How to รักตัวเองให้มากกว่าเมื่อวาน
สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง รักตัวเองเข้าไว้แล้วสิ่งดีๆ จะตามมา รักตัวเองให้มากๆ ก่อน เพราะพลังแห่งความรักนั้นจะนำพาสิ่งดีๆ มาสู่ตัวคุณได้
Self Esteem คือการที่มีความมั่นใจตัวเองต่ำ รู้สึกเป็นกังวล ขลาดกลัว เพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่มีอะไรดีเลย ไม่เป็นเหมือนคนอื่นเขา ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ถ้ามีมากๆ มีอยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้ใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุข เนื่องจากทำอะไรก็กลัว เพราะตัวเองไม่เก่งไม่มีความสามารถ แล้วก็วนเวียนอยู่แต่กับความท้อแท้ท้อถอยด้วย คุณล่ะเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่า เราเข้าใจนะว่ามันทรมานแค่ไหน ดังนั้นมาปรับความคิดเสียใหม่ แล้วคุณจะได้ใช้ชีวิตแบบที่มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกมากเลยล่ะ
1. แต่ละคนมีความงามในแบบของตัวเอง
คิดว่าเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงนะคะ ตอนที่เราโตเป็นสาวแล้ว เราจะกังวลเรื่องค่านิยมความงามของสังคม อย่างเช่น คนผิวขาวจะได้รับความนิยมมากกว่า ทำให้คนที่ผิวคล้ำรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยไม่มั่นใจ หรือคนที่รูปร่างอวบๆ ไม่ผอมเพรียวก็จะพลอยทำให้รู้สึกว่าตัวเองหุ่นไม่ดีไม่สวยไปด้วย แต่เราอย่าไปยึดติดกับความงามแบบนั้นเลย มีแต่จะเครียดเปล่าๆ คนผิวคล้ำในโลกนี้ที่สวยและได้รับการยอมรับก็มีอยู่มากมายหลายคน คนที่รูปร่างอวบอ้วนเองก็เช่นเดียวกัน พวกเธอก็สามารถดูดีและงดงามในแบบของตัวเองได้ ดังนั้นแล้วจงจำเอาไว้ว่าคุณมีแค่เพียงคนเดียวในโลก ดังนั้นแล้วไม่จำเป็นต้องสวยตามแบบใคร ลองมาเป็นสาวสวยในรูปแบบที่มีเพียงแค่คนเดียวในโลกดูดีกว่านะ
2. แข่งบุญแข่งวาสนากันไม่ได้
โดยเฉพาะต้นทุนของชีวิต เราไม่สามารถที่จะเลือกเกิดในครอบครัวที่มีเงินทองมากมาย พร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องการศึกษา และการอยู่ในสังคมระดับสูงๆ ได้ เราอาจจะมีน้อยกว่าคนอื่นๆ ต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ แต่อย่างน้อยขอแค่คุณยังมีใจสู้ไม่ยอมแพ้ และพยายามที่จะพาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้ก็นับว่าเก่งมากแล้วนะ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เขามีมากกว่าเราให้ตัวเองรู้สึกแย่อยู่เลยนะ ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองไปเถอะ
3. ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อคนอื่น
เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนก็อยากที่จะเรียนสูงๆ ได้เกียรตินิยม บางคนก็มุ่งเน้นที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของตัวเอง บางคนอยากจะมีธุรกิจส่วนตัว บางคนอยากจะแต่งงานกับผู้ชายชาวต่างชาติ ซึ่งถ้าเราพบคนที่เรารู้จักประสบความสำเร็จในรูปแบบของตัวเองแล้ว เราก็จะรู้สึกพลอยยินดีกับเขาไปด้วยและอาจจะอยากที่จะเป็นแบบเขาบ้างเหมือนกัน แต่ก็ต้องมาดูให้ดีเหมือนกันว่า คุณพร้อมจะมีชีวิตแบบนั้นจากความต้องการของตัวเองจริงๆ ไหม บางทีเราอาจจะมองที่ความสำเร็จของเขาเพียงอย่างเดียว โดยไม่ดูว่าเขาได้ทุ่มเทพยายามทำอะไรมาก่อนที่จะประสบความสำเร็จบ้าง สิ่งเขาทำได้อาจจะไม่ใช่รูปแบบชีวิตที่คุณจำเป็นต้องเป็นตามเขาเลยด้วย คุณอาจจะมีเป้าหมายที่ดูไม่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ถ้ามันทำให้ชีวิตคุณมีความสุขในทุกวันได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีๆ อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
4. พึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น
คนที่อยากจะเป็นแบบคนอื่น คือคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ แต่ละคนมีความสามารถมีสิ่งที่ตัวเองถนัดแตกต่างกันไป การจะคาดหวังให้ตัวเองเก่งในบางสิ่งที่คนอื่นทำได้อาจจะต้องผิดหวัง ถ้านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณทำได้ดี ก็มีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่และท้อแท้กับตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นหมอหรือวิศวะได้ คุณที่ไม่เก่งในสายวิชาการอาจจะเก่งทางสายศิลปะหรือบันเทิงก็ได้ หากว่าลองหันไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักชอบและมีความถนัดแล้ว คุณก็อาจจะค้นพบศักยภาพของตัวเองและสามารถทำมันให้สำเร็จได้ง่ายกว่าฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดอยู่ก็ได้ ดังนั้นหากคุณรู้ตัวเองทำอะไรได้ดี จงพยายามมุ่งทำในสิ่งนั้นเถอะ
5. รักและภูมิใจในตัวเองเถอะ
ความมั่นใจและความสุขในชีวิตนั้น เกิดจากความรักที่คุณมีให้กับตัวเอง ไม่คาดหวังกับตัวเองสูงจนเกินไป ลองมองสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในตัว หลายๆ อย่างคุณก็ทำได้ดีมากแล้ว มีงานมีเงิน ไม่มีหนี้สิน ดูแลพ่อแม่ได้ดี ดูแลรักษาสุขภาพไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใดๆ แค่นี้ก็ถือว่าใช้ชีวิตได้ประสบความสำเร็จมากแล้วนะ เมื่อคิดดีคิดบวก สิ่งดีๆ ก็จะเข้าหาคุณได้เองค่ะ
ไม่มีใครสามารถรักคุณได้มากเท่ากับที่ตัวคุณรักตัวเอง ก่อนที่จะทำให้คนอื่นรักและชื่นชมนั้น คุณต้องรักและมีความมั่นใจในตัวเองเสียก่อน เพราะอย่างน้อยสุดมันก็ทำให้เราอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข และทุกๆ สิ่งที่คุณทำก็จะออกมาได้ผลดี ทำให้ใครๆ เห็นต่างก็ชอบและชื่นชมได้กับสิ่งที่คุณเป็น กับการที่เป็นตัวเองตัวของคุณเองได้แล้วล่ะค่ะ
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ