หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หลอน(เรื่องสั้น)

เนื้อหาโดย ทินภัทร สำเร็จงาน

เรื่อง...หลอน

โดย...ทินภัทร  สำเร็จงาน

...............................................................................................................................................

 

          สาวิตรีสะดุ้งตื่นเพราะเสียงรัวเคาะประตูห้อง  อันที่จริงหล่อนไม่ได้หลับด้วยซ้ำ  อาการหลับๆ ตื่นๆ มีตลอดทั้งคืน  หญิงสาวมีอาการหวาดผวาตั้งแต่เริ่มเข้ามาในเมืองนี้                  ดูเหมือนกลิ่นอายของความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกระจายครอบคลุมทุกพื้นที่  ออกจากโรงแรมไปไหนมาไหนหล่อนต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม  แล้วใครกันที่มาปลุกหล่อนดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้

          เสียงเคาะประตูหยุดลง  มีเสียงฝีเท้าเดินไปมาหน้าห้องอย่างลุกลี้ลุกลน  สาวิตรสลัดผ้าห่มออกจากตัว  เท้าเปลือยเปล่าย่ำไปบนพรมพื้นห้อง  หล่อนรู้สึกเย็นเฉียบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  ขณะเคลื่อนไหวร่างกายหูก็ผึ่งฟังสรรพเสียงต่างๆ  หัวใจเต้นระทึก  หล่อนพยายามนึกถึงอาวุธที่พอจะป้องกันตัวเองได้  ไม่มีเลย  หล่อนไม่ชอบพกอาวุธอะไรทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็นปืน มีด  หรือแม้แต่สเปรย์พริกไทย  หล่อนเคยคิดว่าใครก็ตามเมื่อมีอาวุธใกล้มือชะตาชีวิตก็เท่ากับแขวนไว้บนเส้นด้าย  ไม่เป็นพระเอกก็เป็นผู้ร้ายในเวลาเดียวกัน  ดูอย่างตำรวจหรือทหารซึ่งมีอาวุธประจำกายนั่นปะไร  มีอารมณ์โกรธขึ้นมาคราวใดก็มีการตายหรือไม่ก็ติดคุกคราวนั้น

          เสียงฝีเท้าแผ่วหายไปแล้ว  สงสัยผู้ประสงค์ร้ายจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะบุกเข้ามาภายในห้องพักของหล่อน  หรือบางทีเขาอาจจะออกไปหาเครื่องไม้เครื่องมือพังประตูห้องเข้ามา  ทำไมสาวิตรีจึงคิดว่าเป็นผู้ชายที่จะเข้ามาทำร้ายหล่อน  ไม่ใช่เพียงแค่คิดหรอก  หล่อนแน่ใจด้วยซ้ำไป  ถึงแม้หล่อนจะเป็นคนต่างถิ่นแต่ร่างกายของหล่อนแข็งแรง  มีความสูงใหญ่คล้ายผู้ชายอกสามศอก  มิหนำซ้ำหล่อนยังชอบออกกำลังกายอีกด้วย  ดังนั้น  ไม่มีผู้หญิงหน้าไหนจะสู้พละกำลังของหล่อนได้  หากแต่ถ้าเป็นผู้ชายหล่อนต้องยอมแพ้

          สาวิตรีไม่กล้าเปิดไฟภายในห้อง  หล่อนเดินเปะปะชนโน่นชนนี่  เมื่อเสียงรบกวนนอกห้องหายไปหล่อนจึงโล่งอกและนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเตียงอยู่อย่างนั้น 

          เวลาผ่านไปนานเท่าใดหล่อนไม่รับรู้  เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงดังขึ้น  หล่อนมองมันด้วยใจระทึก  โทรศัพท์ดังยาวนานโดยที่สาวิตรีไม่คิดที่จะรับ  ปล่อยให้มันเงียบเสียงไปเอง

...........................................

 

 

          สาวิตรีเป็นพนักงานของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  หน้าที่การงานของหล่อนทำให้ต้องตระเวนไปทั่วประเทศ  บางครั้งก็เดินทางกันเป็นหมู่คณะ  บางครั้งเดินทางตัวคนเดียว

          หล่อนยังเป็นโสด  อายุสามสิบแล้ว  ยังรู้สึกสนุกกับงานที่ทำ  ไม่เคยคิดจะมีข้อผูกพันกับชายหน้าไหนทั้งสิ้น  เคยคบหากับผู้ชายสามสี่คน  แต่ก็ไปไม่ตลอดรอดฝั่ง  พวกเขาว่าหล่อนเป็นคนบ้างานมากกว่าสิ่งใดทั้งหมด  สุดท้ายเหล่าผู้ชายใจร้อนก็หายไปทีละคนสองคน

          หล่อนไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาแต่ประการใด  การเดินทาง  การท่องไปกับงาน  การออกกำลังให้เหนื่อย  ทำให้หล่อนหลุดพ้นจากความเศร้าหมองและคลายความคิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องลงได้

          แม่เคยบอกหล่อนว่า  เมื่อยังมีเรี่ยวแรงอยู่ก็รีบทำ  นั่นแหละหล่อนจึงมุมานะเพื่อให้ถึงจุดหมาย  ซึ่งคนแต่ละคนมีจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนกัน  หล่อนต้องการเพียงให้พ่อแม่สบายใจและมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่  หล่อนดูแลพ่อแม่และคนใกล้ชิดอย่างเอาใจใส่  ถึงแม้จะไม่ค่อยได้พบหน้าค่าตากัน  สาวิตรีโทรศัพท์กลับบ้านทุกวัน  ส่งเสียเงินทองทุกเดือน  หล่อนรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำอย่างนี้  หล่อนใช้ชีวิตอยู่ในเกือบทุกจังหวัดของประเทศ  ความเชื่อมั่นในตนเองจึงมีเต็มเปี่ยม

..................................................................

          ความเชื่อมั่นของสาวิตรีเริ่มหดหายเมื่อลงจากเครื่องบินยังเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้       ข่าวหนังสือพิมพ์บนเครื่องบินที่หล่อนเผอิญอ่านเพื่อฆ่าเวลานั้น  ทำให้หล่อนรู้สึกวิตกกังวลและใจสั่นพิกล  หนังสือพิมพ์หัวสีรายงานว่าในรอบสามเดือนที่ผ่านมาเมืองแห่งนี้มีคดีเกี่ยวกับความผิดทางเพศรวมทั้งที่จับได้และจับไม่ได้ถึงยี่สิบคดี  อนาจาร  ข่มขืน  ข่มขืนแล้วฆ่า       รายล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนนี้เอง

          ด้านหน้าสนามบินหล่อนเรียกรถรับจ้างให้มาส่งที่โรงแรม  ซึ่งทางบริษัทจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าไว้แล้ว  หญิงสาวไม่ควรกังวลกับเรื่องที่พัก  เพราะเคยพักที่โรงแรมแห่งนี้มาหลายครั้งหลายครา  ครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้วนี่เอง  แต่ครั้งนั้นไม่มีข่าวข่มขืนถี่ยิบเหมือนช่วงเวลานี้

          คนขับรถรับจ้างร่างใหญ่โตกำยำ  ใบหน้าดุดันคล้ายผู้ร้ายในหนังฮอลลีวูด  น้ำเสียงและแววตาของเขาทำให้สาวิตรีถึงกับสะดุ้ง  หล่อนนั่งขวัญผวาจนถึงโรงแรมเลยทีเดียว

          เมื่อเช็คอินเรียบร้อยหล่อนก็เข้าไปในห้อง  ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม  แต่ก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้  ข่าวหนังสือพิมพ์ยังรบกวนจิตใจหล่อนอยู่ตลอดเวลา  สาวิตรีจึงเปลี่ยนชุดออกกำลังกาย  ห้องฟิตเนสอยู่ที่ชั้นสอง  หล่อนเสียเหงื่อให้กับอุปกรณ์ออกกำลังกายเกือบสองชั่วโมง  ภายในห้องออกกำลังกายสาวิตรีสังเกตเห็นชายวัยประมาณยี่สิบปลายคนหนึ่งจ้องมองหล่อนไม่วางตา  หล่อนรู้สึกอึดอัดและวิตกกังวลจึงพาร่างโชกเหงื่อหนีจากสายตาคู่นั้น

          ..............................................................

 

          หล่อนขวัญกระเจิงอีกครั้งเพราะเสียงทุบประตูที่รุนแรงกว่าเดิม  สาวิตรีมองซ้ายมองขวาแล้วคลำสะเปะสะปะไปคว้าได้กางเกงและเสื้อสำหรับออกไปข้างนอก  รีบสวมใส่อย่างรวดเร็ว  หล่อนจะไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่งให้ใครข่มเหงได้ง่ายๆ

          เปิดบานหน้าต่างเตรียมพร้อม  สายลมพรูเข้ามาภายในห้อง  ห้องของหล่อนอยู่ที่ชั้นสาม  ร่างกายหล่อนแข็งแรงทุกกระเบียดนิ้ว  หากปีนลงไปด้วยความระมัดระวังคงไม่มีอันตรายใดๆ

          เสียงทุบประตูดังขึ้นอีก  พร้อมกันนั้นเสียงหมุนลูกบิดก็รัวเร็ว จากนั้นก็มีเสียงสอดลูกกุญแจ สาวิตรีตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว  หล่อนล้มเลิกแผนการพบปะลูกค้าสามรายในวันนี้      หล่อนปีนออกนอกหน้าต่างห้องอย่างรวดเร็ว

          ...................................................................

 

          “ผมไปเคาะห้องปลุกเธอตอนตีสี่ครึ่ง  แต่ก็ไม่เห็นเธอโผล่ออกมา  โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย  พอตอนตีห้าก็กลับไปเคาะห้องอีกครั้ง  ครั้งนี้นานกว่าเดิม  ผมคิดว่าเธอคงไม่สบายจึงใช้กุญแจสำรองไขเปิดห้อง  พอประตูเปิดผลัวะออก  ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่นจากตึก    ผมไม่รู้นี่  ก็คุณสาวิตรีนัดรถโรงแรมให้ไปส่งตอนหกโมงเช้าที่ท่าเรือข้ามเกาะ  เรือข้ามเกาะเที่ยวแรกมีตอนหกโมงเช้า  ถ้าไม่ปลุกตีสี่ตีห้าแล้วจะปลุกตอนไหน  ผู้หญิงต้องแต่งเนื้อแต่งตัว  โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องพบปะผู้คนอย่างคุณสาวิตรี  ผมว่าเธอคงลืมเรื่องที่ขอให้ทางโรงแรมปลุก” พนักงานโรงแรมคนหนึ่งให้การกับพนักงานสอบสวน

            .................................................

            ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน หากผู้คนในสังคมยังจดจำได้ มีข่าวสยองขวัญขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ  และทางโทรทัศน์ทุกช่องว่า  “หนุ่มใหญ่ถูกฆ่าหมกอยู่ในโรงแรมม่านรูด คนร้ายวิตถารได้ตัดอวัยวะเพศของผู้ตายไปด้วย” 

          เรื่องราวผ่านไปนานแล้ว  เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้  จะมีใครเชื่อบ้างว่าสาวิตรีเป็นฆาตกร

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อยเพื่อน "ออกัส" ซัดแหลก..พระเอกดังต่างหาก ถูกข่มขู่ให้กราบเท้า!!ชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?เกมพลิก!! เมื่อหนุ่ม ๆ เเอบเเม่ไปหาปลา เกือบโดนด่า เเต่พอเห็นลูกได้ปลาตัวใหญ่กลับบ้าน เสียงเปลี่ยนทันทีเลยนะเเม่คนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้งiPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!นกอันตรายที่สุดในโลก5 วิธีใช้แอร์ผิดๆ ที่ทำให้เปลืองไฟและแอร์พังเร็ว!ส่องแฟชั่น "ผีฮ่องกง" เหตุดราม่าสาวไทยไปเที่ยวแล้วถ่ายเซลฟี่ ติดผียิ้มข้างหัวในภาพ!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"เขมรแสบ! นำภาพเก่าสถานท่องเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยกองขยะมาเล่นไทย?torment: ทรมาน ระทมทุกข์อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ"Colosseum" โคลอสเซียม ณ อิตาลี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"ชาวเน็ตท้าหนุ่มกินกาแฟทุกยี่ห้อ..ไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาจะรับคำท้าสาวสงสัยว่าบ้าน หรือร้านขายพัดลมกันแน่..เพราะเล่นติดถึง 14 ตัวทั่วบ้าน"วงกลมลึกลับ" โผล่เหนือน้ำ..บางหลุมมีปลาอยู่ มันคืออะไรกันแน่ ?
ตั้งกระทู้ใหม่