ผู้คนแห่งยุคสมัย(เรื่องสั้น)
เรื่อง...ผู้คนแห่งยุคสมัย
โดย...ทินภัทร สำเร็จงาน
******************************************************
ผู้เป็นสามีวางก้นแหมะลงบนเก้าอี้ มองหน้าภรรยาและลูกสาวซึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ลูกสาววัยสิบห้าก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือ
กับข้าวบนโต๊ะมีสามอย่าง แกงส้มหน่อไม้ แกงจืดผักตำลึง และไข่เจียวหมูสับ
“กินได้แล้วลูก” ผู้เป็นพ่อว่า
“นั่นสิ เอาแต่เล่นโทรศัพท์” ผู้เป็นแม่เสริม
“แม่ก็เหมือนกันนั่นแหละ เล่นแต่หวย” ปากพูด แต่สายตายังไม่ละจากจอ
ผู้เป็นพ่อถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเริ่มตักแกง และปลุกปล้ำกับอาหารเย็น
“พ่อว่าเราต้องคุยกันอย่างเป็นงานเป็นการเสียแล้ว” ตักข้าวได้ไม่กี่คำผู้เป็นพ่อก็เริ่มเปิดประเด็น
“อะไรอีกละพ่อ” ลูกสาวว่า ยังไม่สนใจอาหารอยู่ดี
“ก็เรื่องที่ลูกเอาแต่เล่นโทรศัพท์ เที่ยวเตร่ ไม่สนใจการเรียนน่ะซี จะอะไรเล่า”
“หนูเคยบอกพ่อหลายครั้งแล้ว”
“บอกว่าไง”
“ยังไม่ถึงเวลาที่หนูจะต้องเอาจริงเอาจังกับการเรียน หนูยังเด็กอยู่”
“แล้วเมื่อไรลูกจะสนใจเรียนล่ะ นี่ก็มอสามมอสี่แล้ว”
เด็กสาวนิ่งเงียบ ผู้เป็นแม่ซึ่งกำลังเล็มไข่เจียว แทรกขึ้น
“พ่อลูกคู่นี้จริงๆ เลย มีเรื่องทุกครั้งที่ร่วมโต๊ะอาหารเย็น”
“ก็ดูมันซีแม่ วันๆ ทำอะไรบ้าง เรียนก็ไม่สนใจ โตขึ้นมันจะทำอะไรกิน บ้านเราไม่ใช่คนรวยเหมือนคนอื่นเขา งานของพ่อก็ใช่ว่าจะได้เงินเดือนเยอะแยะ ใช้เดือนชนเดือนแม่ก็รู้”
“นั่นไง เรื่องเดิมๆ วู้” ลูกสาวเงยหน้ามองพ่อเป็นครั้งแรก มิหนำซ้ำยังแลบลิ้นปลิ้นตาเสีย อีกด้วย
“ยังทะลึ่งอีกแน่ะ”
“เปล่าทะลึ่งนะพ่อ หนูถามหน่อยเถอะ ตอนพ่ออายุสิบห้าพ่อทำอะไรอยู่”
ผู้เป็นพ่อสะดุ้งเฮือก พลางย้อนทบทวนเข้าไปในอดีตของตัวเอง
“หนีเรียน”
“ว่าแล้ว” ลูกสาวได้ทีขี่แพะไล่
ผู้เป็นแม่หัวเราะคิกคัก
“แล้วแม่ล่ะ”
“หนีตามหนุ่มน้อยที่หนีเรียน” แม่ว่าหน้าตาเฉย
“ใครล่ะ”
“ก็พ่อแกนี่ไง” ว่าแล้วก็หัวร่องอหาย
ผู้เป็นพ่อไม่นึกสนุกด้วย ใบหน้าแดงก่ำ
“นั่นมันหลายปีมาแล้วนะลูก เมื่อก่อนเหมือนเดี๋ยวนี้ที่ไหนล่ะ”
“ไม่ต่างกันนักหรอกพ่อ พ่อแม่มักพูดว่า เด็กสมัยนี้ไม่เหมือนเด็กสมัยก่อน แต่หนูว่าเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่สมัยของพ่อไม่มีโทรศัพท์มือถือให้เล่นเหมือนสมัยนี้ ความซุกซนเกเร ไม่ว่ายุคไหน ก็เหมือนกัน”
“เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ” ผู้เป็นแม่ว่ายิ้มๆ
“ยังไงพ่อก็หาเลี้ยงลูกเมียได้ก็แล้วกัน”
“พ่อทำงานจริงๆ จังๆ ตอนอายุเท่าไร”
“สามสิบ”
“แม่ล่ะ”
“ไม่ทำ ให้พ่อแกเลี้ยง” ผู้เป็นแม่ลอยหน้าลอยตาพูด ขณะที่ผู้เป็นพ่อควันกำลังออกหู
“นั่นไงล่ะ พ่อเริ่มต้นทำงานจริงจังตอนอายุสามสิบ หนูยังมีเวลาอีกตั้งสิบห้าปีในการที่จะเรียนและหางานทำ ถ้าโชคดีแบบแม่ก็ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยยาก รอผู้ชายหาเลี้ยง ใช่มั้ยแม่” ว่าแล้วลูกสาวตัวดีก็ลุกจากเก้าอี้ วิ่งตึ๊กๆ ขึ้นบันไดไป
“ยังไงก็อย่าให้มันหนีตามไอ้หนุ่มไปนะ” ผู้เป็นพ่อรำพึงพลางส่ายหน้าไปมา
“พ่อว่าไงนะ แม่ฟังไม่ถนัด พูดใหม่สิ”
ผู้เป็นสามีได้แต่ยิ้มกระเรี่ยกระราดให้ภรรยาคู่ชีวิต
**************************************************