การสวดมนต์ เป็นพุทธ หรือเป็นพราหมณ์ ? การสวดมนต์ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้หรือไม่ ?
การสวดมนต์มีวัตถุประสงค์ทั้งเพื่อป้องกันภัยพิบัติ (วิปัตติปะฏิพาหายะ) ทั้งเพื่อให้เกิดสมบัติทั้งปวง (สัพพะสัมปัตติสิทธิยา) และเพื่อขจัดทุกข์ทั้งปวง ขจัดภัยทั้งหมด ขจัดโรคทั้งมวล (สัพพะทุกขะ สัพพะภะยะ สัพพะโรคะ วินาสายะ) ซึ่งปรากฏในคำอาราธนาพระปริตร หรือคำอาราธนาให้พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ในบทสวดมนต์ พระสงฆ์จะเลือกบทที่สรรเสริญพระรัตนตรัย บทมงคลสูตร (บทธรรมสอนใจ ให้แนวปฏิบัติ 38 ข้อ มีการไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต การบูชาสิ่งที่ควรบูชา เป็นมงคลสูงสุด เป็นต้น)) การสวดมนต์ หรือเจริญพระพุทธมนต์เป็นกิจสงฆ์ สวดเพื่อให้เกิดความโน้มน้าวใจ เพื่อนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก
คำถามที่ว่า เป็นพุทธ หรือพราหมณ์ คำตอบคือ เป็นทั้งพุทธ และพราหมณ์ เพราะหลักพิธีกรรมของทั้ง 2 ศาสนานี้ปะปนกันจนยากที่จะแยกออกจากกัน จะมีเพียงวัตถุประสงค์เท่านั้นที่แตกต่างกันคือ พุทธศาสนา สวดมนต์เป็นเบื้องต้นเพื่อนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติ ส่วนทางศาสนาพราหมณ์ สวดมนต์ทำเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และเป็นการขอพรเทพเจ้า
ถามว่า สวดมนต์ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้หรือไม่ ? ตอบ ในสมัยพุทธกาล เมืองไพศาลี หรือเวสาลี นครหลวงแห่งราชอาณาจักรวัชชี เกิดทุพภิกขภัยใหญ่ และมีโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ซากศพถูกนำไปทิ้งไว้นอกเมืองจนส่งกลิ่นเหม็นตลบ และเกิดอหิวาตกโรคตามมา กษัตริย์ลิจฉวีกราบทูลพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดเพื่อช่วยแก้ปัญหา พระพุทธองค์ได้ตรัสให้พระอานนท์เรียน “รัตนสูตร” (ปัจจุบันอยู่ในบทสวดมนต์ที่พระสงฆ์ใช้สวด) เพื่อเดินจาริกทำพระปริตร (น้ำมนต์) ประพรมไปในระหว่างกำแพง 3 ชั้น จนในที่สุดเมืองไพศาลีกลับคืนสู่ภาวะปกติ (รายละเอียดกดเข้าไปดู รัตนสูตรปราบภัย 3 ประการ ณ เมืองไพศาลี) ขอบคุณมากครับ