หนุ่มเล่าเรื่องเมื่อครั้งภรรยา ยอมสละชีวิต หยุดรักษามะเร็งเพื่อให้ลูกได้เกิดมา
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ Thanatat Tawron ได้เล่าเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้ภรรยา ที่ยอมเสียสละชีวิตของตนเอง เพื่อทำให้ลูกที่จะเกิดมาลืมตาดูโลก ซึ่งเขาได้เล่าว่า ได้พบรักกับภรรยาเมื่อตอน ม.3 และเริ่มคบตั้งแต่นั้นมา จนเรียนจบปริญญา ได้งานแต่งงานกัน แต่ตอนนั้นภรรยาของผมพบว่ามีก้อนเนื้อที่หน้าอก ตอนแรกคิดว่าเป็นก้อนซีดธรรมดา แต่พอเวลาเนิ่นนานไป ก้อนเนื้อกลับโตใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนแตกเป็นจ้ำสีม่วง จึงรีบพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง พบว่าภรรยาเป็นมะเร็งติดเชื่อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง พบแค่หนึ่งในล้านเท่านั้น
ทั้งนี้ การผ่าตัดในครั้งแรกเมื่อ ปี 59 ผ่านไปได้ด้วยดี เขาก็ดูแลภรรยามาโดยตลอด จนผ่าตัดครั้งที่ 2 ปี 60 ครั้งนี้ต้องตัดนมทิ้ง พอผ่าตัดครั้งที่ 3 หมอได้ตรวจร่างกายพบว่า ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจเด็ก ทำให้ทั้งคู่ได้มีลูกด้วยกัน อายุครรภ์ได้ 2 เดือน แต่หมอถามว่าจะเก็บลูกไว้หรือจะรักาษาต่อ เพราะถ้าเก็บลูกไว้จะไม่สามารถรักษามะเร็งต่อได้ จนครั้งสุดท้ายเมื่อ ปี 61 ได้เข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง ผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนั้นอายุครรภ์ 7 เดือน ทั้งแม่และน้องปลอดภัยดี
พอมาถึงวันคลอด กลับพบว่าก้อนเนื้อมะเร็งโผล่มาอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะใกล้ถึงวันคลอดแล้ว หลังจากคลอดน้องเสร็จ กลับพบว่าลูกตัวเหลือง หายใจเร็ว หัวใจมีรอยรั่วและท่อที่ต่อผ่านหัวใจก็ปิดเองไม่ได้ต้องทำการผ่าตัด ภรรยาของผมก็กลับมาพักฝืนที่่บ้าน แต่ก็เหมือนไม่ได้พัก เพราะต้องเที่ยวไปเยี่ยมลูกทุกวัน แม้ว่าตัวเองต้องรักษามะเร็ง โดยการฉายแสง พอเสร็จแล้วก็ไปเยี่ยมลูก จนลูกแข็งแรงสามารถกลับมาบ้านได้
พวกเราทั้ง 3 คน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนถึงวันต้องรักษามะเร็งโดยการฉายแสงและให้คีโม ผมพาภรรยามาตามที่หมอนักทุกครั้ง ภรรยาต้องใช้เวลารักษาและดูแลลูกตลอดระเวลา 3 เดือนที่ลาคลอด หลังจากนั้นก็กลับไปทำงานตามปกติ แล้วก็มีลาหาหมอตามที่นัดทุกอาทิตย์ ทุกครั้งที่พบหมอ หมอจะบอกกลับภรรยาผมตลอดว่าก้อนมะเร็งที่ตับมันได้โตขึ้นเรื่อยๆนะอาจจะทำให้ท้องโตขึ้นตามด้วย จากก็รักษาคีโมมาเรื่อยจนก้อนที่ตับปลิแตกทำให้เลือดออกและเข้า รพ.วันที่10/9/2562 กลางดึกตอนตี3ต้องพามาส่งเพราะทนความปวดไม่ไหว มาถึงรพ.เข้าห้องฉุกเฉินรอดูอาการแล้วก็เอ็กเรย์ดูพบว่า ก้อนที่ตับปลิแตกจริงจึงต้องทำการให้เลือด
หมอบอกว่าแค่หลักเดือนเท่านั้น หมอถามกลับมาว่าตอนนี้ลูกเรากี่ขวบแล้ว ผมตอบว่า1ขวบ5เดือนครับ และแล้ววันนี้ก็มาถึง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ภรรยาอาการทรุดหนัก ตอบสนองได้แค่พูดคำว่า อือ วันนั้นศิลปินวง Klear มาเยี่ยม เพราะเป็นวงที่ภรรยาชื่นชอบ ก่อนที่ภรรยาจะจากไปในช่วงเย็นวันดังกล่าว
เราอยู่ในห้องนั้นทั้งวันจนเวลา18:44 ช่วงเวลาแห่งการสูญเสียก็มาถึงผมนั่งอยู่ข้างเตียงจับมือเค้าไว้แน่นมากผมนั่งดูชีพจรของภรรยาผมค่อยๆเต้นช้าลงช้าลงจนหยุดหายใจเสียงคนร้องให้ดังระงมทั่วห้องวินาทีนั้นความเสียใจของผมพุ่งออกมากลายเป็นน้ำตา ผมลุกออกมาจากห้องนั้นผมนั่งร้องให้ตรงทางเข้าห้องผมปล่อยทุกอยากออกมาทางน้ำตาในหัวตอนนั้นผมคิดแต่ว่าทำไมมันเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับคนที่ผมรักด้วย ครอบครัวผมกำลังสร้างทุกอย่างเรากำลังเดินทางไปด้วยกัน ผมใช้เวลาอยู่ตรงนั้นประมาน10นาทีผมเริ่มตั้งสติ การที่เค้าจากไปแบบไม่เจ็บไม่ทรมานมันคงดีแล้วเค้าเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้วเหนื่อยมาตลอด4ปีที่รักษา ถึงเวลาที่เค้าจะต้องพักแล้ว ผมให้คำมั่นสัญญากับเค้าไว้ว่าจะดูและสิ่งที่เค้ารักมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Thanatat Tawron
อ้างอิงจาก: เฟซบุ๊ก Thanatat Tawron