ลงไม่ดี’ หมายความว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเข้าไปขโมยของในบ้านหลังนี้สินะ
“แสดงว่ามาขโมยของบ้านหลังนี้บ่อยสินะ”
“เฮ้ย!! คุณ...” เธอชี้หน้าผม ผมชอบแววตาของเธอที่ดูไม่ยอมคน แต่ก็ดูอ่อนหวานน่ารักอย่างที่ไม่เหมือนใคร ใบหน้าจิ้มลิ้มโดยที่ความรู้สึกของผมมันบอกว่าน่าจูบที่สุด“ไม่เข็ดใช่ไหม อยากโดนอีกเหรอ ....นี่แน่!!”
“........” ผมกอดรวบคนตัวเล็กที่พยายามจะใส่เข่ากับจุดอ่อนไหวของผมอีกรอบ มันใช้กับผมได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น และนี่ผมก็ตั้งตัวเตรียมพร้อมไม่ยอมให้เธอได้ทำอะไรแน่
“ปล่อยนะ นายไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน”
“แล้วเธอมีสิทธิ์เข้าไปขโมยของในบ้านหลังนี้อย่างนั้นเหรอ?” คนฟังเงียบ ดูเหมือนว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง หรือไม่เธอก็กำลังจะวางแผนเล่นงานผมเพื่อเอาตัวรอด
“นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้รึไงถึงได้จะมาจับฉัน ..บ้านตัวเองก็ไม่ใช่”
“ฉันเป็นคนดี!! พลเมืองดีที่กำลังจะจับโจรไง..” ผมกระชับคนตัวเล็กที่กำลังดิ้นหนี และมันทำให้ผมได้กลิ่นกายหอมของหญิงสาวที่คละคลุ้งเข้าจมูก กลิ่นตัวของเธอหอมราวกับเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาใหม่ๆ เธอคงไม่ได้เข้าไปอาบน้ำในบ้านหลังนี้แล้วหนีออกมานะ
“พลเมืองดีเหรอ พลเมืองดีที่ไหนเข้าใส่ชุดดำแล้วพกปืนแบบนี้ เอาเส่..จับฉันส่งตำรวจ จะดูสิว่ามีใบอนุญาตพกปืนไหม”
“.......” ผมมองไปทางรฐาที่เขาเอาเสื้อปิดด้ามกระบอกปืน เพราะเขาต้องเตรียมพร้อมที่จะคุ้มกันผม จึงไม่ทันระวังจากสายตาช่างสังเกตของนางโจรอย่างเธอ
“ปืนของผมมีใบอนุญาตครับ และการที่จะจับคุณเข้าคุกก็ไม่ยากเมื่อผมได้ถ่ายภาพการหลบหนีของคุณจากบ้านหลังนี้เอาไว้หมดแล้ว ให้ผมแจ้งคุณดิเรกเลยไหมครับ ...คุณธาวิน”
“อย่าๆ ยอมแล้ว อย่าแจ้งเจ้าของบ้าน” เธอร้องห้ามเมื่อรฐาเตรียมที่จะโทรหาเจ้าของบ้าน เธอกลัวเจ้าของบ้านมากกว่าตำรวจ “จับฉันส่งตำรวจก็ได้ แต่ไม่ต้องบอกเจ้าของบ้านได้ไหม....”
“........” ประโยคสุดท้ายเหมือนเป็นการขอร้อง และมันเป็นประโยคขอร้องบนแววตาเศร้าสร้อยน่าสงสารที่ผมสัมผัสได้ ทำไมผมรู้สึกว่าเธอน่ารักตลอดเวลานะ
“บ้านตัวเองก็ไม่ใช่ทำเป็นมาวุ่นวาย แล้วมาบอกว่าเป็นพลเมืองดี!! ท่าทางไม่น่าเชื่อถือเอาสะเลย น่าจะเป้นโจรมากกว่าฉันสะอีก” เสียงของเธอบ่นพรึมพรัมในลำคอ...แต่ผมจับใจความและฟังเข้าใจทุกประโยค เช่นเดียวกับรฐาที่มองหน้าผมในบางจังหวะ