เพื่อนกันจนวันตาย(เรื่องสั้น)
เรื่อง...เพื่อนกันจนวันตาย
โดย...ทินภัทร สำเร็จงาน
...............................................................................................................................................
๑
ผมมีเพื่อนเป็นเ...้ย
บ้านที่ผมเช่าอยู่นั้นมีห้องทั้งหมดสิบเจ็ดห้อง เป็นห้องปูนชั้นเดียวติดพื้นเรียงยาวเป็นรูปตัวแอล ผมเช่าอยู่ห้องท้ายสุดคือห้องหมายเลขสิบเจ็ด ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในสวนมะพร้าวและสวนกล้วย มีร่องน้ำล้อมรอบห้องเช่าของผม เจ้าของห้องเช่าเป็นนายทหารนอกราชการที่ทำกิจการห้องเช่าเพราะไม่มีอะไรจะทำ เจ้าของห้องเช่าจะคัดคนเข้าอยู่ว่าเป็นใครมาจากไหน ต้องมีหลักมีฐานมิใช่คนเกกมะเหรกเกเร หรือพวกติดยา โดยเฉพาะชาวต่างด้าว ลาว เขมร พม่า เจ้าของห้องปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
วันที่ผมเดินหาบ้านเช่าแม่ค้าข้าวแกงชี้มือให้ไปยังบ้านหลังสีฟ้าหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ติดคลองประปา แกบอกว่าไม่แนะนำให้ไปหาบ้านเช่าอื่นในละแวกนี้ เพราะมีชาวต่างด้าวและพวกขี้ยาอยู่กันเยอะ มีห้องโดนงัดแงะอยู่บ่อยครั้ง ไปหาบ้านหลังสีฟ้าน่าจะดีกว่า เจ้าของห้องเช่าคัดเลือกผู้เช่าราวกับสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานเลยทีเดียว
จริงอย่างแม่ค้าข้าวแกงว่า ป้าบัวภรรยาเจ้าของห้องเช่าแนะนำตัวเอง และสอบถามถึงหน้าที่การงาน ผมซึ่งอายุต้นสี่สิบและประกอบอาชีพรับราชการก็บอกความจริง ที่ต้องหาห้องเช่าเนื่องจากเพิ่งย้ายตามหน้าที่ราชการมาที่จังหวัดนนทบุรีแห่งนี้ สีหน้าท่าทางของป้าบัวมีความพึงพอใจ แกพาเดินดูห้องที่ว่างอยู่สองห้อง ห้องหมายเลขเจ็ดและห้องท้ายสุดหมายเลขสิบเจ็ด ผมเป็นคนที่ไม่ชอบความอึดอัด ถ้าเลือกห้องหมายเลขเจ็ดทางซ้ายมือก็ห้องหมายเลขหก ทางด้านขวามือก็หมายเลขแปด ทำอะไรคงไม่ถนัดนัก
ห้องหมายเลขสิบเจ็ดเป็นห้องท้ายสุดที่ติดร่องน้ำและร่มครึ้มด้วยป่ากล้วยและต้นไม้หลากพันธุ์ที่ผมก็ไม่สันทัดเรื่องชื่อของมัน ที่ร่องน้ำขนาดคนกระโดดข้ามได้เจ้าของห้องเช่าได้ลงปลาไว้จำนวนมาก มีปลาหลายขนาด ได้ยินมันผุดตีน้ำเล่นเกือบทั้งวันทั้งคืน และตรงนี้เองเจ้าของห้องเช่าจะนำอาหารมาเทลงไปในร่องน้ำเพื่อให้ปลา
จากถนนใหญ่เขตอำเภอเมืองนนทบุรี เดินด้วยเท้าประมาณห้าร้อยเมตรก็ต้องเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามคลองประปาน้ำสีดำคล้ำ เห็นบ้านหลังสีฟ้าใหญ่โตอยู่เบื้องหน้า จากนั้นก็เดินอ้อมไปทางหลัง มีบ้านไม้อยู่ซ้ายมือหนึ่งหลัง ขวามืออีกหนึ่งหลัง เลยไปก็จะพบห้องเช่ายาวเหยียดเป็นรูปตัวแอล นับจากห้องที่หนึ่งถึงห้องที่สิบเจ็ด
ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างส่วนราชการที่ผมทำงานอยู่ เห็นหน้าก็ยิ้มให้กันเล็กน้อยพอเป็นพิธี จากสำเนียงการพูดคุยก็รู้ว่ามาจากหลายภาคของประเทศนี้ ห้องหมายเลขที่สิบหกซึ่งติดกับห้องผมนั้นผู้เช่าเป็นหญิงสาวหน้าตาดีทำงานเป็นลูกจ้างที่ผมทำงานอยู่เช่นกัน แต่ผมก็ไม่ค่อยพบหน้าหล่อนนัก ถึงแม้หล่อนจะอยู่ในห้องก็ไม่เคยได้ยินเสียงทีวีหรือเสียงคุยโทรศัพท์จากห้องนี้
เลยออกไปจากห้องเช่ายาวเหยียดทางด้านหลัง ถ้ากระโดดข้ามร่องน้ำไปก็จะเห็นบ้านไม้อีกสองหลัง ได้ยินแต่เสียงพูดคุยของผู้ชายสองสามคน ไม่เคยเห็นหน้า และที่พบเห็นบ่อยก็คือป้ารุ่นเดียวกับป้าบัว ผมเคยได้ยินผู้เช่าบางคนเรียกแกว่าป้าอร แกมักจะเดินผ่านหน้าห้องของผมนำอาหารไปให้ปลา ขณะที่ผมเดินเข้าหรือเดินออกจะเห็นป้าอรชวนคนโน้นคนนี้คุย ทั้งคนหนุ่มหรือคนแก่ ใครย้ายเข้าย้ายออกหรือใครทำอะไรป้าอรจะส่งข่าวให้ชุมชนผู้เช่าห้องรู้ แกเป็นนักกระจายข่าว และเป็นภาพชินตาของทุกคน
ห้องที่สิบห้ามีชายชราอยู่คนหนึ่ง แกมักจะเปิดประตูแง้มไว้ แต่ผมก็ไม่เคยมองเข้าไป ได้ยินแต่เสียงแกพูดคุยกับป้าอรตามประสาคนมีอายุ ถามสารทุกข์สุกดิบกันเป็นธรรมดา
ผมเป็นคนตื่นแต่เช้า เช้าแรกที่ห้องเช่าหมายเลขสิบเจ็ด ทำให้ผมแปลกใจและตกใจเล็กน้อย มีเสียงเหมือนคนเดินกุกกักอยู่หน้าห้องตอนหกโมงเช้า หลังจากนั้นคล้ายเสียงเคาะประตูห้อง ด้วยความที่มาอยู่ใหม่ผมจึงยังรีรอที่จะเปิดประตู ผมเปิดม่านหน้าต่างและมองลอดบานเกล็ดออกไป มันเป็นสัตว์สี่เท้าคล้ายจระเข้ ตวัดลิ้นเลียแผล็บๆ อยู่เกือบตลอดเวลา ตัวขนาดน้องๆ ลูกวัว มันสบตากับผมแว่บหนึ่งแล้วก็ผลุบหายลงไปในโพรงใต้พื้นคอนกรีต
นึกใจหายเล็กน้อย เกิดมาไม่เคยเผชิญหน้ากับสัตว์พันธุ์นี้ในระยะสามก้าวถึง ปิดม่านแล้วก็คิดไพล่ไปถึงคำร่ำลือต่างๆ นานา ว่าสัตว์ประเภทนี้จะนำมาซึ่งความโชคร้ายและหายนะล่มจม เป็นสัตว์อัปมงคล ยังดีที่ผมไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ หากเป็นคนที่ถือเรื่องโชคลางคงย้ายออกเพียงวันแรกนี้
มันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว ผมสังเกตเห็นทีละตัวสองตัวที่ขนาดไม่เท่ากัน บางวันตัวเท่าจิ้งเหลน บางวันตัวเท่าสุนัข แสดงว่าสวนกลางเมืองแห่งนี้เป็นบ้านของพวกมัน มีลูกหลานของพวกมันอยู่เต็มพื้นที่
ผมอยู่กับมันโดยถือว่ามันเป็นเพื่อนบ้านที่ต้องเจอะเจอหน้ากันทุกวัน ไม่เช้าก็ค่ำ กลายเป็นความคุ้นชินสำหรับผมไปแล้ว ถ้าวันไหนไม่เจอมันสักตัวนั่นแหละผมจะรู้สึกขาดอะไรไปสักอย่าง บางวันผมก็เอาซี่โครงไก่ทอดวางทิ้งไว้หน้าห้องด้วย
...........................................................................
๒
วันแรกที่เข้าทำงานแห่งใหม่ ผมเข้ารายงานตัวตามธรรมเนียมปฏิบัติกับผู้อำนวยการ ท่านบอกว่ายินดีต้อนรับและขอให้ช่วยกันทำงานเต็มที่ กองที่ผมสังกัดอยู่เป็นกองที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของอธิบดี บางครั้งต้องทำงานดึกดื่น งานลับ งานฉุกเฉิน งานเร่งด่วน มีเข้ามาอย่างไม่มีวันหยุด คงเหนื่อยแต่ก็มีความภาคภูมิใจ
ผมได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ทำงานด้านธุรการ ประจำฝ่ายบริหารทั่วไป ซึ่งวันๆ จะมีหนังสือเข้าออกมากมากหลายเรื่อง ซึ่งก็ไม่ทำความหนักใจให้กับผมนัก ผมเคยผ่านงานด้านหนังสือมาบ้างแล้ว พิมพ์หนังสือก็อยู่ในระดับใช้ได้ งานเสร็จตามกำหนดและไม่มีงานคั่งค้างให้เจ้านายลำบากใจ
สิ่งแรกที่ผมต้องทำคือการเชื่อมความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน กองในที่ทำงานมีสี่ฝ่าย แต่ละฝ่ายก็มีเจ้าหน้าที่ไม่เกินฝ่ายละห้าคน ทั้งกองมีผู้หญิงสามคนที่เหลือเป็นชาย งานที่ปฏิบัติเป็นงานที่บางครั้งต้องเดินทางไกล และต้องผจญภัยบ้างตามหน้าที่ราชการ
เพื่อนร่วมงานมีหลายประเภท คนขยัน คนขี้เกียจ คนเห็นแก่ตัว คนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผมเป็นคนเข้ากับคนง่าย เจอคนพูดมากผมก็พูดน้อย เจอคนเสียงดังผมก็ไม่ตกใจ เจอคนเมาก็เมาด้วยอย่างมีสติ
เที่ยงวันแรกที่ปฏิบัติงาน ผู้อำนวยการนำเจ้าหน้าที่ทั้งกองไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารข้างนอก นัยว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่ที่ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ใหม่ อาหารเต็มโต๊ะ ทานไปด้วยคุยไปด้วยอย่างออกรส และมื้อเที่ยงนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เขาบอกว่าชื่อสมศักดิ์ ปฏิบัติงานที่นี่ตั้งแต่บรรจุเข้าทำงาน ไม่เคยย้ายไปจังหวัดไหน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม
“เพื่อนขอบุหรี่มวน” เมื่อเห็นผมหลบออกมาจากโต๊ะอาหาร และยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องน้ำเขาก็ตามออกมาพร้อมกับยื่นมือ ผมยื่นซองบุหรี่ให้ เขาดึงไปสองมวน มวนหนึ่งยัดใส่ปาก อีกมวนใส่กระเป๋า
“ยืมไฟแช๊กด้วยเพื่อน” ผมยื่นไฟแช็กให้
ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานเกิดขึ้นอย่างง่ายดายและรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ติด เขาทำงานอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง โต๊ะทำงานอยู่ห่างโต๊ะของผมไปห้าโต๊ะ วันๆ ไม่เห็นเขาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มองไปทีไรก็เห็นเขาง่วนอยู่กับคอมพิวเตอร์ แต่ก็ไม่เห็นปริ้นท์งานออกมาสักแผ่นเดียว
ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนร่วมงานผู้หญิงก็บอกว่า เขาพิมพ์ไม่ได้ ร่างหนังสือไม่เป็น เดินหนังสือก็ไม่คล่องเนื่องจากตัวอ้วนใหญ่เดินเหินไม่สะดวก กองนี้อยู่ถึงชั้นเจ็ด ถ้าเดินหนังสือทั้งเจ็ดชั้นอาจทำให้เกิดอันตรายได้ แต่ที่ต้องให้เขาทำงานอยู่ในกองนี้เป็นเพราะกองอื่นๆ ปฏิเสธเขา และผู้อำนวยการได้ถูกฝากจากผู้ใหญ่ให้ดูแลเขาด้วย เขาเป็นลูกชายของอดีตอธิบดีคนหนึ่ง เขาจึงสิงอยู่ที่กองนี้เรื่อยมา
นานวันเข้าผมก็สังเกตเห็นความเป็นไปของสมศักดิ์ เขาจะเข้าที่ทำงานหลังเพื่อน เวลาประมาณเก้าโมงเศษเขาก็จะโผเผเข้ามาพร้อมกับกลิ่นเหล้าคลุ้ง ตกบ่ายสามโมงเขาก็จะโขยกเขยกออกไปก่อนใครเพื่อน ไม่บอกกล่าวใคร ไปไหนไม่รู้ บางวันหายไปตั้งแต่เที่ยงเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน เหมือนดูหนังเรื่องเดิม ฟังเพลงเดิมซ้ำซาก
“ยืมตังค์สองพันเพื่อน” วันเงินเดือนออกสมศักดิ์ก็ดึงแขนผมและขอยืมเงินดื้อๆ เมื่อเห็นผมทำท่างงๆ เขาก็บอกว่ารถที่เขาขับมาทำงานมีปัญหาระบบแก๊ส เงินที่มีไม่พอ ขอยืมก่อนเดี๋ยวจะใช้คืน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้ยาวนานต่อเนื่องผมก็ให้เขายืม หลังจากนั้นเขาก็ยืมเงินผมอยู่บ่อยๆ มากบ้างน้อยบ้างตามสถานการณ์ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาโกหก ทว่าผมก็ใจอ่อนทุกที จากเรื่องซ่อมรถก็มีเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ค่าซ่อมบ้าน ค่าเทอมลูก ค่าจิปาถะ และผมก็ยังไม่ได้เงินคืนสักบาทเดียว
“คุณไม่รู้จักเขาอีกหรือ โดนกันทุกคนแล้ว อย่าหวังจะได้คืน” เพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนเดิมบอก
รู้ตัวก็สายเสียแล้ว ผมไม่เคยเห็นเพื่อนร่วมงานคุยกับเขา ไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว นี่กระมังสมศักดิ์จึงเข้ามาหาผมและผมก็กลายเป็นเหยื่อของเขาอีกคน ทุกคนในห้องนี้ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน เพื่อนผู้หญิงย้ำอีกว่าเงินที่ยืมไปน่ะเขาไปเที่ยวและดื่มเหล้า ไม่ได้นำไปใช้จ่ายตามที่เขาอ้างหรอก ทำให้ผมถึงกับอึ้งและคิดหาทางออก
..................................................
๓
เย็นวันนั้นผมรู้สึกแปลกใจ เมื่อต้นไม้นานาพันธุ์ที่เคยร่มครึ้มบดบังแสงแดด บัดนี้เจ้าของห้องเช่าได้จ้างเด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ สองสามคนตัดโค่นและถากถางออกจนเตียนโล่งภายในวันเดียว เหลือไว้เพียงต้นกล้วยและมะพร้าว
อากาศที่เคยเย็นสบายไม่ต้องเปิดพัดลมกลับอบอ้าวจนผมรู้สึกอึดอัด นอนพลิกตัวไปมากระสับกระส่าย นับจากวันนั้นผมไม่เคยเห็นสัตว์เลื้อยคลานสี่เท้าพวกนั้นแม้แต่ตัวเดียว นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าพวกมันหายไปไหน อย่างน้อยน่าจะเหลือสักตัวสองตัว ไม่มีเสียงกุกกักเดินผ่านและเสียงเคาะประตูยามเช้าอีกแล้ว
เพียงแค่ข้ามวันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันและโลกได้เลย หากเราประมาทในการดำเนินชีวิตแค่นิดเดียวชีวิตทั้งชีวิตก็เปลี่ยน
มีผู้เช่าหลายคนบอกคืนห้อง หญิงสาวห้องที่สิบหกย้ายออกไปแล้ว ชายชราห้องที่สิบห้าเงียบเสียง และไม่เปิดประตูห้องค้างไว้อีก ป้าอรที่เคยชวนคนโน้นคุยคนนี้คุยก็เงียบไปเฉยๆ ผมเห็นแกเดินงกๆ เงิ่นๆ โดยไม่สนใจใครอีก
ทุกครั้งที่เดินผ่านบ้านหลังใหญ่ผมได้ยินป้าบัวเจ้าของห้องเช่าบ่นกระปอดกระแปดว่ามีแต่คนย้ายออกไม่มีคนย้ายเข้า ห้องว่างเป็นสิบห้อง รายได้ประจำเดือนหดหายไปหลายหมื่น
สังคมห้องเช่าในสวนกลางเมืองแห่งนี้วังเวงสิ้นดี
......................................................................
๔
สมศักดิ์หายไปหลายวันแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ไม่มีการยื่นใบลา ไม่มีการติดต่อทางโทรศัพท์ สอบถามไปที่บ้านภรรยาของเขาก็บอกว่าสมศักดิ์แต่งตัวออกบ้านแต่เช้ามืดและกลับเข้าบ้านดึกดื่นทุกวัน หล่อนบอกว่าเขาไม่เคยลางานหรือขาดงาน เขาเป็นคนขยันและไม่ทอดทิ้งครอบครัว ผู้อำนวยการถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง และให้ผมปฏิบัติหน้าที่ควบสองฝาย ทั้งฝ่ายบริหารทั่วไปเดิมและฝ่ายของสมศักดิ์ที่ว่างอยู่
ยังมีเพื่อนร่วมงานประเภทนี้ในประเทศนี้อีกกี่คนกันหนอ ประเทศนี้ใช้งบประมาณสักเท่าไรสำหรับเลี้ยงดูคนแบบนี้ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย หากผู้อำนวยการทำอะไรลงไปอาจโดนสั่งย้ายได้ง่ายๆ แต่ถ้าไม่รายงานผู้บังคับบัญชาที่สูงขึ้นไปก็จะกลายเป็นความผิดอีก ผิดทั้งขึ้นทั้งล่อง
ผู้อำนวยการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทั้งกอง เพื่อนในที่ทำงานต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ส่วนใหญ่จะเห็นไปในทางเดียวกันว่าควรรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงตามหน้าที่ มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าพ่อของสมศักดิ์ซึ่งเป็นอดีตอธิบดีเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับนักการเมืองคนดังคนหนึ่ง และขณะนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเสียด้วย หากทำอะไรลงไปอาจโดนสั่งย้ายทั้งกอง ได้ยินแค่นั้นผู้อำนวยการก็แทบร้องไห้
....................................................................
๕
ฝนกลางฤดูตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาติดต่อกันหลายวัน พอฟ้าเปิดป่าไม้ใบหญ้าในสวนกลางเมืองที่ถูกตัดโค่นได้กลับมามีชีวิตร่มครึ้มอีกครั้งหนึ่ง ความเย็นชื้นปกคลุมไปทั่วชุมชนห้องเช่า ห้องเช่าถูกเช่าเต็มทุกห้อง ป้าอรกลับมาพูดจาส่งข่าวเช่นเคย ชายชราห้องที่สิบห้าเปิดประตูค้างไว้อีกแล้ว
พวกมัน-สัตว์สี่เท้าเพื่อนของผมกลับมาในเย็นวันหนึ่ง มันมาพร้อมกับสมศักดิ์เพื่อนร่วมงานของผม ต่างกันแต่ว่าสมศักดิ์มีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลมายืนยันว่าเขานอนป่วยอยู่โรงพยาบาลจริงๆ ไม่ได้ทิ้งงานหนีหายไปไหน ผู้อำนวยการไม่สามารถดำเนินการทางวินัยกับเขาได้เลย
ผมอยากจะถามเพื่อนสี่เท้าของผมเหลือเกินว่าระหว่างที่ต้นไม้ในสวนนี้ถูกตัดโค่น พวกมันไปนอนอยู่โรงพยาบาลสัตว์ที่ไหนหรือเปล่า แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ เห็นมันแลบลิ้นแผล็บๆ ทักทายก็ใจอ่อน รับมันกลับมาเป็นเพื่อนแต่โดยดี
เรื่องคงจะจบลงแค่นี้ ถ้าหากว่าคืนต่อมาสมศักดิ์ไม่ถูกยิงตายในร้านคาราโอเกะ แห่งหนึ่ง พอทราบข่าวนี้ผมรีบออกไปซื้อซี่โครงไก่ทอดมาห้าตัว หวังว่าเพื่อนสีขาผิวหนังตะปุ่มตะป่ำจะอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า
..........................................................................
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
เลขเด็ด "มหาทักษา" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..ส่องด่วนเลย!
"พญาบึ้ง" จ.อ่างทอง คัดเลขเด็ดเน้นๆ ลุ้นโชคงวด 2/1/69
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
นักร้องเคป็อประดับตำนานเผย "ผมไม่ค่อยชอบเพลงฮิตอย่าง APT ของโรเซ่"
Body Gratitude การกล่าวขอบคุณร่างกาย ที่ให้เราได้ใช้ร่างกายในการดำเนินชีวิต โดยไม่ได้จำกัดแค่ความงาม เพื่อลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น
ไอ้ด่างคลองบางมุด จระเข้กินคนที่ใหญ่ที่สุด
อ.เฉลิมชัย ออกโรงยับยั้งกลางดึก หลังผลงานในวัดถูกทุบทำลาย หวิดสูญสิ้นมรดกศิลป์ของแผ่นดิน
ชีวิตที่แตกต่างในทางความรู้สึก แม้ว่าเรานั้นจะอยู่ในแผ่นดินแผ่นเดียวกัน
ท้องฟ้า สายน้ำและอาคารปราสาท ต่างรอแสงแห่งวัน (เวียงจันทน์ ประเทศลาว)