Attack of the Dead Men การโจมตีของเหล่าคนตาย !!!
Attack of the Dead Men
การโจมตีของเหล่าคนตาย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ป้อมปราการออสโซวิช
ป้อมปราการที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแนวป้องกันกองทัพเยอรมนีของจักรวรรดิรัสเซีย
(ปัจจุบันคือฝั่งตะวันออกของประเทศโปแลนด์)
ป้อมออสโซวิชเป็นเสมือนที่รองรับห่ากระสุนทุกชนิดที่เยอรมันจะหาได้ และทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ก็ทำหน้าที่ป้องกันอย่างเต็มที่
ในเดือนกันยายน ค.ศ.1914
เยอรมนีเริ่มโจมตีป้อมนี้เป็นครั้งแรก
ปืนใหญ่ดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้า
ยิงถล่มไม่มีหยุดถึง 6 วัน 6 คืน
เยอรมันมั่นใจอย่างแน่แท้ว่าไม่น่ามีผู้ใดรอดชีวิต
จึงส่งทหารราบบุกเข้าไปประชิดป้อมออสโซวิชทันที
แต่ผ่านไปไม่กี่นาที
เหล่าทหารที่บุกไปด้วยความมั่นใจก็ต้องถูกตีกลับมา
เมื่อรัสเซียแทบไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ
รวมถึงยิงกลับมาด้วยปืนกองกำลังทหารราบและปืนใหญ่
เยอรมันแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาถอยกลับไปหาแผนการที่จะมาโจมตีให้แตก
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1915
เยอรมันกลับมาอีกครั้ง
พร้อมกับ บิ๊ก เบอร์ตา
ปืนใหญ่สุดภูมิใจของเยอรมันขนาด 420 มิลลิเมตร
ทีนี้เยอรมันทุ่มเทโจมตียาวนานถึงหนึ่งเดือน
พวกเขายังใช้กองกำลังทางอากาศทิ้งระเบิดปูพรม
ทีนี้รัสเซียต้องหมดสภาพจนต้องขอยอมแพ้!
เยอรมันใช้กล้องทางไกลส่องดูป้อมออสโซวิช
มันเสียหายอย่างรุนแรงอย่างที่พวกเขาต้องการ
เยอรมันส่งทหารราบเข้าประชิดอีกรอบ
ถึงแม้ทหารรัสเซียจะบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
แต่น่าเหลือเชื่อที่พวกเขายังต้านทานได้อีกครั้ง
ด้วยกำลังพลและปืนใหญ่ที่เหลือ
เยอรมันบุกเข้ามาไม่ได้อีกครั้ง
เยอรมันต้องถอยกลับอีกครั้งด้วยความอับอาย
แต่ไปแล้วใช่ว่าจะไปลับ
พวกเขามาใหม่อีกครั้ง
จอมพล เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค
มานำทัพในครั้งนี้
พร้อมกับอาวุธรูปแบบใหม่
แก๊สพิษ
ที่ประกอบไปด้วย คลอรีน และโบรมีน
พิษจากคลอรีนและโบรมีนสามารถกัดกร่อนเนื้อเยื่อ
หรือเยื่อบุที่สัมผัส
ใครที่สูดดมและสัมผัสจะมีอาการแสบตา จมูก ปาก
และผิวหนัง น้ำมูกน้ำตาไหล ปวดเวียนศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน
เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค
รู้ว่ารัสเซียไม่มีหน้ากากกันแก๊สแน่นอน
6 สิงหาคม ค.ศ. 1915
ถังแก๊ส 13 ถัง ถูกปล่อยออกไป
ด้วยทิศทางลมที่เป็นใจ
แก๊สพิษได้พัดเข้าไปในป้อม
ประกอบกับปืนใหญ่ 13 กระบอก
กระหน่ำเข้าไปในป้อมปราการด้วยเช่นกัน
ควันสีเขียวที่ประกอบด้วยคลอรีน และโบรมีน
ทำลายใบไม้ที่มันพัดผ่าน จนกลายเป็นสีเหลือง
และใบหญ้า ก็กลายเป็นสีดำ
ปืนใหญ่ของรัสเซีย ผุกร่อนเป็นสนิมเขียว
เมื่อแก๊สจางลง
ทหารเยอรมันกว่า 7,000 นาย
ใส่หน้ากากกันแก๊ส บุกเข้าไปประชิดป้อมอีกครั้ง
แต่เมื่อเข้าไปใกล้
สิ่งที่ทหารเยอรมันเห็นทำให้พวกเขาตกใจ
และต่างพากันเสียขวัญ
ทหารรัสเซียในสภาพเดนตาย
ตาแดงก่ำ เลือดไหลออกมาทางตา
ใบหน้าเสียหายจากการถูกทำลายเนื้อเยื่อ
สภาพเหมือนตายมาแล้วหลายวัน
บางคนแก้มทะลุจนเกือบจะเห็นฟัน
พวกเขาลุกขึ้นมา
เหมือนซอมบี้ฟื้นขึ้นจากความตาย
ทหารรัสเซียนำผ้าที่เปียกไปด้วยฉี่
มาปิดจมูกกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่ปอดให้ได้มากที่สุด
ด้วยแรงฮึดสู้สุดท้าย
เหล่าทหารรัสเซียสภาพเดนตาย
วิ่งไล่ยิงและใช้ดาบปลายปืนไล่แทงทหารเยอรมัน
ทหารเยอรมันตกใจหวาดกลัวจนบางส่วนวิ่งหนี
ส่วนพวกที่หนีไม่รอดต่างต้องตายด้วยดาบปลายปืน
จากนั้นมา
เยอรมันล้มเลิกการบุกป้อมนี้
และรัสเซียที่เหลือก็ถอยทัพ
เหตุการณ์ครั้งนี้โด่งดังไปทั่วยุโรปในตอนนั้น
จนกลายเป็นที่มาของฉายาที่ยกย่องในความอึดทรหดของรัสเซีย
Attack of the Dead Men
ป้อมออสโซวิชในปัจจุบัน
บิ๊ก เบอร์ตา
จอมพล เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค (ซ้าย)
ร.ท. วลาดิเมียร์ โคลินสกี้ หัวหน้าหน่วยป้องกันพาทีม dead men ทะลวงเยอรมันจนต้องวิ่งหนีต
ปล.เหตุการณ์นี้มีคนเอาไปทำเป็นเพลงด้วยนะ Attack of the dead men - วงSabaton