หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“ปราสาท (ปรางค์) วัดมหาธาตุ” ศูนย์กลางนคราแห่งแรกบนเกาะเมืองอยุธยา 

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

 


.
.
.
เมื่อสภาพทางกายภาพและสิ่งแวดล้อมของเกาะเมืองอยุธยา เริ่มสามารถเข้ามาตั้งถิ่นบ้านเรือนได้ในช่วงแรกราวพุทธศตวรรษที่ 17 -18 รัฐละโว้ (ลพบุรี – ศรีเทพ) ก็ได้เริ่มขยายอิทธิพลเข้ามาครอบครองพื้นที่เพาะปลูก ลงมายังที่ราบลุ่มน้ำหลากทวารวดีอันอุดมสมบูรณ์ ภายหลังจากที่น้ำทะเลงวดลงไปนาน จนเกิดตะกอนสะสม “ดินเค็มข้าวหวาน” ได้ระดับพอดี ทั้งยังขยายตลาด ชุมทางและเมืองท่าทางทิศใต้ เพื่อการค้าสำเภาทางทะเลไปสู่โลกภายนอกผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดเป็นชุมชนเมือง (สรุกฺ) ใหม่บนที่ดอนทางใต้ของแม่น้ำลพบุรี ใกล้กับคุ้งน้ำโค้งตวัดของแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นเป็นครั้งแรก 
.
ชุมชนเมืองใหม่ของกลุ่มรัฐละโว้ ได้พัฒนาตัวขึ้นอย่างช้า ๆ จนขนยายขึ้นกลายเป็นเมืองใหญ่ (นครา วิษัย) ปรากฏชื่อสมัยหลังใน “จารึกเขากบ” (สมัยสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 20) เรียกว่า “อโยธยา-ศรีรามเทพนคร” จนได้สร้างศาสนสถานประจำเมืองขึ้นเป็นศูนย์กลางพระนครใหม่ของรัฐ นครแห่ง “พระราม” (ไวษณพนิกาย ?) ขึ้น ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งก็คือปราสาทวัดมหาธาตุนี่เองครับ
.
จากภาพเก่าที่ถ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 แสดงให้เห็นลักษณะพระปรางค์ใหญ่วัดมหาธาตุ ฝั่งมุมทิศใต้ ที่แสดงให้เห็นว่าส่วนเรือนธาตุที่เป็นของเดิมกับส่วนเรือนยอดวิมานที่ต่อขึ้นใหม่ในสมัยของพระเจ้าปราสาททองนั้น ตัวเรือนธาตุเดิมยังคงเห็นลักษณะของปราสาทแบบเก่าอยู่อย่างสมบูรณ์จนถึงชั้นบัวรัดเกล้า แตกต่างจากส่วนยอดที่มีรูปทรงฝักข้าวโพดที่มีความลักลั่นกันอย่างชัดเจน

ราวปี พ.ศ. 2454 – 2456 ในช่วงต้นสมัยรัชกาลที่ 6 ส่วนเรือนยอดของพระปรางค์ใหญ่ ได้พังทลายลงมา เผยให้เห็นเนื้อเปลือยโครงสร้างของผิวของอาคารที่มีการใช้วัสดุก่อสร้างแตกต่างกัน โดยที่ฐานบัวยกสูงหลายชั้นตรงแกนกลางฐานเรือนธาตุก่อด้วยฐานศิลาแลง ส่วนฐานรอบนอกเป็นฐานบัวก่ออิฐเพิ่มเข้าไปทำเป็นมุขออกมา 4 ด้าน โดยด้านทิศตะวันออกจะมีการต่อมุขออกมากว่าด้านอื่น ๆ ครับ 
.
การพังทลายได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าปรางค์วัดมหาธาตุในยุคแรกสร้างนั้น ก่อฐานและเรือนธาตุตามแบบปราสาทหินที่ยกฐานสูง ด้วยศิลาแลงและหินทราย 
.
ปรางค์ประธานวัดมหาธาตุ เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่ หันหน้าไปตามแนวแกนหลักทางทิศตะวันออก มีลักษณะเป็นอาคารคูหาทรง “กล่อง” (Cube) ขนาดใหญ่ ทรงจัตุรมุข มีมุขคูหาซุ้มประตูทั้ง 4 ด้าน เฉพาะมุขด้านหน้ายื่นยาวกว่าด้านอื่น ทำเป็นประตูเข้าภายในห้องครรภคฤหะ (ครรภธาตุ) มีห้องคูหาเล็กคั่นอยู่ภายในมุขหน้า ฐานปราสาทก่อด้วยศิลาแลงสลักเป็นบัวลูกฟักแบบยกสูงสามชั้น ตั้งอยู่บนฐานชุดบัวรูปจัตุรัสขนาดใหญ่ (ต่อมาในสมัยต้นอยุธยา จึงมีการสร้างปรางค์ – เจดีย์ทิศ ขยายออกเป็นฐานไพที) 
.
การยกสูงแบบชะลูดสูงของชุดฐานปราสาทวัดมหาธาตุ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่คล้ายกับชุดฐานปัทม์ยกสูง 3 ชั้นบนฐานบัวรูปจัตุรัสขนาดใหญ่ ของกลุ่มปราสาทพระปิถุและปราสาทพระป่าลิไลย ในเมืองพระนครธม ที่เป็นศิลปะนิยมในช่วงพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ครับ
.
เหนือชุดฐานก่อเรียงหินขึ้นเป็นเรือนธาตุวิมานปราสาท โดยใช้หินศิลาแลงเป็นวัสดุหลัก ใช้หินทรายสีเทาขาวก่อเรียงเป็นวงกบกรอบประตู วัสดุทั้งสองที่ยังมีร่องรอยของการเจาะรูตื้น ๆ ตามแบบเทคนิคการขนย้ายหินมาก่อสร้างแบบปราสาทเขมรให้เห็นอยู่ 
.
ฐานบัวเชิงของเรือนธาตุ เชิงผนังและซุ้มประตูหน้าหน้ามุขมีขนาดใหญ่ ขีดร่องโกลนเส้นลวดบัวเชิงอยู่ในระดับเดียวกันเป็นแผง ตัวเรือนธาตุเหนือลวดบัวเชิงในปัจจุบันพังทลายลงมาทั้งหมด แต่ในรูปถ่ายเก่า ได้แสดงให้เห็นเรือนธาตุของปราสาททรงกล่อง (มุมใหญ่ เก็จ – เพิ่มมุมเล็ก) ขึ้นไปถึงคิ้วส่วนยอด (ชั้นรัดเกล้า) ที่มีชุดเส้นลวดขนาดใหญ่แบบเดียวกับที่เชิงด้านล่างแต่กลับด้านสลับขึ้น
.
ถึงแม้ว่ากรอบประตูของปราสาทจะใช้หินทรายเป็นวงกบคล้ายคลึงกับกรอบประตูของปราสาทเขมร แต่ ลักษณะการเข้ามุมของเสากรอบประตูที่เหลืออยู่ในปัจจุบันนั้นกลับไม่ใช่เทคนิคแบบเขมรยุคนครวัด – บายน ที่จะใช้กรอบเพียง 4 ชิ้นมาประกอบเข้ากันเป็นกรอบวงกบประตูรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่อาจคล้ายคลึงกับเทคนิคการวางกรอบประตูวงกบแบบหลังยุคศิลปะหลังบายน ที่นิยมใช้แท่งหินทรายหลายแท่งมาเรียงต่อกันเป็นกรอบประตูข้าง แต่ใช้หินใหญ่เพียงชิ้นเดียววางทับคานกรอบประตูเพื่อการถ่ายน้ำหนักครับ
.
การพังทลายของพระปรางค์ใหญ่ ทำให้หินทรายจำนวนมากตกลงเกลื่อนกลาดอยู่โดยรอบ (ถูกนำมาวางจัดเรียงไว้ที่มุมฝั่งทิศใต้ด้านหน้า) หลายก้อนยังมีร่องรอยของการสกัดแบบเขมร รูหินเพื่อการเคลื่อนย้าย แง่งมุมเข้าหิน บางก้อนมีการสลักลวดลายที่แสดงว่าเคยส่วนประกอบของตัวปราสาทมาก่อน 
.
รูปแบบของเรือนธาตุที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันกับเรือนธาตุของ “ปรางค์ศรีเทพ” และ “ปรางค์สองพี่น้อง” ที่เมืองศรีเทพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองในกลุ่มรัฐละโว้ เป็นปราสาททรง “นคระ” แบบอินเดียเหนือ เรือนยอดลดหลั่นที่เรียกว่า “ศิขระวิมาน” ที่เคยนิยมในสถาปัตยกรรมเขมรช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ 16 แผนผังเรือนธาตุเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มุมหลักเรือนธาตุใหญ่ ผนังทั้ง 4 ด้านมีมุขเพิ่มมุมยกเก็จยื่นออกมาแคบ ๆ เพียงชั้นเดียว ซ้อนด้วยซุ้มประตูมีหน้าบันสองชั้นติดแนบไปกับผนังเรือนธาตุ ซุ้มประตูหน้าจะยื่นยาวกว่าด้านอื่น ๆ เล็กน้อย ต่อชั้นเรือนธาตุขึ้นไปเป็นเชิงบาตร 5 ชั้น ซุ้มวิมานบัญชรกว้างใหญ่ อาจมีเครื่องปักประดับที่มุมเชิงบาตรแบบแท่งตรง 
.
เส้นลวดบัวเชิงผนังเรือนธาตุกับซุ้มประตูมีระดับแนวระนาบใกล้เคียงกัน (ลวดเชิงเสาตรงซุ้มประตูต่ำกว่าเล็กน้อย) เช่นเดียวกับกลุ่มลวดบัวรัดเกล้าด้านบน ที่มีชุดเส้นลวดแบบเดียวกันแต่พลิกสลับด้านขึ้นด้านบน 
.
ปราสาทศรีเทพ เป็นงานสถาปัตยกรรมและศิลปะตามความนิยมในเขตรัฐละโว้ ลุ่มน้ำป่าสัก - ลพบุรี น่าจะมีอายุการก่อสร้างอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 17 (ตามรูปแบบทางศิลปะของทับหลังที่พบจากเมืองศรีเทพ) เป็นต้นแบบปราสาททรงศิขระนคระ ที่สำคัญให้กับปราสาทวัดมหาธาตุอยุธยาครับ
.
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหลักฐานทางสถาปัตยกรรมของรูปแบบฐาน การเรียงหินทรายที่เป็นรูปแบบนิยมในยุคหลังบายน และตัวปราสาทที่ได้รับอิทธิพลมาจากปราสาทก่ออิฐในกลุ่มเมืองศรีเทพแล้ว ปราสาทหินวัดมหาธาตุจึงเป็นศาสนสถานตามรูปแบบปราสาทหินหลังแรก กลางพระนครใหม่แห่งแรกของเกาะเมืองอยุธยา “อโยธยาศรีรามเทพนคร” ในคติฮินดูแบบไวษณพนิกาย ที่ถูกสถาปนาขึ้นเร็วสุดไม่เกินช่วงปลายสุดของพุทธศตวรรษที่ 18 ( พ.ศ. 1790 – 1799) ครับ
.
ก่อนถูกแปลงเป็น “พระมหาธาตุ” ในคติพุทธศาสนาเถรวาทจากมอญ-พุกาม ด้วยการขุดใจกลางห้องครรภคฤหะลงไปบรรจุเครื่องทอง เครื่องมหัฆภัณฑ์และพระบรมสารีริกธาตุ ลงไปประดิษฐานไว้ภายในกรุด้านล่าง ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 ครับ 
.
.
*** วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2562 นี้ คณะจะเดินทางไป Study Trip ตามเส้นทาง "ขอมเจ้าพระยา" ในประเด็น "อโยธยาศรีรามเทพนคร ยุคสมัยก่อนเป็นกรุงศรีอยุธยา"
.
ท่านที่สนใจร่วมเรียนรู้แลกเปลี่ยน เดินทางด้วยตนเอง ไปพบกันได้ครับ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
.
ติดต่อ ประสานงาน คุณโบ๊ท (ไลน์ ID) 098 880 6997 จะได้ไม่หลงที่หลงทางกันครับ
.
.
.
วรณัย พงศาชลากร
EJeab Academy
เพราะทุกที่มีเรื่องราวและเรื่องเล่า

แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/welovethaihistory
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
25 VOTES (5/5 จาก 5 คน)
VOTED: zerotype, เยี่ยหัว, แสร์, PaMok, ก็ไม่เล็กนะ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"วงกลมลึกลับ" โผล่เหนือน้ำ..บางหลุมมีปลาอยู่ มันคืออะไรกันแน่ ?ยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : สื่อเขมรอ้างว่ามีการซื้อรถไฟญี่ปุ่นความเร็วสูง แต่โลกออนไลน์งง นี่มันรถไฟเก่าปลดระวางรอเอามาซ่อมใช้ใหม่นี่นา....เคลมอีกแล้ว! อ้างมั่ว "ลิซ่า" ไม่ใช่คนไทย..แต่เป็นคนเขมรเช้านี้อิสราเอลยิงขีปนาวุธ โจมตีอิหร่านแล้ววว!!นักวิทยาศาสตร์เผย? “มนุษย์ทุกคนจะมีคนที่หน้าเหมือนเราอีก 7 คน อยู่ทั่วโลก”"กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" นั่งท้ายกระบะมาคอนเสิร์ต..ทำเอาการ์ดไม่เชื่อว่าเป็นศิลปินยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : รถไฟไม้ใผ่ อีกหนึ่งของดีย์ เมืองเขมร ที่ทำเป็นเล่นไป นักท่องเที่ยวชอบอยู่เหมือนกันนะเอ้อ...12 เทพเจ้ากรีกมีใครบ้างครูไพบูลย์ เจ้าของฉายากงยูเมืองไทย โพสหยอดหวาน ลั่น "เมื่อไหร่จะได้ยกเอวเขาน้อ"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" นั่งท้ายกระบะมาคอนเสิร์ต..ทำเอาการ์ดไม่เชื่อว่าเป็นศิลปิน12 เทพเจ้ากรีกมีใครบ้างยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : สื่อเขมรอ้างว่ามีการซื้อรถไฟญี่ปุ่นความเร็วสูง แต่โลกออนไลน์งง นี่มันรถไฟเก่าปลดระวางรอเอามาซ่อมใช้ใหม่นี่นา....
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
12 เทพเจ้ากรีกมีใครบ้าง100 บาท ท้าทายชีวิตหนึ่งวันในกรุงเทพเงินเดือน 15,000 บาทจะพอไหม?memorable: น่าจดจำ ควรระลึกถึงhamper: กีดกั้น ขัดขวาง
ตั้งกระทู้ใหม่