คนซื้อบ้านขายบ้านต้องรู้ ทำความรู้จักกับสัญญาจะซื้อจะขาย รวมถึงความแตกต่างกันกับสัญญาซื้อขาย
สวัสดีครับวันนี้ บ้านบ้าน จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ "สัญญาจะซื้อจะขาย" เป็นสัญญาที่ตกลงกันก่อนทำสัญญาซื้อขายจริง และมีการวางเงินมัดจำ เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ซื้อจะมาซื้อขายตามข้อตกลงที่ทำไว้ ที่คนจะซื้อบ้านจะขายต้องรู้
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักตัวอย่างสัญญาจะซื้อจะขายบ้านกันก่อน
สัญญาที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้มีการตกลงกันไว้ในวันที่ทำสัญญา ก่อนจะมีการซื้อขายบ้านพร้อมที่ดินกันผู้จะซื้อและผู้จะขาย ต้องมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านเนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง มีการวางเงินมัดจำไว้เป็นหลักประกันว่าจะมีการซื้อขายกัน ป้องกันการผิดสัญญาเพราะหากผู้ซื้อไม่ทำการชำระเงินส่วนที่เหลือตามที่หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายบ้านกำหนดผู้ขายก็มีสิทธิ์ยึดเงินมัดจำจากผู้ซื้อได้
แต่เมื่อมีกา ผิดสัญญาจะซื้อจะขาย เช่น ผู้ซื้อไม่ต้องการที่ดิน หรือ บ้าน ที่ทำสัญญาไว้ ก็ถือว่าผู้ซื้อเป็นผู้ผิดสัญญา และฝั่งผู้ขายมีสิทธิ์ในเก็บเงินมัดจำนั้นไว้ โดยไม่จำเป็นต้องคืน แต่กลับกัน หากผู้ขายผิดสัญญา ผู้ซื้อสามารถเรียกเงินมัดจำได้เช่นกัน และหากผู้ขายไม่คืนสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
เพราะฉะนั้นง่ายๆ คือ "สัญญาจะซื้อจะขาย" เป็นสัญญาที่ตกลงกันก่อนทำสัญญาซื้อขายจริง และมีการวางเงินมัดจำ เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ซื้อจะมาซื้อขายตามข้อตกลงที่ทำไว้
รายละเอียดในแบบฟอร์มจะซื้อจะขาย เพื่อความรอบคอบ
- วัน เดือน ปี ที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน
- สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่างใครกับใคร
- รายละเอียดของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น ชื่อ ที่อยู่ อายุ
- ข้อตกลงของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย
- เงื่อนไขการชำระเงิน
- การโอนสิทธิ
- ลงชื่อผู้ซื้อ ผู้ขาย และพยาน
ข้อแนะนำ : ก่อนซื้อบ้าน ต้องเตรียมจ่ายอะไร เท่าไหร่บ้างนะ?
สัญญาจะซื้อจะขายนั้น ไม่ได้จำเป็นต้องทำทุกครั้ง เพราะเป็นเพียงสัญญาที่เกิดระหว่างกันของผู้ซื้อและผู้ขายที่ตกลงกันยังไม่มีผลในการโอนกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด แต่หากทำได้ก็แนะนำให้ทำเพื่อความสบายใจ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในอนาคต
ถึงแม้ว่าสัญญาจะซื้อจะขายจะไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้ง แต่ก็ยังมีความสำคัญนะครับ ศาลฎีกาได้ตัดสินให้สัญญาจะซื้อจะขายเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อขาย
-
หลักฐานเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อ ทุกครั้งการทำสัญญานี้ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องลงลายมือชื่อ และเขียนข้อตกลกันให้ชัดเจนอย่าลืมว่าต้องมีพยานและทำคู่ฉบับของสัญญาให้ทั้ง 2 ฝ่าย เก็บไว้ด้วยเสมอ
-
เงินมัดจำ หากมีการวางมัดจำเกิดขึ้น ให้เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้ทุกครั้ง เพราะเป็นหลักฐานที่สามารถนำมาฟ้องร้องคดีได้
-
การชำระหนี้บางส่วน ในข้อนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ซื้อและผู้ขายที่ตกลงให้ชำระเงินเป็นงวดๆ หลักฐานการโอนที่แบ่งชำระก็ถือเป็นหลักฐานได้เช่นเดียวกัน
ข้อแตกต่างของ สัญญาจะซื้อจะขาย และสัญญาซื้อขาย
สัญญาจะซื้อจะขาย
ทำขึ้นเพื่อตกลงกันก่อนซื้อขายจริง , มีการวางเงินมัดจำก่อน, ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์ให้ผู้ซื้อ สามารถใช้เป็นเอกสารเพื่อประกอบการยื่นขอสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินได้
สัญญาซื้อขาย
มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ และจะจัดทำขึ้นที่สำนักงานที่ดิน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินเท่านั้น จึงจะถือว่าการทำสัญญาซื้อขายสมบูรณ์ตามกฎหมาย
ข้อแนะนำ : อายุเท่าไหร่ทำ นิติกรรม-สัญญา อสังหาริมทรัพย์ได้นะ
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับข้อมูลของสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน อย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนทำการซื้อขายบ้านให้ดี ก่อนที่จะเกิดปัญหาตามมาทีหลัง หากยังกังวล บ้านบ้าน แนะนำให้เพื่อนๆ สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่โครงการ หรือธนาคาร ก่อนจะดีกว่าครับผม