5 วิธีเลือกอาหารทะเลยังไงให้ปลอดภัย ไกลโควิด

กินอาหารทะเลอย่างไรให้ได้ความสดใหม่อร่อย และปลอดภัย Covid 19 ด้วย

 

     ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ติดกับทะเล ทำให้เราได้มีอาหารทะเลอร่อยๆ กินกันตลอดปีอยู่เสมอ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหารทะเลก็ยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ด้วยอาหารทะเลที่อร่อยมีรสชาติดี ทำให้ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบที่จะรับประทานอาหารทะเลกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลแบบปิ้งย่าง หรือว่าแบบดิบก็ตาม แต่อุปสรรคก็คือประเทศเรานั้นเป็นประเทศร้อน แต่อาหารทะเลกลับเน่าเสียได้ง่าย และหัวใจของอาหารทะเลที่ดี จะต้องมีความสดใหม่ด้วย

 

     ถึงแม้ว่าอาหารทะเลจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ติดพยาธิค่อนข้างต่ำ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่พบอันตรายจากการรับประทานอาหารทะเลเลย โดยหลักๆ แล้วเราอาจจะต้องเสี่ยงกับอาหารทะเลที่ปนเปื้อนฟอร์มาลีน เพราะการใช้สารฟอร์มาลีนจะช่วยทำให้อาหารทะเลเน่าเสียช้าลง มีความสดที่ยาวนานมากขึ้น แต่ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และทำลายสุขภาพคนกินด้วยหากว่านำมาใส่ในอาหาร ยิ่งถ้ามีการปนเปื้อนในปริมาณ 90 มิลลิกรัม ขึ้นไป จะทำให้เป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหารอีกด้วย

 

 

     หลังจากที่มีข่าวโควิด 19 แพร่ระบาดจากตลาดแพกุ้ง มหาชัย แต่จริงๆ แล้วกุ้งหรืออาหารทะเลก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เป็นโควิด 19 เลยนะ ดังนั้นแล้วเราจึงควรรู้วิธีในการเลือกซื้อเลือกรับประทานอาหารทะเล เพื่อความปลอดภัยจริงๆ ของร่างกายกัน

 

1. เลือกซื้อจากตลาดที่มีความน่าเชื่อถือ

ควรเป็นตลาดสดที่มีความสะอาด มีการทำความสะอาดตลาดอยู่อย่างสม่ำเสมอ มีการขนส่งที่ดีปลอดภัย มีการจัดเก็บที่ในที่สะอาดได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นตู้ปลา รวมถึงถังหรือกะบะใส่อาหารทะเล มีการตรวจสารปนเปื้อนอย่างสารปรอท หรือสารฟอร์มาลีนอยู่อย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีการรับรองมาตรฐานด้วยจะยิ่งดีมาก

 

2. ระวังการกินอาหารทะเลที่มีพิษ

มีบางคนที่นิยมกินแมงดา แมงกะพรุน และปลาปักเป้า แต่ว่าสัตว์ทะเลพวกนี้มีทั้งแบบมีพิษและไม่มีพิษ หากจะกินแมงดาจะต้องเป็นแมงดาจานจะไม่มีพิษ ส่วนแมงดาที่มีพิษคือแมงดาไฟหรือแมงดาถ้วย ต้องสังเกตให้ดีว่าเป็นแมงดาที่กินได้หรือไม่ได้ หากไม่แน่ใจควรหลีกเลี่ยงเอาไว้ก่อน เพราะหากบริโภคไปอาจะเกิดอันตรายขึ้นได้

 

3. แมงกะพรุนที่สามารถกินได้

ประเทศไทยจะมีแมงกะพรุน 3 ชนิดที่สามารถรับประทานได้นั่นคือ แมงกะพรุนลอดช่อง, แมงกะพรุนหนัง และแมงกะพรุนถ้วย (ซึ่งจะไม่นิยมกินกันสักเท่าไหร่) การเลือกซื้อให้ดูเบื้องต้นที่สีจะต้องมีสีขาวใส หากว่ามีสีสันแทรกเข้ามาในเนื้อเยอะแสดงว่ามีพิษอยู่มาก หากกินไปอาจจะได้รับอันตราย ซึ่งแมงกะพรุนทุกชนิดล้วนแล้วแต่มีพิษทั้งนั้น แต่แมงกะพรุนที่เรากินได้ คือแบบที่มีพิษอ่อนๆ อยู่เล็กน้อย ส่วนแมงกะพรุนที่รับประทานไม่ได้เลยก็คือแมงกระพรุนไส้ไก่, แมงกะพรุนไฟ และแมงกระพรุนหมี ส่วนที่มีพิษของแมงกะพรุนจะอยู่ที่ขา เพราะเป็นส่วนที่ใช้ล่าเหยื่อและป้องกันตัว

 

4. การเลือกซื้อปลา

การเลือกซื้อปลาเราจะต้องดูที่ตาปลาต้องมีความใสไม่ขุ่นมัว เหงือกปลามีสีชมพูหรือสีแดงสด ลองใช้นิ้วกดลงที่ตัวปลาแล้วจะต้องรู้สึกได้ว่าเนื้อยังแน่น ไม่บุ๋มลงไปตามแรงกดของนิ้วมือ เกล็ดปลาจะต้องแน่นไม่หลุดออกจากเนื้อ กลิ่นจะต้องได้กลิ่นคาวของทะเลไม่รู้สึกเหม็นเน่าเสีย หรือเหม็นตุๆ เนื้อและสีดูสดใสเนื้อดูไม่แห้งจนเกินไป

 

5. เลือกซื้อปลาหมึก

ปลาหมึกเป็นอาหารทะเลที่สูญเสียความสดได้ไวมากที่สุด แต่ก็ยังสามารถรับประทานได้ วิธีการเลือกซื้อจะต้องดูปลาหมึกที่มีลักษณะกลม ตัวไม่แบน เนื้อและหนวดของปลาหมึกจะต้องอยู่ครบ เนื้อไม่แข็งหรือไม่เละ เนื้อจะต้องแน่นเยื่อหุ้มที่ตัวยังไม่ฉีกขาด ต้องไม่มีน้ำในตัวของปลาหมึกไหลออกมา ถุงน้ำหมึกควรจะอยู่สภาพสมบูรณ์ ตาของปลาหมึกจะออกสีดำใสดูไม่ขุ่น

 

6. การเลือกซื้อหอย

ควรเลือกซื้อหอยที่มีฝาและเปลือกปิดสนิท เปลือกไม่บุบหรือมีรอยแตก ไม่ควรจะมีเมือกหรือสิ่งสกปรกติดอยู่มากจนเกินไป หากว่าแช่น้ำแล้วหอยที่ยังดีอยู่จะจมน้ำ เมื่อแกะเปลือกเนื้อจะต้องมีสีสด ไม่ซีด เนื้อไม่ช้ำไม่ขาด และอยู่ติดแน่นกับฝา ที่สำคัญต้องไม่มีกลิ่นเหม็นด้วย ถ้าเป็นหอยแครงโดยมากแล้วควรจะต้องซื้อแบบที่ยังมีชีวิตอยู่ หากลองชั่งน้ำหนักบนมือดู หอยสดๆ จะค่อนข้างมีน้ำหนักและไม่มีเมือกใสๆ มาเคลือบบนตัวหอย หากหอยไม่สดเปลือกจะอ้าและมีกลิ่น ถ้ายังสดเมื่อลองแตะดูเปลือกจะงับปิดทันทีถ้ามันอ้าอยู่

 

7. การเลือกปู

ปูที่อร่อยควรจะต้องทำกินสดๆ เลย ถ้าเป็นตามร้านอาหารเราก็สามารถเลือกแบบยังเป็นๆ ให้เขาทำได้ทันที แต่ถ้าไปซื้อตามท้องตลาดเอง ให้สังเกตที่น้ำหนักของปูก่อน เพราะปูสดจะยังมีน้ำอยู่มากกว่าปูที่ไม่สด และตรวจดูท้องของปูใช้นิ้วจิ้มลงไป ในเนื้อปูจะต้องแน่นไม่บุ๋ม สีของท้องปูจะออกเป็นสีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล ตาของปูจะต้องเป็นเม็ดกลม กระดองไม่แตกร้าว มีก้ามปูและขาอยู่ครบ

 

8. การเลือกซื้อกุ้ง

ในส่วนหัวของกุ้งจะต้องใส ลำตัวมีรูปร่างปกติ ต้องเห็นเนื้อแน่นชัดเจน ตากุ้งไม่หลุดและมีสีเข้ม ในส่วนของลำตัว หัวและหางจะต้องติดกัน เนื้อไม่นิ่ม ไม่ยุ่ย ไม่ขาด เปลือกกุ้งจะต้องมีความเป็นเงา ใส ลื่น มีสีสันตามธรรมชาติ ต้องมีกลิ่นคาวทะเลที่ไม่ใช่กลิ่นที่แปลกๆ เหม็นๆ ที่บ่งบอกว่ากุ้งเริ่มเสียแล้วนั่นเอง

 

เมื่อเลือกดูกันเป็นแล้ว คราวนี้คุณก็คงจะรับประทานอาหารทะเลได้อย่างสบายใจกันมากขึ้นแล้วนะคะ หากซื้อมาทำรับประทานเองก็อย่าลืมที่จะทำล้างและความสะอาดให้เรียบร้อย ก่อนที่จะนำไปปรุงอาหารกันด้วยค่ะ กินแบบผ่านความร้อนก่อนด้วยจะอุ่นใจมากที่สุดค่ะ ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และเชื้อโควิดได้ แต่ยังไงช่วงนี้งดเว้นการกินอาหารที่ร้านไปก่อนชั่วคราวจนกว่าโควิดจะหยุดระบาดดีที่สุดค่ะ

 

cr. https://www.pexels.com/th-th/photo/1618873/

 

ส่วนใหญ่จะกินอาหารทะเลแบบไหน?

1. กินที่ร้านอาหาร

2. ซื้อมาทำกินเอง

 

✪ บทความ โดย : Akine_noxx

✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper

❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ