หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หยุดเวลาล่าความจริง(เรื่องสั้น)

เนื้อหาโดย ทินภัทร สำเร็จงาน

หยุดเวลาล่าความจริง

……………………………………………………………………………………………………

            พ่อกับแม่ของฟองเดินวุ่นวายอยู่ในห้องรับแขก  โดยมีผมนั่งมองห่างๆ  แอร์ฉ่ำเย็นภายในบ้านไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นอย่างไร  มันทั้งอึดอัดและร้อนรุ่มใจยิ่งนัก

          “แม่คิดว่าฟองไปกับนนท์เหมือนทุกครั้ง”  แม่ฟองหันมาพูดปากคอสั่น

          เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างไร้วี่แวว  ไม่มีกริ่งโทรศัพท์เพื่อส่งข่าว  ไม่มีเพื่อนของฟองโผล่หน้ามาเพื่อกู้สถานการณ์  อย่างน้อยพ่อกับแม่ของเธอจะได้มีความหวังขึ้นบ้าง

          “ฟองหายไปกี่โมงครับ”  ผมถาม

          พ่อฟองเดินมาหยุดตรงหน้าผม  ก่อนจะทรุดนั่งบนโซฟาเหมือนหมดเรี่ยวแรง  ดวงตาของแกแดงก่ำเศร้าสร้อย  แกเผยอริมฝีปากเล็กน้อย

          “หนึ่งทุ่มของศุกร์ที่แล้ว”  แกว่า

          “ไม่ได้สั่งอะไรไว้หรือครับ”  ผมถามอีก

          “บอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน  คงกลับไม่เกินเที่ยงคืน”  แม่ฟองตอบผม  หลังจากนั้นก็นั่งลงข้างๆ  ผู้เป็นสามี

          “แจ้งตำรวจหรือยังครับ”

          ทั้งคู่หันไปสบตากันสักครู่  เหมือนจะนึกอะไรได้  ผู้เป็นแม่จึงเอ่ยปาก

          “ไม่ได้หรอกนนท์  ฟองเป็นผู้ใหญ่แล้ว  เรียนจบปริญญาตรี  ทำงานดี  และเป็นคนมีความคิด  ฟองไม่เคยเถลไถลไปไหนไกลๆ  ที่ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตถึงตำรวจกลัวฟองจะเสียหน้าน่ะ  มันจะต้องมีอะไรตามมาอีกเยอะทีเดียว”

          “แต่นี่วันจันทร์แล้วนะครับ  ใช่ครับ...ฟองไม่ใช่คนเถลไถล  ตรงนี้แหละที่น่าสงสัย      เธออาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือเกิด...”

          “พอเถอะนนท์  พ่อกับแม่ยังไม่อยากคิดไปขนาดนั้น  เรายังรอฟองอยู่  ถ้าวันนี้ฟองไม่กลับมาพ่อจะแจ้งความ”

          ผมออกจากบ้านของฟองเมื่อเวลาบ่ายโมงเศษ  หัวสมองของผมหมุนติ้วเหมือนมีของหนักฝังอยู่ข้างใน  ฟองเป็นคนรักของผมมาหลายปีดีดัก  เราคบกันตั้งแต่เรียนอนุบาลก็ว่าได้  และเรามีโครงการจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  พอเรียนจบฟองก็เข้าทำงานกับบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง

          แม้ผมจะคบค้าสมาคมฉันท์คู่รักกับฟองมานาน  แต่ผมแทบไม่รู้เรื่องส่วนตัวของเธอเลย  ทุกคนมีเวลาเป็นของตัวเอง  ผมปล่อยให้เธอเป็นอิสระเต็มที่  คบเพื่อน  หรือจะไปเที่ยวแห่งหนตำบลใดผมไม่เคยว่า  พ่อแม่ของเธอก็คงเหมือนผม

          แต่ตามที่รู้มาจากเพื่อใกล้ชิดของฟอง  ฟองมีเพื่อนไม่กี่คน  ฉะนั้น  เวลาที่เธอเสียไปในแต่ละวันก็มีผม  พ่อแม่  และเพื่อนที่ทำงานแค่กระหยิบมือ

          ดาวคือเพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่งของฟอง  ดาวทำงานที่เดียวกับฟอง  เป็นเพื่อนร่วมงาน  เผลอๆ ก็ชวนกันไปเที่ยว  วันศุกร์ที่แล้วฟองไปเที่ยวกับดาวพร้อมกับเพื่อนอีกสี่ห้าคน

          ดาว  หญิงสาวหน้าตาดีนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับผม  หล่อนเป็นคนยิ้มเก่งและกิริยาก็สวยงาม  ในสายตาของผมเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจอีกคนหนึ่ง

          “เราแยกกันหน้าผับแห่งนั้นตอนห้าทุ่มครึ่ง”   ดาวเล่าให้ฟัง  “ฉันก็ตกใจเหมือนกันเมื่อพ่อของฟองโทรมาถามที่อพาร์ตเมนต์ตอนเช้าวันเสาร์”

          “ฟองกลับไปบ้านกับใคร  แล้วเธอบอกหรือเปล่าว่าจะไปไหนต่อหรือไม่”

          “ฟองกลับไปกับเพื่อนอีกสองคน  ผู้หญิงหนึ่งคนชายหนึ่งคน  ฟองไม่ได้บอกว่าจะไปต่อที่ไหน”  ดาวดูดน้ำส้มคั้นจนเหลือครึ่งแก้ว

          “เป็นไปได้หรือเปล่าที่เธอจะไปค้างที่บ้านเพื่อน”

          “มีทางเป็นไปได้ทั้งนั้นแหละค่ะ  แต่ยังไงเธอน่าจะติดต่อกับคุณมั่งนะ”  ดาวว่า

          “ฟองมักเป็นของเธออย่างนี้  ถ้าไปเที่ยวกับเพื่อนผมไม่มีโอกาสรู้หรอก  ผมเองก็ไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของเธอมาก  เดี๋ยวจะว่าไม่อิสระ  ดาวพอจะบอกชื่อเพื่อนสองคนนั้นได้มั้ย”

          ดาวบอกชื่อของเพื่อนอีกสองคนพร้อมเบอร์โทรศัพท์  ผมกล่าวคำขอบคุณที่เธอต้องเสียเวลาทำงานมาคุยกับผม  ดาวบอกไม่เป็นไร  เธอเองก็ไม่ค่อยสบายใจนักที่เพื่อนหายไปเหมือนกับทุกคน

          เป็นวันจันทร์ที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างบ้าระห่ำ  ฤดูฝนผ่านไปนานแล้ว  แต่ลมหนาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะพัดผ่านมาให้รู้สึกเย็นกายเย็นใจเลย  หรือว่า  เดี๋ยวนี้เหลือเพียงฤดูฝนกับฤดูร้อน

          เมื่อโทรนัดแนะกับเพื่อนของฟองชื่อหนิงเรียบร้อย  ผมก็เข้าร้านอาหารหลบแดดอันร้อนระอุ  สั่งเบียร์มาดื่มดับกระหายและคลายร้อน  เบียร์เย็นๆ  ช่วยให้จิตใจผมดีขึ้นมาก  ตั้งแต่รู้ว่าฟองหายไป  ความหวาดกลัวกังวลเล่นงานผม  จนบางครั้งคิดอะไรไม่ออกเอาดื้อๆ

          บ่ายแก่ๆ  เวลานัดหมายก็มาถึง  ผมจับแท็กซี่มุ่งสู่แฟลตของหนิงย่านลาดพร้าว       ไม่นานนักอาคารเก่าๆ ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า  ผมวิ่งขึ้นแฟลตอย่างรวดเร็ว

          เคาะประตูห้องสามครั้ง  หญิงสาวหุ่นออกท้วมก็โผล่หน้าออกมา  ข้างหลังของหญิงสาวมีชายหนุ่มผอมเก้งก้างยืนดูอยู่ห่างๆ

          “คุณนนท์หรือเปล่าคะ”

          “ครับ..เอ่อ..คุณหนิง”

          “ค่ะ  และนี่แฟนฉันเอง  เชิญข้างในก่อนซิคะ”  หนิงเบี่ยงตัวหลีกทางให้ผมเข้าไปข้างใน

          แม้ภายนอกจะเก่า  แต่ภายในห้องถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าอยู่น่าอาศัยมาก  ผมกวาดสายตาลวกๆ  สำรวจห้อง  ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย  เขาบอกให้ผมนั่งบนโซฟา

          “ผมกับหนิงไม่ได้ออกไปไหนตั้งแต่แยกกับฟองแล้ว”  ชายหนุ่มเริ่มต้น  “เราแยกกันก่อนถึงบ้านฟองประมาณสองซอย  ผมกับหนิงลงจากแท็กซี่แล้วต่อรถเมล์มาที่แฟลต  ส่วนฟองนั่งรถแท็กซี่ต่อ  ผมคิดว่าเธอคงจะกลับบ้าน  แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีก”

          “ผมเองจนปัญญาจริงๆ ครับ  พ่อกับแม่ของเธอไม่เป็นอันทำอะไร  นั่งรอมาสามวันแล้ว  วันนี้เห็นทีต้องแจ้งความ  ถ้าคุณสองคนบอกเช่นนั้น  คุณสองคนอยู่กับเธอก่อนที่เธอจะหายไปมิใช่หรือ”

          “ค่ะ”  หนิงว่าเบาๆ

          “เอาละ...ผมขอถามอีกสักข้อเถอะนะ  ฟองเมามากหรือเปล่า  เธอจะจำซอยบ้านตัวเองได้หรือเปล่า”  ทั้งสองคนสบตากันสักครู่เป็นเชิงหารือกันและกัน

          “ไม่นี่คะคุณ”

          “ครับ..แน่นอนทีเดียว  ฟองไม่เมาแน่”  ฝ่ายชายสนับสนุนแข็งขัน

          “งั้นผมเห็นจะต้องรบกวนคุณแค่นี้”  ผมลุกจากโซฟาช้าๆ

          “ถ้ามีอะไรให้ช่วย  อย่าเกรงใจนะครับ”  ชายหนุ่มยิ้มให้ผม  แล้วก็เดินมาส่งที่ประตู  ก่อนที่ผมจะเดินผ่านประตูออกมา  ผมได้ยินหนิงเรียก

          “นนท์คะ...เราเสียใจค่ะ”  ผมยิ้มให้ทั้งคู่แล้วจากมา

          การจราจรที่แน่นขนัดทำให้ผมอกแทบระเบิด  เวลาหกโมงเย็นเป็นช่วงเวลาแห่งการรีบเร่งจริงๆ  ผมเป่าลมออกจากปากอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

          เรื่องของฟองไม่คืบหน้าไปไหน  ทุกคนที่ผมไปพบไม่ได้ให้ความกระจ่างชัดอะไรเลย  ผมยังย่ำอยู่กับที่  ผมเสียเวลาไปหนึ่งวันไปอย่างไม่มีประโยชน์  ผมอดเป็นห่วงฟองไม่ได้  เป็นครั้งแรกที่ผมบอกแก่ตัวเองว่าผมรักเธอมากที่สุด  ผมไม่อยากเสียเธอไปในสภาพที่ไม่มีใครรู้ต้นสายปลายเหตุ

          เมื่อฝ่าจราจรที่น่าอึดอัดมาได้  ผมก็มองหาตู้โทรศัพท์  ผมผลุบเข้าไปในตู้โทรศัพท์ทันทีที่มองเห็น  กดหมายเลขบ้านฟองอย่างรวดเร็ว

          “ฟองกลับมารึยังครับ”  ยังไม่ทันที่ฝ่ายนั้นจะพูดอะไร  ผมก็กรอกคำพูดออกไป

          “ยังไม่เห็นเลย...ใครน่ะ  นนท์หรือ”  เป็นเสียงพ่อฟอง

          “ครับ  ผมว่าถึงเวลาที่เราจะต้องแจ้งความและล่ะครับ  ผมไปพบเพื่อนของฟองมาหมดแล้ว  ทุกคนไม่รู้เรื่องเลย  ทุกคนบอกว่าฟองตรงดิ่งกลับบ้าน”

          “ตอนนี้นนท์อยู่ที่ไหน”

          “ผมกำลังจะเข้าอพาร์ตเมนต์ของผมครับ  สามวันแล้วผมยังไม่ได้กลับบ้านเลย  งานมันติดพันน่ะครับ..พ่อมีอะไรหรือครับ”

          “พ่อจะไปโรงพัก  อยากให้นนท์ไปด้วย”

          “ผมขอตัวอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครึ่งชั่วโมงนะครับ”

          “ตามสบาย  แล้วเจอกันนนท์”

          อพาร์ตเมนต์ของผมค่าเช่าไม่แพงนัก  ห้องหับก็ไม่กว้างมาก  แต่ก็ไม่แคบจนอึดอัด  ผมยิ้มให้ยามเฝ้าตึกก่อนจะขึ้นตึกอย่างอ่อนระโหยโรยแรง

          ผมแทบลมจับเมื่อเห็นประตูห้องของผมไม่ได้ล็อค  คงมีมือดีมาเล่นงานแน่แล้ว  ผมเปิดประตูผลัวะออก  กวาดสายตาทั่วห้อง  ข้าวของยังอยู่ที่เดิม  ดูสะอาดและเป็นระเบียบมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

          เสียงน้ำในห้องน้ำดังซู่-ซู่  แล้วก็เงียบลง  ผมค่อยๆ ย่องไปที่ประตูห้องน้ำแล้วแนบหูที่ประตู  ประตูเปิดออกช้าๆ หญิงสาวในชุดผ้าขนหนูก้าวออกมา  ผมตะลึงงัน

          “เป็นอะไรไปคะนนท์  เจอผีหรืออย่างไร”

          ผมทำปากขมุบขมิบพูดอะไรไม่ออก  ก้มสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า        เมื่อรวบรวมสติได้ผมก็ถามเธอออกไป

          “คุณเข้ามาได้อย่างไรล่ะนี่”

          “ฉันมีกุญแจห้องคุณค่ะ”  เธอว่าพลางเดินออกมาช้าๆ

          “ผมจะบ้าตาย”

          “ฉันมารอคุณตั้งแต่วันศุกร์  คุณไปติดผู้หญิงที่ไหนมา”

          “ผมกำลังยุ่งอยู่กับงาน  ว่าแต่คุณเถอะทำไมไม่โทรไปบอกที่บ้านว่าจะไปไหนมาไหน”

          “ฉันอยากทำอะไรที่อยู่นอกแบบแผนดูบ้าง  เห็นมั้ยมันตื่นเต้นขนาดไหน”

          ผมยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วส่งให้หญิงสาว

          “เอ้า...โทรไปบอกพ่อกับแม่ซะ  ไม่งั้นเขาจะไปโรงพักแจ้งความ”

          “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะนนท์”

          “ก็คุณหายไปอย่างไร้ร่องรอยไง  ฟอง....โธ่เอ๋ย...ฟอง”

          ผมเข้ากอดเธอแนบอก  ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเลย  ฟองยังงงงันจับต้นชนปลายไม่ถูก  ผมใช้มือลูบผมเธอเล่นอยู่นานทีเดียวแหละ

                                      .....................................................

                                                ตีพิมพ์ครั้งแรก “เดอะบอย”  พฤษภาคม  ๒๕๔๑

เนื้อหาโดย: ทินภัทร สำเร็จงาน
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มาดูรีเเอคชั่น เมื่อชาวต่างชาติได้ยินเพลง “ออเจ้า” ในเวอร์ชั่นโอเปร่า 🥰13 ของว่าง ของกินเล่น พลังงานต่ำ ไม่อ้วน แคลน้อย สำหรับคนลดน้ำหนัก กินแล้วอิ่มนาน"ชายวัย 59 ปี ทานกล้วย 2-3 ลูกทุกคืน พบความจริงหลังการตรวจสุขภาพ"น้องมิลค์หน้านิ่ง คว้าอันดับ 2 ในการแข่งโดรนเรสซิ่งชิงแชมป์โลก 2024ปาร์ตี้ทั้งคืน ดื่มจนหนัก มาพักตับกันบ้าง ด้วย 5 วิธีพักตับหลังปาร์ตี้ ดูแลฟื้นฟูได้ง่าย ๆใบเฟิร์น โพสท่าสุดเท่ อวดหุ่นเป๊ะตำแหน่งที่ปวดศีรษะ อาการเหล่านี้ บ่งบอกว่ากำลังเป็นอะไรอยู่แฟนพันธุ์แท้ Hello Kitty รับไม่ได้ ส่งข้อความให้แบนคนจีนที่ซื้อสินค้าไปหมดวันหยุดปี 2568 มาแล้ว! เช็กปฏิทินวันหยุดราชการ เตรียมแพลนวันพักผ่อนอาการติดโทรศัพท์ สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณ ติดมือถือ มากเกินไปอุบัติเหตุใหญ่ รถทัวร์ชนรถบรรทุกพ่วงผู้โดยสารเจ็บยกคันทนายตั้มโผล่กองปราบ! หลังถูกแจ้งความ!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ลมหนาวมาฝุ่น PM2.5 ก็เริ่มกับมากระทบคนกรุงอีกทนายตั้มโผล่กองปราบ! หลังถูกแจ้งความ!น้องไปป์ ลูกชายยิ่งลักษณ์ สำเร็จการศึกษาระดับสูง พร้อมรับ 2 รางวัลสุดยอดบุกบ้าน “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังตี่ลี่” ปิดเงียบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ตำนานรักสามเส้า ท้าวบางเจียง กับนางมะโรง (ທ້າວບາຈຽງນາງມະໂລງ)ผีหน้ารั้วตำนาน เขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุงเมื่อข้าหลับตาต้องมีคนจากโลก
ตั้งกระทู้ใหม่