(สปอยเต็ม 2/4)สามีติดคุก เพราะรอค่าปรับค่าที่จอดรถ เมียเลยขอเลิก
มากันแล้วนะครับในโพสที่ 2 มาต่อกันเลยนะครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูโพสแรก ก็ตามนี้เลยครับ
https://board.postjung.com/1362853
มารับชมกันต่อเลยครับ
จากนั้นวันถัดมา เขาก็แอบไปชิงตัวลูกชายจากศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ซึ่งลูกของเขาก็งง ว่าทำไมแม่ไม่มารับ
แต่คริสก็บอกว่าให้มากับพอนั่นแหละ พ่อจะดูแลเอง จากนั้นก็พาลูกชายกลับบ้านทำอาหารให้กิน
ซึ่งตอนนี้ เจ้าของห้องพักแจ้งว่า จะให้ออกแล้วเนื่องจากพรุ่งนี้เขาจะต้องทาสีห้องใหม่ และให้คนใหม่มาอยู่ คริสเลยขอเวลาอีกแค่ 1 อาทิตย์ ตอนนี้ลูกเขาอยู่ในบ้าน อีก 1 อาทิตย์ จะเอาเงินมาจ่ายให้ และเขาจะทาสีห้องให้ด้วย.. เจ้าของห้องก็เลยโอเคตามนั้น..
ถัดมาอีกวัน ขณะที่เขากำลังทาสีห้อง ก็มีตำรวจมาตามถึงห้อง เพื่อให้ไปเสียค่าปรับ เพราะเขาไม่เคยเสียค่าปรับเลยนับสิบๆ ใบ คริสก็เลยเซ็นเช็คให้ แต่ตำรวจบอกว่า คุณไม่สามารถกลับได้ จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า 9 โมงเพื่อให้ทางธนาคารยืนยันเงินในเช็ค ซึ่งเขาเองก็พยายามขอร้องตำรวจ เพราะพรุ่งนี้เขามีสำภาษณ์งาน 10 โมง และวันนี้ต้องไปรับลูกด้วย
แต่ตำรวจไม่สนใจ บอกว่าเดี๋ยวจะให้สถานสงเคราะห์ไปรับเด็ก.. เขาจึงโทรหาภรรยาฝากให้ไปรับลูก โดยไม่ได้บอกว่าตัวเองโดนรวบอยู่ที่ห้องขัง ซึ่งภรรยาก็ตอบว่าโอเค ฉันจะพาลูกไปเที่ยวด้วย
โดยคริสก็พูดแบบขอร้องว่า เอาลูกมาส่งผมด้วยนะ ตอน 6 โมงเย็น นะที่รัก คุณพาเขาไปเที่ยวได้ แต่ขอร้อง พาเขากลับมาหาผมด้วย... และนั่นน่าจะเป็นคำขอร้องแบบลูกผู้ชายของคริสก็ว่าได้
เช้าวันถัดมาเกือบ 9 โมง คริสถูกปล่อยตัวครับ เลยรีบวิ่งไปที่อาคารสัมภาษณ์งานที่นัดกับเจย์ไว้ทันที โดยเขาเองไม่อยากจะกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดเพราะคิดว่าคงจะไม่ทัน..
เมื่อไปถึง เล่นเอาคณะกรรมการถึงกับอึ้งว่าแต่งชุดอะไรมา "นี่คุณเจย์ ปกติชายคนนี้เขาใส่สูทหรือไม่" ประธานได้หันไปถามเจย์ เจย์ก็บอกว่า ปกติเห็นเขาใส่สูทนะครับ แลดูดีด้วย จากนั้นการสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้น โดยที่การแต่งตัวของคริสนั้น สร้างความไม่น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
เจย์เลยบอกว่า "ผมจะบอกอะไรให้นะครับ.. อะไรที่ผมรู้ ผมจะตอบคุณอย่างตรงไปตรงมา อะไรที่ผมไม่รู้ ผมจะไม่โกหกว่าผมรู้ แต่ผมก็จะพยายามหาคำตอบในสิ่งที่ผมไม่รู้ให้พวกคุณจนได้"... เล่นเอาประธานเริ่มสนใจในตัวของคริส ก่อนจะถามคำถามสุดท้ายว่า
"งั้นคุณลองบอกผมสิ ถ้าคุณเป็นผม มีเหตุผลอะไรที่ผมจะเลือกคนไม่ได้ใส่สูทมาสัมภาษ์งาน เข้าทำงานที่นี่" คริสก็เลยตอบไปว่า.. "ถ้าเขาไม่ได้ใส่เสื้อสูทมา แสดงว่า เขาต้องใส่กางเกงที่เท่ห์เอามากๆ แน่ๆ" เล่นเอาประธานขำหัวเราะชอบใจ กับไหวพริบของคริสเป็นอย่างมาก
เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ เจย์ก็ออกมาแสดงความยินดีกับคริส ที่ผ่านการสัมภาษณ์และถูกรับการคัดเลือกอบรม กับมุขแต่งตัวเป็นขอทานนี่มันเจ๋งมากๆ .. คริสเลยบอกว่า ก็ขอขอบคุณ..ไว้ผมจะติดต่อกลับมาก็แล้วกัน.. เล่นเอาเจย์งงทันที ว่านายถูกเลือกแล้ว นายจะติดต่อกลับมาเพราะอะไร..
คริสบอกว่า ผมก็พึ่งรู้ว่ามาฝึกอบรมที่นี่ จะไม่มีเงินเดือนให้ ตลอด 6 เดือน และก็ไม่รับประกันว่าจะได้ถูกคัดเลือกด้วยหรือไม่ ดังนั้น ผมขอกลับไปคิดให้ดีก่อน ผมรู้ว่าคุณเชียร์ผม แล้วคุณคงเสียหน้ามาก ถ้าผมไม่มา แต่ยังไงก็ซะ ผมจะติดต่อกลับมา.." เจย์ถึงกับเหว๋อ แล้วพูดสวนไปว่า "ฉันให้เวลานายคิดแค่คืนนี.. แค่คืนนี้เท่านั้น เพราะคนอย่างฉัน หาคนมาแทนที่นายได้ไม่ยาก.. ไปคิดให้ดี..แค่คืนนี้เท่านั้น"
หลังจากนั้น คริสก็กลับบ้าน เพื่อไปรอรับลูก ซึ่งภรรยาของเขารับปากไว้ว่าจะเอาลูกกลับมา เขาก็รอแล้วรอเล่า.. คิดว่าคงโดนหลอกแน่ๆ แต่แล้วภรรยาก็อุ้มลูกกลับมา
ก็ได้พามานอนในห้องนอน และเขาทั้งคู่ก็คุยกัน โดยภรรยาแจ้งว่า เขาจะไปทำงานกับพี่สาว พี่สาวเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่นอกเมือง.. และอาจจะไม่ได้กลับมา คริสบอกว่า โอเค.. ผมก็คงรั้งคุณไม่ได้ แต่ลูกขอให้อยู่กับผม.. ซึ่งภรรยาของเขาก็บอกว่า "แต่ยังไงฉันก็คือแม่ คุณก็รู้ว่าลูกควรอยู่กับแม่"
คริสเลยพูดสวนไปว่า "คุณไม่มีปัญญาดูแลเขามากไปกว่าผมหรอก เชื่อผม อย่าให้เป็นภาระของคุณเลย ผมจะดูแลเขาเอง ให้ลูกอยู่กับผม ผมจะคอยดูแลเขาเป็นอย่างดี คุณก็น่าจะรู้ว่าผมดูแลเขาได้..." ภรรยาของคริสถึงกับน้ำตาตก เพราะลึกๆ เขาเองก็รู้ว่าเขาเองเอาลูกไปก็คงเป็นภาระไม่น้อย แต่เขาก็ไม่มีทางให้เลือกมากนัก.. จึงขอลาคริสในคืนนั้น.. โดยที่คริสได้แต่นั่งมองลูก ด้วยหัวใจที่แตกสลาย เพราะตอนนี้ ครอบครัวของเขาได้พังลงไปแล้วนั้นเอง...
ก็จบกันไปแล้วนะครับกับตอนที่ 2 ของชีวิตที่ตกต่ำสุดขีดของ คริส การ์เนอร์ ซึ่งบอกไว้เลยนะครับว่า ทั้ง 2 ตอนที่ได้ดูมานั้น อาจจะถูกมองว่าชีวิตเขาค่อนข้างมีปัญหาและย่ำแย่เยอะ แต่ต่อจากนี้แหละครับ จะแย่และดำดิ่มไปมากกว่านี้ .. แล้วเขาจะรับมือยังไง ติดตามในโพสหน้าได้ครับ