วิธีสังเกตครีมที่มีสารอันตราย
ปัจจุบันนับว่าเครื่องสำอางถือว่าจำเป็นอย่างมากเลยสำหรับบรรดาชาย –หญิง ที่ก็ต้องการปรนนิบัติตัวเอง โดยแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติหรือข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป บางยี่ห้อก็อาจทำให้หน้าขาวใส บางยี่ห้อก็ลดสิว ฝ้า ลดริ้วรอย ไร้จุดด่างดำ แต่ก็มีเครื่องสำอางบางยี่ห้อหรือบางชนิดที่ผสมสารอันตรายที่ส่งผลให้ร่างกายได้รับผลอันตรายที่ตามมา แต่จะมีสารอันตรายชนิดไหนบ้าง และ มีวิธีสังเกตอย่างไร วันนี้เราก็มีคำตอบมาฝากกันด้วย…
วิธีสังเกตครีมที่มีสารอันตราย
1.ครีมที่มีคุณสมบัติครอบจักรวาล
โดยเฉพาะที่ชอบระบุว่าสามารถรักษาสิว ฝ้า กะ จุดด่างดำ หน้ากระจ่างใส ผิวชุ่มชื่น ช่วยรักษารูขุมขน ทำให้ผิวดูดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ซึ่งมีหลายชนิดเลยที่เห็นตามท้องตลาดและInternetที่เขาเคลมคุณสมบัติต่าง ๆ ไว้ครอบจักรวาล ซึ่งมันเป็นข้อบ่งชี้หรือเป็นสิ่งที่เราควรที่จะต้องพึงระลึกว่าไม่สามารถมีจริงบนโลก และที่สำคัญหลาย ๆ คนที่ไปใช้แล้วเกิด Side Effects เกิดอาการสิวเห่อ ผิวหน้าพัง ดังนั้นถ้าพบเจอครีมที่มีโฆษณาแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า ถ้าใครยังคงใช้อยู่ก็ควรที่จะเลิกและตรวจสอบย้อนกลับว่าสิ่งที่เราใช้นั้นปลอดภัยจริง ๆ ไหม
- ครีมที่มีสีผิดไปจากสีขาว ใส
นับเป็นข้อที่จับตามองได้ง่ายมาก ๆ นั้นก็คือครีมที่ใช้มีสีสันที่มันแปลกไปหรือเปล่าหรือมีสีสันเกินไปไหม เพราะในหลาย ๆ ตัวที่ได้สังเกตดูแล้วพบเป็นส่วนใหญ่ว่าครีมที่มีสีสันนั้นมักจะมีสารสเตียรอยด์ โดยเฉพาะ สีส้ม สีเขียว ที่อาจจะแอบอ้างว่าเป็นสีที่ได้จากกลุ่มตระกูลพืชอย่าง แครอท ชาเขียว ตรงนี้ก็เป็นข้อบ่งชี้ให้ฉุกคิดเลยว่าครีมนี้มีสารอันตรายผสมอยู่ สีที่ได้มักเป็นสารสีที่ต้องการใส่เข้าไปเพื่อเพื่อที่จะปลอมและเกิดการน่าใช้
- ครีมที่มีกลิ่นน้ำหอมแรงผิดปกติ (กลิ่นหอมไปทางฉุน)
ก็แน่นอนว่ากลิ่นที่แรงเตะจมูกก็เป็นข้อจับผิดได้ง่ายไม่ต่างจากสีของเนื้อครีมเช่นกัน เนื่องจากว่าสารอันตรายบางชนิดนั้นอาจมีสารที่ส่งกลิ่นรุนแรงเลยทำให้การผสมน้ำหอมเข้าไปก็จะช่วยไปกลบกลิ่นของสารอันตรายนั้น ๆ ได้
- หยุดใช้ครีมแล้วสิวบุก (สิวขึ้น)
และอีกข้อสำคัญก็คือหลังจากที่ใช้ไปแล้วและหยุดใช้กลับเกิดอาการหน้าเห่อ สิวเห่อ เป็นฝ้า กระ จุดด่าดำขึ้น หน้าแดง แบบนี้ก็คือต้องเลิกใช้ขาดไปเลย เพราะว่าครีมตัวนี้มีสารอันตรายแน่นอนอาจจะเป็น ไฮโดรควิโนน สารสเตียรอยด์ หรือสารปรอทอาจผสมอยู่ เนื่องจากว่าครีมที่ปลอดภัยจริง ๆ เลิกใช้จะไม่มีปัญหา และไม่ทำให้ผิวเกิดเป็นสิวยกเว้นประเภทครีมที่ทำให้เกิดการอุดตันเวลาที่ใช้ไปแล้วจะเกิดสิวเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าใช้ไปแล้วสักพักแล้วหน้ากระจ่างใส แต่พอหยุดใช้ไปแล้วสิวเกิดเห่อเยอะขึ้นแบบนี้มีสารสเตียรอยด์
- เนื้อครีมมีลักษณะคล้ายเม็ดทราย (แต่ไม่ใช่เม็ดบีดส์)
ช่างสังเกตสักนิดถ้ามองด้วยตาเปล่าอาจจะพบว่าเนื้อครีมมีความหยาบ คล้ายมีเม็ดทรายเล็ก ๆ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เม็ดบีดส์ ซึ่งเม็ดบีดส์นั้นจะมีก็ต่อเมื่อครีมชนิดนั้นเป็นครีมหรือโฟมล้างหน้าซะมากกว่า ในเนื้อครีมบำรุงจะไม่มี
ครีมแบบไหนที่อาจมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ (?)
ในความจริงแล้วครีมที่ปลอดภัยส่วนมากจะมีลักษณะโปร่งแสง หรือเป็นลักษณะของเนื้อครีมขาว เนื้อเจล ซึ่งอาจเป็นข้อสันนิษฐานสำคัญที่ได้ยกตัวอย่าง แต่ไม่ได้การันตีได้ 100% ว่าครีมที่เป็นเนื้อใส สีขาว หรือเจลเขาจะไม่ผสมสารอันตรายเข้าไป ไม่ได้หมายความว่าครีมใส ๆ จะไม่มี อาจมี แต่เป็นข้อบ่งชี้ว่าครีมที่มีสีสันฉูดฉาดจะมีสารอันตรายมากกว่านั่นเอง ก็อยากแนะนำว่าให้ไปตรวจสอบกันดูว่าครีมที่ใช้นั้นมีสีสันเยอะเกินไปหรือไม่
เลือกพิสูจน์จากการทดสอบง่าย ๆ ที่บ้านก็ทำได้
ในปัจจุบันนี้มีสารเกิดขึ้นมากมายบ้างก็สามารถทราบได้จากการสัมผัสดูสี ดมกลิ่น แต่ก็มีสารที่เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าภายในเนื้อครีมนั้นจะมีสารอันตรายหรือไม่เพราะบางยี่ห้อก็ให้สีที่คล้ายกันจนแยกไม่ออกว่าแบบไหนอันตรายและแบบไหนปลอดภัย ดังนั้นก็จะมาแนะนำการตรวจสอบง่าย ๆ ที่บ้านกัน
วิธีที่ 1. ตรวจสารปรอท
การสังเกตจากตาเปล่าก็พบแล้วว่าสารปรอทในเนื้อครีมจะมีคล้าย ๆ เหมือนกับเม็ดทรายหรือเม็ดบีดส์ แต่มีอีกวิธีถ้าหากว่าการสังเกตด้วยตาเปล่าอาจไม่ชัดเจนมากพอ ก็คือการใช้กระดาษสีดำทึบ ๆ เหตุผลที่ใช้ก็เพราะว่าจะทำให้เห็นสารปรอทที่ชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะเนื้อครีมที่มีสีอ่อน จากนั้นใช้คอตตอนบัดในการตักเนื้อครีมที่มีสารปรอทขึ้นมา เมื่อตักครีมขึ้นมาแล้วให้ทำการปาดลงบนกระดาษสีดำโดยปาดในลักษณะวน ๆ ลงแผ่นกระดาษ (อย่างเบามือ) สักพักหนึ่งก็จะพบได้อย่างชัดเจนเลยว่าในเนื้อครีมนั้นไม่ได้มีแค่เนื้อครีมเท่านั้นแต่ยังมีเม็ดทรายเล็ก ๆ ผสมอยู่ด้วยนั่นเอง
วิธีที่ 2. ตรวจหาสารไฮโดรควิโนน
วิธีนี้หากมองด้วยตาเปล่าก็จะไม่พบ ไม่เจออะไรเลย จำเป็นต้องใช้ผงซักฟอกเท่านั้น โดยเริ่มจากตักผงซักฟอกใส่ภาชนะ (ปริมาณของผงซักฟอกต้องเยอะถึงจะเห็นความเข้มข้นของสารชนิดนี้) หลังจากที่ตักผงซักฟอกใส่ภาชนะแล้วเติมน้ำเล็กน้ำและตีให้เกิดฟอง จากนั้นใช้กระดาษทิชชู่ (หนาเพื่อลดการซึมเปื้อน) ใช้คอตตอนบัดตักเนื้อครีมที่มีสารไฮโดรควิโนนขึ้นมาใสบริเวณกระดาษทิชชู่เลย จากนั้นใช้น้ำผงซักฟอกที่เตรียมไว้เทลงไปบริเวณครีมได้เลย จากนั้นรอผลลัพธ์สัก 2-3 นาที ถ้าหากว่าครีมชนิดไหนมีสารไฮโดรควิโนนที่ค่อนข้างเข้มข้นช่วงบริเวณโดยรอบนอกของเนื้อครีมบนกระดาษทิชชู่ก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอย่างชัดเจนเลย
ผงซักฟอกสามารถตรวจหาสารปรอทได้ไหม (?)
การใช้ผงซักฟอกนั้นไม่สามารถตรวจหาสารปรอทได้ สารปรอทจะไม่เปลี่ยนสีเป็นสีอะไรเลย ฉะนั้นแล้ววิธีการใช้ผงซักฟอกนั้นตรวจหาได้แค่สารที่มีไฮโดรควิโนนเท่านั้น
วิธีที่ 3. ตรวจหาสเตียรอยด์
อีกวิธีคือการใช้ พลาสเตอร์ในการตรวจนั่นเอง โดยอาจจะใช้ผิวบริเวณท้องแขนของตัวเองโดยเริ่มจากใช้คอตตอนบัดป้ายครีมที่มีสารสเตียรอยด์ (พอประมาณเท่านั้น) และจะใช้พลาสเตอร์ปิดทับลงไปบริเวณที่ได้ทาครีมลงไป หลังจากนั้นเพื่อเป็นการเปรียบเทียบกันดูว่าจะมีความแตกต่างกันหรือไม่ โดยการใช้พลาสเตอร์อีกหนึ่งอันที่ไม่ต้องป้ายครีมใด ๆ ทั้งสิ้นแปะลงไปคู่กัน เมื่อแปะลงไปคู่กันเรียบร้อยแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง สีผิวที่ป้ายครีมที่มีสารไฮโดรควิโนนนั้นจะมีสีที่ซีดและขาวกว่าข้างที่ไม่ได้ทาครีมนั่นเอง
อาการถอนยาสเตียรอยด์มีอะไรบ้าง (?)
ปัญหาผิวอันดับหนึ่งที่หลายคนกังวลใจว่าลักษณะสิวที่เป็นนั้นใช่สิวติดสารสเตียรอยด์หรือไม่ ซึ่งอาการสิวติดสารสเตียรอยด์มักจะเกิดขึ้นหลังจากหยุดครีมชนิดนั้น ๆ อย่างน้อย 7-14วัน แต่อาการจะหนักขึ้นก็ประมาณ1-2เดือนหลังจากที่หยุดครีมอันตรายนั้นๆ โดยอาการเหล่านี้จะเรียกว่าอาการถอนยาสเตียรอยด์ ซึ่งจะมีอาการคร่าว ๆ 8ข้อด้วยกัน
- ผิวหมองคล้ำอยู่ดี ๆ ผิวหน้าก็คล้ำเร็วมาก ๆ จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าโดนของหรือเปล่า
2.มีอาการคันหน้ายุบยิบ อยู่ดี ๆ ก็คันโดยเฉพาะเวลาที่เหงื่อออกจะมีอาการคันหน้าเป็นพิเศษจะคันมาก ๆ
3.มีอาการหน้าแดง แสบร้อน ก็จะมีอาการร้อนผ่าวใต้ผิวหรือบางคนก็จะรู้สึกว่าเหมือนมีไอร้อนผุดออกมาจากใต้ผิว
4เป็นปัญหาสิว ที่อยู่ดี ๆ สิวก็เห่อขึ้นเยอะมากเลย ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ เรียกได้ว่าปะทุกันขึ้นมาเยอะมาก ๆ
- มีปัญหาหน้ามัน แม้ว่าไม่ได้ทาครีมอะไรก็ตามแต่ หน้าก็จะมันเยิ้ม มันมากกว่าปกติ
6.ใช้ครีมอะไรก็แพ้ กลายเป็นว่าผิวแพ้ง่ายมาก ๆ แล้วก็จะมีผดผื่นขึ้น
7.ผิวแก่ ผิวโทรม ผิวแก่ก่อนวัยจนผิดสงสัยของคนรอบข้าง
- ผิวบางจนเห็นเส้นเลือด บางคนจะสังเกตได้ว่าพอหยุดครีมอันตราย เวลาที่ส่องกระจกผิวจะเห็นได้ชัดเลยว่าผิวหน้าบาง ผิวหน้าขาวโพนจนเห็นเส้นเลือดเลย
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นวิธีการใช้สังเกตถึงความปลอดภัยให้กับตัวเองว่าครีมที่ปลอดภัยควรจะมีลักษณะอย่างไร และวิธีการแบบไหนที่จะพบได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่าผิวติดสารสเตียรอยด์ ดังนั้นควรจะหาวิธีแก้และปรึกษาปัญหาผิวกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้รับคำแนะนำว่าจะเริ่มรักษาผิวอย่างไร เริ่มแก้ปัญหาผิวกันอย่างไร เพื่อให้ปัญหาผิวติดสารอันตรายได้ฟื้นฟูไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ
Reference: http://www.env.eng.chula.ac.th/?q=content/high-performance-liquid-chromatography-hplc
อ้างอิงจาก: pixabay
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
ยาพิษ คนสนิท ความไว้ใจ : บทเรียนราคาแพงว่า…อย่าไว้ใจใครเกินไป
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia