อุ่นรัก
อุ่นรัก
โดย : อักษราลัย
บางสิ่งที่ความตายก็มิอาจพราก สิ่งนั้นเรียกว่า “ความรัก”
.
บ้านไม้สองชั้นหลังนี้ปลูกแบบโบราณมีฝาบ้านแบบลายไม้ขัดลายที่เรียกกันว่าฝาปะกน ปลูกอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของย่านนนทบุรี รอบ ๆ บ้านแวดล้อมไปด้วยไม้ผลนานาพันธุ์ ทั้ง ฝรั่ง มะม่วง ชมพู่ มะพร้าว ขนุน และทุเรียน รวมไปถึงพืชผักนานาชนิด
อุ่นรัก เด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ผิวสีน้ำผึ้งเช่นเดียวกับมารดาของเธอ วันนี้เธอถักเปียสองข้าง ใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อย ... นั่งรอยายอิ่มอยู่หน้าระเบียง ตรงหน้ามีโถใส่ข้าวทองเหลืองขัดจนเป็นมันแวววาว มีมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองสุกสวย กับแกงจืดไข่น้ำ และหมูทอด ที่ยายว่าคือกับข้าวโปรดของแม่ และมีดอกบัวที่อุ่นรักและยายช่วยกับพับกลีบดอกสวยงามตั้งแต่เช้ามืด สักพักยายที่ไปอาบน้ำหลังเตรียมอาหารเสร็จก็เดินมาสมทบ ยายเอื้อมมือมาลูบศีรษะของเธอเบา ๆ ด้วยความรักและเอ็นดูในตัวหลาน ทั้งคู่นั่งรอใส่บาตรกับเงียบ ๆ ปีนี้เป็นปีที่สิบแล้วที่อ้อมจากไป ในความรู้สึกของทั้งคู่นั้นแตกต่างกัน
สำหรับยายอิ่มนั้นอ้อมคือลูกสาวผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ และคิดถึงด้วยความอาดูรอย่างที่สุด ยังดีที่มีอุ่นรักหลานสาวมาเป็นตัวแทน
ส่วนอุ่นรักนั้นทั้งชีวิตของเธอคือยายอิ่ม เธอไม่เคยได้รับสัมผัสไออุ่นรักจากแม่ ไม่เคยรู้ว่าน้ำนมแม่นั้นมีรสชาติเป็นอย่างไร ตักแม่ที่เพื่อนบอกว่าหนุนแล้วอบอุ่นเธอก็ไม่เคยสัมผัส เพราะเพียงลืมตาเกิดมาได้ห้าวัน แม่ก็จากไปแล้ว แม่จากไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รับไออุ่นใด ๆ จากแม่ มีแค่เพียงชื่อ ‘อุ่นรัก’ ที่แม่ตั้งให้ เท่านั้นที่หลงเหลืออยู่เป็นร่องรอยของความทรงจำและความรัก
สักพักใหญ่ที่สองยายหลานนั่งกันเงียบ ๆ ในภวังค์ของตัวเอง หลวงพ่อก็มาถึงหน้าบ้าน ทั้งคู่ช่วยกันใส่บาตร กรวดน้ำ ขณะที่อุ่นรักเก็บของเตรียมตัวจะไปโรงเรียน ยายก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งมามอบให้
“แม่เขาฝากยายไว้ บอกว่าเมื่อหนูโตพอจะรู้ความ ให้มอบมันให้กับหนู”
“ของแม่ ... ฝากให้หนูเหรอคะยาย”
“ใช่แล้วลูก ของแม่หนูฝากไว้”
“แม่..” หางเสียงอุ่นรักสั่นเครือ แม้จะไม่ได้รับความรักจากแม่ แต่เธอก็มั่นใจว่าแม่รักเธอ
“ไปเรียนก่อนเถอะลูก เย็นค่อยมาเอา ยายเอาไว้ให้หนูในห้องนะ”
ยายอิ่มพูดแล้วเดินจากไป อุ่นรักจึงรีบไปโรงเรียน และรอคอยเวลาเย็นอย่างกระวนกระวาย
.
อุ่นรัก ลูกรักของแม่
จดหมายฉบับนี้แม่เขียนขึ้นจากบันทึกทันทีที่รู้ตัวว่ามีหนู แม่ก็เริ่มจดบันทึกไว้ แม่อยากเป็นผู้มอบบันทึกนั้นให้หนูด้วยมือของแม่เอง แต่คงเป็นไปไม่ได้ ชาตินี้แม่บุญน้อยนัก ไม่ได้อยู่ฟูมฟักดูลูกเติบโต ไม่ได้อยู่ดูลูกคลาน หรือเดินได้เป็นก้าวแรก ไม่มีโอกาสได้ยินคำว่า “แม่” จากปากของลูก เหมือนแม่คนอื่นเขา แต่แม่อยากให้ลูกรู้ไว้ว่าแม่รักลูกมากเหลือเกิน ลูกคือสิ่งสวยงามที่สุดในชีวิตของแม่ คือตัวแทนความรักของพ่อและแม่ที่เฝ้ารอคอย แม้เราจะไม่ได้ใกล้ชิดกัน แม้หนูจะไม่เคยได้รู้จักพ่อ และไม่รู้ว่าแม่จะได้อยู่กับลูกนานแค่ไหน แต่เชื่อเถอะทุกวินาทีที่แม่มีหนูนับจากวันที่รู้ว่าหนูมาแล้ว เราไม่เคยห่างกัน
ถ้าหนูได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ย่อมแปลว่าแม่คงจากไปไกลแสนไกล และคงอีกนานกว่าเราจะได้พบกัน ไม่เป็นไรหรอกนะลูกรัก พ่อกับแม่จะรอคอยหนู จะรอวันที่เราอยู่กันเป็นครอบครัวอีกครั้ง แม่ขอให้ลูกของแม่เป็นเด็กดี เชื่อฟังยาย รักยาย ดูแลยายแทนแม่
อีกอย่างที่แม่อยากบอกให้ลูกรู้คือ ชื่อ อุ่นรัก ของลูก พ่อเป็นคนตั้งให้ ทันทีที่รู้ว่าลูกมาอยู่ในท้องแม่ พ่อก็พูดคำนี้ออกมา โดยไม่สนว่าลูกจะเป็นหญิงหรือชาย แต่ลูกคือ ไออุ่นรักของพ่อกับแม่นั่นเอง จะเป็นอุ่นรักที่วาบอุ่นในใจของทั้งพ่อและแม่ตลอดไป
รักลูกมากนะ
อ้อม
อุ่นรักพับจดหมายนั้นเก็บใส่ซองไว้ตามเดิม นัยน์ตามีหยดน้ำหยาดหยดหล่นลงมาเปียกแก้มเป็นสาย แม่จ๋า อุ่นรักก็รักพ่อกับแม่นะคะ สักวันเราคงได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน มือเหี่ยวย่นที่มีแต่ความเมตตาลูบผมของอุ่นรักไปมาพร้อมกับดึงตัวอุ่นรักเข้ามากอด
“หนูควรภูมิใจ แม่ของหนูเป็นพยาบาลที่ดูแลคนป่วย อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง แม้จะต้องจากไป แต่เราก็ควรภูมิใจในสิ่งที่แม่เขาทำนะลูกนะ”
“ค่ะยาย อุ่นรักภูมิใจในตัวแม่อ้อมค่ะ”
สองยายหลานนั่งกอดกัน อารมณ์หม่นเศร้าแบบนี้เวียนมาทุกปี ที่ถึงวันครบรอบการจากไปของอ้อม แม้จะนึกถึงแม่อยู่บ่อยครั้ง แต่ในวันนี้ทั้งสองคนจะเศร้ามากขึ้นกว่าทุกที แม้บางครั้งในใจของทั้งคู่จะเอ่ยถาม
“ทำไมต้องเป็นอ้อม ที่ต้องจากไป
” แต่คำถามนั้นก็ไม่เคยมีคำตอบ ...