7 ข้อการันตีแล้ว 'คนร้องไห้ ไม่ได้เป็นคนอ่อนแอ'
เธอร้องไห้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ร้องไห้บ่อยหรือเปล่า อยากรู้ไหมว่าการร้องไห้ก็มีข้อดีอยู่นะ
ใครๆ ต่างก็เคยร้องไห้ โดยเฉพาะตอนเด็กๆ เวลาหิว เวลาเจ็บ เวลาโกรธ โดนดุ โดนตี หรือเวลาไม่ได้อะไรดั่งใจเราก็มักจะร้องไห้เสมอๆ แต่พอโตมาการร้องไห้คือสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ใครที่อ่อนแอมากๆ ก็จะถูกล้อหรือรังเกียจ ดังนั้นหลายๆ คนเลยไม่อยากร้องไห้เพราะไม่อยากอ่อนแอ หรือเป็นคนขี้แพ้ แต่จริงๆ แล้วนั้นการร้องไห้เป็นเรื่องของอารมณ์ตามธรรมชาติในจิตใจคนเราต่างหาก เพราะฉะนั้นการที่จะร้องไห้ออกมานั้นใช่ว่าจะมีแต่เรื่องแย่ๆ เสมอไปนะ ลองดูสักหน่อยสิ ว่าการร้องไห้ให้อะไรกับเราบ้าง
/canva
1. ได้ระบายความรู้สึกที่เกินจะแบกรับไว้
ในยามที่อยากร้องไห้คือการที่จิตใจมีความรู้สึกแย่มากๆ จนเกินจะรับไหวแล้ว จึงได้มีกลไกการร้องไห้ออกมา ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว เพราะไม่ต้องเก็บกดความรู้สึกนั้นไว้ ในทางกลับกัน หากมัวแต่เก็บไว้ ไม่ได้ระบายออกเลย มันเป็นการทรมานเปล่าๆ เพราะงั้นปล่อยให้มันเป็นตามธรรมชาติซะเถอะ หรือถ้าร้องไม่ออกก็ลองดูซีรี่ส์ดราม่าหนักๆ แล้วร้องไห้ดูสิ หลังดูจบจะรู้สึกโล่งสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยเชียวล่ะ?
2. น้ำตาจะเยียวยาความเจ็บปวดและบาดแผลในใจได้
หากลองได้ร้องไห้สุดๆ หลังจากนั้นเราก็จะรู้สึกดีขึ้นได้เองเพราะได้ปลดปล่อยความทุกข์ใจออกมาแล้ว แต่กลับกันหากไม่ได้ร้องความรู้สึกแย่ๆ นั้นก็จะขังอยู่ในหัว อยู่ในใจไม่ไปไหนสักที ทำให้มัวแต่คิดวนเวียน ซ้ำๆ เรื่องเดิมๆ อยู่แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกแล้ว สู้ร้องไห้ให้หนัก ยอมรับความเจ็บปวดให้สุดๆ ทีเดียวให้มันจบๆ ไปเลยจะเป็นผลดีกว่านะ
3. หลังเสียน้ำตาจะกลับมาเข้มแข็งได้มากกว่าเดิม
ทุกๆ ครั้งที่ได้รับบทเรียนที่เจ็บปวด เราก็จะมีความอดทนกับสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เรียกว่าน้ำตาจะสร้างภูมิคุ้มกันในใจให้มากขึ้นได้นั่นเอง ลองไปคุยกับคนที่เราคิดว่าเก่งว่าแกร่งแล้ว หลายๆ คนก็ผ่านการร้องไห้มามากมายนับไม่ถ้วน ต้องเสียน้ำตาเป็นลิตรๆ กว่าจะเข้มแข็งได้อย่างทุกวันนี้นะ
4. สามารถรับมือกับความเจ็บปวดครั้งต่อๆ ไปได้ดีขึ้น
ไม่มีใครอยากจะพลาด อยากจะเจ็บปวดแบบเดิมๆ อีก เพราะฉะนั้นการร้องไห้ก็เหมือนสัญญาณเตือนให้เราเข็ดหลาบ ต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น หรือถ้าพลาดต้องผิดหวังเสียใจก็จะสามารถทำใจยอมรับได้มากขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา
5. การร้องไห้คือการซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง
ถ้าเคยดูการ์ตูนเรื่อง Inside Out ก็จะเห็นได้ว่าคนเรามีความรู้สึกหลักๆ ก็คือร่าเริง โศกเศร้า โมโห หวาดกลัว และขยะแขยง การที่เราพยายามปิดบัง ซ่อนความเศร้าความเจ็บปวดไว้ จะทำให้สมดุลย์ทางด้านอื่นเสียไปแทน เช่นจะรู้สึกโมโหฉุนเฉียวขึ้น หรือหวาดกลัวกับสิ่งต่างๆ ไปแทน เพราะฉะนั้นการยอมรับความรู้สึกต่างๆ ในใจคือการซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน อย่าไปปิดบังซ่อนเร้นไว้ แต่ควรยอมรับเพื่อจะปรับตัวรับมือกับความรู้สึกนั้นๆ ดีกว่า
6. ความอ่อนแอจะทำให้ได้รับความเข้าใจจากคนรอบข้างได้
ใครๆ ต่างก็ไม่อยากให้คนอื่นๆ เห็นตัวเองเวลาอ่อนแอ แต่บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องอดทนขนาดนั้น ถ้าอดทนไม่ไหวแล้ว เชื่อเถอะทุกๆ คนเข้าใจว่าคุณก็แค่คนธรรมดานี่แหละที่ย่อมมีผิดหวังเสียใจกันบ้าง บางครั้งการที่เราร้องไห้ก็ทำให้คนรอบข้างรู้ว่าจิตใจคุณกำลังแย่ เค้าก็จะช่วยปลอบโยน และให้กำลังใจ ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ ทำให้มีความเห็นอกเห็นใจ มีความผูกพันต่อกันในช่วงที่ผ่านเรื่องร้ายๆ ด้วยกันมาได้อีกนะ เพราะฉะนั้นการแชร์ความทุกข์ในยามที่จิตใจไม่สามารถทนไหวแล้วก็สามารถทำได้อยู่นะ
7. สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนเป็นทุกข์รึเป็นสุข
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะร้องไห้จากการผิดหวังเสียใจ หรือจากความเจ็บปวดไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ เพราะฉะนั้นแล้ว คนเราย่อมอยากมีความสุขได้หัวเราะให้มากกว่าร้องไห้นะ อะไรที่ทำให้ทุกข์ใจเราก็พยายามจะหลีกเลี่ยงไปได้เอง เพราะการร้องไห้หนักๆ จากความทุกข์นั้นมันช่างแสนทรมานมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ
เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าต้องร้องไห้เสียบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่และน่าอายขนาดนั่นสักหน่อย ทุกคนสามารถทำได้เพื่อรักษาสภาพจิตใจของตัวเอง แต่ถ้าร้องจนจมดิ่งกับความรู้สึกเศร้าไม่ยอมหายเป็นเวลานานเกินไปแล้วล่ะก็ ควรต้องไปหาจิตแพทย์แล้วล่ะ เพราะบางทีเธออาจจะไม่ใช่แค่รู้สึกโศกเศร้า แต่กำลังเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้นะ
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดโหวต กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ