หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตัวเล็ก (เลือดสีขาว 21)

เนื้อหาโดย ทินภัทร สำเร็จงาน

    ตัวเล็ก

            ถึงแม้อาการของเด็กชายภูพิพรรธจะดีวันดีคืน  ผ่านการบำบัดรักษามาหลายปีแล้ว  ระยะหลังมานี้หมอนัดตรวจร่างกายปีละหนึ่งครั้งและไม่ได้สั่งยาเกี่ยวกับโรคเลือดให้เด็กชายอีก  แต่เปลี่ยนมาเป็นให้ยาเพื่อรักษาเกี่ยวกับต่อมไธรอยด์แทน  วันดีคืนดีเมื่อลักขณานำลูกชายไปพบแพทย์ตามนัด  สาธิตเข้าทำงานตามปกติ  จู่ๆ เขาก็ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากลักขณาว่าหมอจะคุยด้วย  การสนทนาระหว่างหมอกับสาธิตเมื่อสาธิตนำมาขบคิดเขาก็เห็นเป็นเรื่องแปลกและน่าสนใจไม่น้อย

            “คุณสาธิตคะ  คุณมีความสูงเท่าไรคะ” เสียงหมอจากปลายสาย  คงเป็นหมอที่ตรวจร่างกายให้ลูกชายนั่นเอง

             “หนึ่งร้อยหกสิบหกครับ”

            “น้ำหนักล่ะคะ”

            “หกสิบ”

            “จำได้ไหมคะว่าตอนเรียนประถมมัธยมคุณสูงเท่าไร”

             “ไม่แน่ใจครับคุณหมอ”

            “เอาเป็นว่าตอนเข้าแถวเคารพธงชาติคุณยืนเข้าแถวอยู่ตรงไหน”

            “ยืนหัวแถวครับถ้าแถวตอน  ถ้าแถวหน้ากระดานยืนท้ายแถว”

            “คุณสาธิตยืนเข้าแถวแบบนี้ตลอดการเรียนประถมมัธยมเลยหรือ”

            “อ๋อ...ไม่ครับ  พอถึงมัธยมสี่ผมก็เริ่มขยับถอยไปเรื่อยๆ ท้ายสุดน่าจะอยู่กลางแถว  เดี๋ยวนี้ถ้าให้ผมเข้าแถวผมคงอยู่กลางแถวน่ะครับคุณหมอ”

            “ค่ะ...ขอบคุณค่ะ  เป็นข้อมูลนำไปเทียบเคียงกับพัฒนาการทางด้านร่างกายของลูกชายคุณน่ะค่ะ”

            “ครับ...ขอบคุณมากครับหมอ”

            เป็นการบำบัดรักษาโรควิธีหนึ่งทีเดียว  ซักถามประวัติผู้เป็นพ่อแม่  เพื่อนำไปรักษาลูก   สาธิตเห็นว่าเป็นเรื่องดี  หากมนุษย์เราย้อนกลับไปดูพัฒนาการของแต่ละครอบครัว    วงศ์ตระกูล   ก็จะคล้ายๆ กัน  ลูกจะมีการเจริญเติบโตด้านร่างกายและมีพัฒนาการทางอารมณ์ความรู้สึกมาจากพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว  บางครอบครัวหน้าตาเหมือนกันยังไม่พอ  นิสัยใจคอยังเหมือนกันอีกด้วย  โบราณว่าไว้  “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”  หากจะมีลูกคนใดผ่าเหล่าผ่ากอไปบ้างก็น้อยเต็มที

            สาธิตจึงคิดว่า ผู้เป็นพ่อแม่หรือเครือญาติหากจะดุด่าว่ากล่าวลูกๆ หลานๆ ก็ควรมองกลับไปถึงเทือกเถาเหล่ากอความเป็นมาของตัวเองหรือวงศ์ตระกูลเสียก่อน 

            วันนั้นเมื่อลูกชายกลับมาจากโรงพยาบาลก็เล่าเสียงเจื้อยแจ้วให้สาธิตฟังอย่างสนุกปาก

            “หมอจับจู๋ผมด้วย  แล้วยังพูดว่า  ไหนดูสิ โตแค่ไหนแล้ว  ขนขึ้นหรือยัง  ผมอายหมอมากเลยฮะ”

            สาธิตเสียววาบ พลางยิ้มเจื่อนๆ ให้ลูกและลักขณา

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆอดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
เหงาอยู่คนเดียวเผยนาทีระทึก "พายุฤดูร้อน" ถล่มเชียงราย..ทำเอากำแพงล้มระเนระนาด!แอบรักในรอยใจ ตอนที่ 4รีวิวของแจกเปิดเทอมโรงเรียนที่ญี่ปุ่น..ของแต่ละชิ้นนั้นคิดมาดีแล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่