สุดยอด ผลไม้ มี“วิตามินบํารุงผิว” จากธรรมชาติ ของไทย
สุดยอด “วิตามินบํารุงผิว” ของไทย
การมีผิวพรรณที่ดี ส่วนหนึ่งส่งผลมาจากการกินอาหารของเราในแต่ละวันที่สะสมมาเป็นเวลาหลายๆ ปี เพราะอะไรก็ตามที่เรากินเข้าไป มันจะถูกดูดซึมและนำไปใช้เพื่อนำส่งสารอาหารซึ่งส่งผลต่อระบบของร่างกายและเซลล์ต่างๆ ในการซ่อมแซมและบำรุงในส่วนที่สึกหรอ ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสาร หรือครีมบำรุงผิวต่างๆ ซึ่งถึงแม้จะเห็นผลไวแต่ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ดังนั้นเราเลยชวนสาวๆ กลับมาดูแล วิธีการรับประทานเพื่อผิวสวยใสจากผลไม้บำรุงผิวกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความงามของสาวๆ ให้สวยจากภายในสู่ภายนอก
โภชนาการจากอาหารมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว
โดยปกติแล้วผิวของคนเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุกวัน ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวนี้ก็จะมีความสัมพันธ์กับสารอาหารด้วย โดยหากร่างกายขาดสารอาหาร ผิวก็จะสะท้อนให้เห็นได้ชัดถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นเลยทีเดียว ซึ่งก็มีวิธีการสังเกตคือ หากสุขภาพดีและร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ผิวพรรณก็จะมีความสดใส เต่งตึง และชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน แต่หากร่างกายกำลังขาดสารอาหารหรือมีปัญหาสุขภาพ ผิวก็ดูแห้งซีด เป็นขุยและดูไม่ค่อยสดใสนั่นเอง
ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่า การบริโภคอาหารนอกจากจะมีผลต่อสุขภาพแล้วก็มีผลต่อผิวพรรณเช่นกัน ซึ่งหากต้องการให้ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้ถูกต้องและเน้นการทานอาหารที่ดีต่อผิวเป็นหลักและสุดท้ายที่ควรระวังก็คือแสงแดดและมลพิษที่เป็นตัวการทำร้ายผิว เพราะนั่นอาจทำให้ผิวเสียได้ง่ายโดยที่เห็นได้ชัดก็คือผิวแห้งกร้าน ดำคล้ำและเหี่ยวย่นก่อนวัย
เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดจัดในช่วง 09.00 – 15.00 น. อย่างเด็ดขาด และเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีมลพิษ ไม่ว่าจะเป็นมลพิษจากท่อไอเสียรถ หรือควันบุหรี่ก็ตาม ซึ่งหากสามารถทำได้ดังนี้ ผิวสวยก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
ผลไม้มีอะไรบ้าง ที่ดีต่อผิว ช่วยบำรุงผิวสวยใสอ่อนเยาว์ สดใสอยู่เสมอ
1. มะพร้าว
ในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จะช่วยให้ผิวใสขึ้น ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และมีตัวช่วยในการสร้างคอลลาเจน อิลาสตินที่สำคัญต่อผิว ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังอุดมไปด้วยเกลือแร่ และโพแทสเซียม ที่จะช่วยปรับสมดุลในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยล้างสารพิษ ขับของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยบำรุงเลือดอีกด้วย
2. มะม่วง
มะม่วงมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และมีวิตามินซี นอกจากนี้ยังมีสารจำพวกน้ำตาลร่วมกับอะมิโนแอซิด ที่คงความชุ่มชื้นไว้ที่ชั้นผิวหนัง มีพลังวิตามินเอคอยรักษาความอ่อนเยาว์บนใบหน้า และลบรอยเหี่ยวย่น ในมะม่วงสุกมีน้ำตาลฟรุกโตสและน้ำจำนวนมาก ฉะนั้นการกินมะม่วงสุกจะขจัดความเหน็ดหนื่อย แก้คลื่นไส้วิงเวียง สารแคโรทีนอยด์ในเนื้อมะม่วงช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท และยังช่วยชะลอการเกิดกระบนผิวหนังได้
นอกจากจะให้สารอาหารและวิตามินต่อร่างกายแล้ว ยังให้ผลดีไม่แพ้ใครหากนำมามาสก์ผิวเพื่อช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ผิวหน้าจึงสดใสขาวผ่องทันใจ
3. แตงโม
ในแตงโมมีวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการผลิตไขมัน มีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากนั้น วิตามิน เอยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายอีกด้วย
4. ส้ม
ในส้มอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารกระตุ้นให้ร่างกายมีการสร้างคอลลาเจนอันมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่น ช่วยชะลอและต่อต้านการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ส่วนกรดซิตริกและสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีในส้มช่วยบำรุงให้ผิวมีการผลัดเซลล์ทำให้ผิวสวยกระจ่างใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
5. มะละกอ
มะละกออุดมด้วยวิตามินเอและเอนไซม์ปาเปน ที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและช่วยเติมความชุ่มชื้นต่อผิววิตามินเอสูง บำรุงผิวพรรณ ลดความหยาบกร้านของผิว และยังช่วยรักษาดวงตา ส่วนวิตามินซีในมะละกอ ช่วยในการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง มีสารป้องกันการฟกช้ำ นอกจากนี้เอนไซม์ในมะละกอยังช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส และช่วยซ่อมแซมคอลลาเจน ความยืดหยุ่นของผิว เพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
6. ทับทิม
ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียง 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงร้อยละ 40 ของปริมาณที่เราต้องการในหนึ่งวัน (สำหรับผู้ใหญ่) การรับประทานทับทิมสด หรือจะคั้นเอาแต่น้ำ จะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส เนื่องจากทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเรา และด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงจึงช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างใส